อีกหนึ่งปัญหาของการเลือกซื้อกระเบื้อง โดยเฉพาะเจ้าของบ้านที่ต้องไปเลือกซื้อกระเบื้องเองด้วยแล้ว หากให้ช่างหรือผู้รับเหมาไปเลือกซื้อก็กลัวจะไม่ถูกใจ แต่ไปเลือกเองก็เลือกไม่ถูกกลัวซื้อผิดประเภท เจอลวดลายที่ถูกใจแต่ไม่ใช่ประเภทที่ต้องการใช้งาน แต่ตอนนี้แหล่งจำหน่ายกระเบื้องที่มีมาตรฐานเขามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของร้านช่วยแนะนำได้ครับ ไม่ต้องห่วง
แต่ทั้งนี้ ก็อย่าลืมไปว่า การมีเกร็ดความรู้เล็กๆ ติดตัวไว้ตอนไปเลือกซื้อกระเบื้องเอง ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ได้ของที่ตรงตามวัตถุประสงค์ ได้ลวดลายที่ถูกใจ ใช้งานถูกประเภท ตัดสินใจเองได้ง่ายขึ้น เริ่มจากขั้นพื้นฐานในการจำแนก กระเบื้องปูพื้น (Floor Tile) กับ กระเบื้องบุผนัง (Wall Tile) 2 ประเภทนี้ต่างกันอย่างไร ใช้แทนกันได้ไหม หรือเลือกแบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน วันนี้ช่างประจำบ้านมีข้อมูลดีๆ จากบุญถาวร มาบอกวิธีการจำแนกและใช้งานกระเบื้องทั้งสองประเภทกันครับ
การผลิตและวัตถุดิบ

ข้อแตกต่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดระหว่างกระเบื้องปูพื้นและกระเบื้องบุผนัง คือสีเนื้อด้านหลังของแผ่นกระเบื้อง ที่เป็นสีเนื้อดินธรรมชาติผสมกับวัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งไม่ถูกเคลือบสีพิมพ์ลวดลายใดๆ มีเพียงเท็กเจอร์ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยในการยึดติดเท่านั้น หากเป็นกระเบื้องปูพื้นจะมีโทนสีเนื้อดินที่เข้มกว่ากระเบื้องบุผนังอย่างเห็นได้ชัด อันมาจากส่วนผสมของวัตถุดิบที่ต้องมีความแข็งแกร่งทนแรงกดอัดได้มากกว่า อุณหภูมิการเผาที่สูงกว่าเล็กน้อย โดยกระเบื้องปูพื้นจะเผาที่อุณหภูมิ 1100 องศาส่วนกระเบื้องบุผนังจะเผาอยู่ที่ 1000 องศา ส่วนกระเบื้องบุผนังนอกจากจะมีน้ำหนักเบากว่า สีเนื้อดินแผ่นหลังที่ดูซีดจางกว่า ยังมีค่าการซึมน้ำที่สูงกว่า (15-22 เปอร์เซ็นต์) แต่กระเบื้องปูพื้นมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำถึงปานกลาง (3-6 เปอร์เซ็นต์)
ลักษณะทางกายภาพ

