Quantcast
Channel: บ้านและสวน
Viewing all 9932 articles
Browse latest View live

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ร้านชาในบ้านเก่าที่เข้าถึงแก่นแท้วัฒนธรรมการดื่มชาไต้หวัน

$
0
0

ชวนดื่มชาในโรงน้ำชาสุดดิบเท่ในไต้หวัน Zhao Zhao Tea Lounge ที่จะพาคุณเข้าใกล้แก่นเเท้ของวัฒนธรรมการดื่มชาและธรรมชาติอย่างแท้จริง

Zhao Zhao Tea Lounge คือร้านชาในบ้านเก่าอายุกว่า 40 ปี ซึ่งตั้งอยู่ในซอยและหันหน้าตึกไปทางทิศใต้ ที่นี่เป็นร้านชาเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาโดยที่เจ้าของมีประสบการณ์เกี่ยวกับชามากว่า 30 เรียกว่าตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก จึงต้องการส่งต่อชาไต้หวันชั้นเยี่ยมให้กับบุคคลทั่วไปได้รู้จัก นำไปสู่การรีโนเวตตึกแถวนี้เพื่อรังสรรค์สเปซที่เอื้อและเชื้อเชิญให้ผู้คนสนใจ เข้ามาทำความรู้จักกับรากเหง้าของชาให้มากยิ่งขึ้น

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

ผู้ออกแบบจาก SOAR DESIGN ที่เข้ามารับหน้าที่ในการสานฝัน จึงเลือกวางพื้นที่คั่วชาไว้ที่ชั้นล่าง เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ามาได้กลิ่นอันหอมหวลของชาและถ่านไม้เป็นอันดับแรก ก่อนที่จะหลงเสน่ห์ไปกับการดูวิธีชงชาขั้นสูงบริเวณเคาน์เตอร์ในพื้นที่ถัดไป และเพื่อเป็นการดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นหนึ่งในประสาทสัมผัสจึงทำการเปิดช่องเปิดข้างหน้าและหลังร้าน แล้วแทนที่ด้วยพื้นที่สีเขียว เสริมให้การชงชากลายเป็นกิจกรรมที่เปิดรับประสามสัมผัสทั้ง 5 อย่างครบถ้วน

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

ในส่วนของงานรีโนเวตภายในออกแบบภายใต้แนวคิด “การเปลี่ยนแปลง” เพื่อนำเสนอประสบการณ์ของไร่ชาบนที่สูง ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงหมอก เมฆ แสงและเงา กลิ่นดอกไม้แสนบริสุทธิ์ ลูกค้าที่มามักมาเพื่อแสวงหาความสงบของจิตใจและเติมเต็มความรู้สึก

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

เพื่อเปิดเปลือยเนื้อแท้ของวัสดุและสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ ผนังจึงใช้ฝีมือช่างในการขัดเงา แกะสลัก และกระเทาะผนังเก่าเพื่อเลียนแบบผนังคอนกรีตที่แตกและเกิดร่องรอยแห่งกาลเวลา ประกอบกับแสงธรรมชาติและอากาศที่ไหลผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ผ่านเท็กซ์เจอร์อันหลากหลายเพื่อแสดงอารมณ์ ความรู้สึกของ “การเปลี่ยนแปลง” ไปตามธรรมชาติ

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

จากความตั้งใจให้สเปซที่เกิดขึ้นเอื้อต่อการดื่มชาอย่างสบายใจ ไร้กังวล และโฟกัสไปที่ชา จึงเน้นการตกแต่งแบบเรียบง่าย ไร้การปรุงเเต่ง เพื่อลดความสำคัญของพื้นที่ลง บรรยากาศภายในจึงแต่งแบบอ่อนน้อมถ่อมตน วัสดุที่ใช้เลือกที่สอดคล้องกับไอเดียที่ว่า “การดื่มชาในรูปแบบที่แตกต่าง แต่ยังต้องคงความสงบไว้”

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

ความโปร่งเป็นอีกหนึ่งคีย์ของโปรเจ็กต์นี้ โดยเลือกกรุกระจกบานใหญ่และโถงสูงเพื่อดึงแสงธรรมชาติและช่วยในการหมุนเวียนอากาศ ผู้ออกแบบเลือกใช้วัสดุโปร่งใสในหลายระดับเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่ เช่น เลเซอร์คัตบอร์ด กระจก และผ้าม่าน รวมไปถึงการทุบบันไดคอนกรีตเดิมที่บล็อกแสงธรรมชาติมาเป็นบันไดวนกลางร้านแทน

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

สำหรับพื้นที่เอ๊าต์ดอร์เลือกใช้ไม้เผาผิวหรือ yakisugi มาสื่อถึงการเผา ซึ่งการเผาช่วยให้เรานึกถึงความร้อนหรือธาตุไฟที่ใช้ในการชงชา ซึ่งไม้เผาผิวนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในสถาปัตยกรรมตะวันออก ความแห้งของผิวไม้จึงเหมาะแก่การนำเสนอและเสริมบรรยากาศภายในห้องชาได้เป็นอย่างดี

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ZHAO ZHAO TEA LOUNGE

เพราะวัฒนธรรมการดื่มชา นับเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนไต้หวันก็ว่าได้ ชาจึงเป็นตัวแทนของความสงบและการรวมตัวของผู้คน โรงน้ำชาแห่งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ชวนให้ผู้ได้สัมผัสถึงธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่มาและเนื้อแท้ของชานั่นเอง

ZHAO ZHAO TEA LOUNGE Zhao Zhao Tea Lounge

ออกแบบ: SOAR Design 合風蒼飛設計 + 張育睿建築師事務所
ภาพ: Hey! Cheese
เรียบเรียง: BRL

The post ZHAO ZHAO TEA LOUNGE ร้านชาในบ้านเก่าที่เข้าถึงแก่นแท้วัฒนธรรมการดื่มชาไต้หวัน appeared first on บ้านและสวน.