อีกหนึ่งจุดที่สามารถสังเกตได้อย่างชัดเจนคือน้ำหนักและความหนาของแผ่นกระเบื้อง กระเบื้องปูพื้นจะมีความหนามากว่ากระเบื้องบุผนัง หักลบประมาณ 2 มิลลิเมตร หากเปรียบเทียบความหนาของทั้งสองประเภทจะสังเกตเห็นได้ชัด กระเบื้องบุผนังจะมีน้ำหนักเบาและความหนาที่บางกว่า เพื่อลดน้ำหนักการยึดเกาะบนผนังแนวดิ่ง ในขณะเดียวกันอีกปัจจัยหนึ่งคือค่าความหยาบของผิวกระเบื้อง ที่สามารถแบ่งได้ 4 ระดับด้วยกันคือ
- หยาบมาก เหมาะสำหรับปูนอกบ้าน พื้นที่ข้างบ้าน โรงจอดรถ บริเวณที่ต้องเปียกชื้น หรือมีผู้สูงอายุใช้งาน หากสัมผัสด้วยเท้าเปล่าจะรู้สึกสากเท้าและระคายเคือง
- หยาบปานกลาง เหมาะสำหรับปูพื้นห้องน้ำ บริเวณที่ต้องเปียกชื้น สามารถเหยียบด้วยเท้าเปล่า ไม่ลื่นอันตราย
- กึ่งมันกึ่งหยาบ กระเบื้องผิวสัมผัสกึ่งมันกึ่งหยาบสามารถปูได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน อย่างบริเวณระเบียง หรือโรงจอดรถที่มีหลังคาปกคลุม ปูภายในพื้นที่ที่ไม่เปียกน้ำอย่างห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน และบุผนังได้ทุกจุดทั้งห้องครัว ห้องน้ำ
- ผิวมัน เป็นผิวกระเบื้องที่เหมาะสำหรับบุผนัง ทำความสะอาดง่าย แต่หากโดนน้ำแล้วจะเกิดความลื่น จึงไม่นิยมปูพื้นที่เปียกอย่างในห้องน้ำ ระเบียงนอกบ้าน ที่กลางแจ้งเพราะอาจจะเสี่ยงเกิดอุบัติ แต่หากใช้บุผนังสามารถใช้ได้ทุกจุด
การบุผนังตกแต่งห้องครัวและห้องน้ำ สามารถเลือกใช้กระเบื้องผิวหยาบได้ แต่ไม่แนะนำเนื่องด้วยคราบสกปรกยึดเกาะได้ง่าย จะต้องใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของบ้านด้วย หากอยากให้ห้องมีบรรยากาศดิบเท่แล้วก็สามารถเลือกได้ตามใจ
ลักษณะการใช้งาน
มาถึงตรงนี้ ย้อนกลับไปไขข้อข้องใจที่ว่า กระเบื้องทั้งสองแบบสามารถใช้แทนกันได้ไหม คำตอบคือ

กระเบื้องปูพื้น สามารถใช้งานได้ในทุกจุดตามความเหมาะสม ถึงแม้จะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ขนาดแผ่นที่ใหญ่ แต่ก็ใช้บุผนังได้ แต่ต้องเลือกวิธีการปูคือให้ปูแบบแห้งโดยใช้ปูนกาวซีเมนต์ที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพในการยึดเกาะสูงเท่านั้น และห้ามปูแบบซาลาเปาเป็นอันขาดเพื่อป้องกันปัญหากระเบื้องหลุดร่อน

กระเบื้องบุผนัง ด้วยทำมาจากวัตถุดิบที่มีน้ำหนักเบา และไม่ได้มีส่วนผสมที่ช่วยรับแรงกดทับ ทำให้กระเบื้องบุผนังไม่สามารถใช้งานในส่วนของการปูพื้นได้ หากเลือกปูพื้นจะแตกเปราะได้ง่าย บวกกับผิวที่มีความลื่นอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้เช่นกัน ดังนั้น จึงไม่ควรนำมาปูพื้นเด็ดขาด
นอกจากนี้ในเรื่องของความสวยงาม แม้จะไม่มีข้อจำกัดในเรื่องดีไซน์ แต่การเลือกลวดลายของกระเบื้องทั้งสองแบบก็ส่งผลต่อความรู้สึกภายในบ้านได้ อย่างกระเบื้องบุผนังหากเลือกสีเข้มลายเด่นทั้งห้อง ย่อมทำให้รู้สึกอึดอัดห้องไม่น่าอยู่ จึงควรเลือกใช้ลวดลายเด่นๆ แบบนี้เฉพาะในบางจุดเท่านั้น และหากอยากได้ไอเดียที่หลากหลาย ควรเลือกซื้อตามแหล่งจำหน่ายที่มีสินค้าจำนวนมาก ก็ช่วยให้มีทางเลือกที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก บุญถาวร
ดูรายละเอียดสินค้ากระเบื้องพื้น และผนังได้ที่นี่
The post กระเบื้องปูพื้นกับกระเบื้องบุผนัง ใช้แทนกันได้ไหม? appeared first on บ้านและสวน.