บ้านกึ่งสตูดิโอที่หันหน้าไปคนละทิศ แต่หันข้างแนบชิดเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว

$
0
0

บ้านไม้ กึ่งสตูดิโอ ที่พร้อมปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น

บ้านญี่ปุ่นที่ออกแบบวิถีชีวิตไปพร้อม ๆ กับการออกแบบบ้าน โดย บ้านไม้ หลังนี้เปรียบเสมือนพื้นที่ยืดหยุ่น ที่บางครั้งก็ถูกปรับไปเป็นสตูดิโอจัดงานศิลปะ ผู้ออกแบบจาก Maki Yoshimura Architecture Office จึงเริ่มจากการวางไดอะเเกรมแบบง่าย ๆ ด้วยแกน 2 แกน ต่อด้วยแบบร่างอย่างโครงคร่าวเพื่อจัดวางความสัมพันธ์ของการใช้งานต่าง ๆ แต่เมื่อทำการพัฒนาแบบไปเรื่อย ๆ โครงที่เคยวางไว้อาจถูกขยับปรับเปลี่ยนทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดของพื้นที่จริง

บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล

การออกแบบเริ่มต้นจากการวางแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือส่วนของพื้นที่อยู่อาศัยและส่วนของสตูดิโอ นำไปสู่อาคารขนาดสองหลังในรูปแบบของอาคารทรงจั่วที่เชื่อมต่อกัน ทว่าหันหน้าไปคนละทิศ เกิดเป็นความสัมพันธ์ของพื้นที่ภายในอาคารด้วยกันเอง และความสัมพันธ์กับบริบทโดยรอบ

บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล

บางครั้งบ้านหลังนี้ก็ดูเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ที่ปรับมาเป็นสตูดิโอศิลปะ “ARTIMEET” ที่จะมีกิจกรรมและเนื้อหาเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งมีผลต่อเนื่องไปกับพื้นที่อยู่อาศัยเช่นเดียวกัน เมื่อพื้นที่ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน พื้นที่รอยต่อตรงกลางจึงกลายเป็นจุดเชื่อมและเปลี่ยนถ่ายด้วยแพนทรี่ขนาดย่อม ที่ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว

ขณะที่ฝั่งของสตูอิโอได้รับการออกแบบเป็นห้องโถงแบบปิดที่มีขนาดเท่ากับพื้นที่เสื่อทาทามิ 8 ผืน ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่เวิร์กชอปสำหรับพ่อแม่ลูกจำนวน 10 คนได้ รองรับแขกคนสนิทให้สามารถเดินไปยังส่วนแพนทรี่ได้อย่างอิสระเพราะได้มีการออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวในส่วนของที่พักอาศัยไว้แล้ว

บ้านกึ่งสตูดิโอที่หันหน้าไปคนละทิศ แต่หันข้างแนบชิดเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล

สุดท้ายแล้วไดอะแกรมที่ถูกวางไว้ กลับถูกปรับและเปลี่ยนให้สอดคล้องกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นมากกว่าการยึดติดรูปแบบเดิม ๆ เพื่อให้ฟังก์ชันของการอยู่อาศัยที่เป็นพื้นที่ไพรเวตและฟังก์ชันของสตูดิโอที่เป็นพับลิกอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล

บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล บ้านไม้ บ้านญี่ปุ่น บ้านมินิมัล

ออกแบบ: Maki Yoshimura Architecture Office (MYAO)
ออกแบบโครงสร้าง: RDM Takushi Nakayama + Midori Kanayama

ภาพ: Hiroshi Tanigawa
เรียบเรียง: BRL

The post บ้านกึ่งสตูดิโอที่หันหน้าไปคนละทิศ แต่หันข้างแนบชิดเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว appeared first on บ้านและสวน.

10 ไม้มงคลเรียกทรัพย์ ปลูกแล้วรวย ส่งเสริมเงินทอง

$
0
0

เตรียมตัวรับทรัพย์ต้อนรับปีใหม่ด้วย 10 ไม้มงคลเรียกทรัพย์ ปลูกแล้วปัง มีตังค์เหลือใช้

ไม้มงคลเรียกทรัพย์
วันนี้บ้านและสวนจะมาแนะนำไม้มงคลที่ช่วยส่งเสริมในเรื่องของเงินทอง ซึ่งต้นไม้เหล่านี้ล้วนเป็นไม้มงคลที่มีความเชื่อมาเนิ่นนานแล้วว่าถ้าปลูกไว้ที่บ้านจะทำให้ค้าขายร่ำรวย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ที่ปลูกก็ต้องทำงานหาเงินกันด้วยนะคะ นอนอยู่เฉยๆ ต้นไม้ไม่ช่วยให้รวยแน่ๆ ส่วนถ้าใครที่ไม่ได้มีความเชื่อเรื่องพวกนี้ก็คิดว่าปลูกไว้ประดับบ้านสวยๆ ชื่อเป็นมงคลความหมายดีก็เพียงพอแล้วแหละค่ะ 
 
 

เศรษฐีพันล้าน

เป็นไม้อวบน้ำที่ขยายพันธุ์ง่ายจึงเป็นพืชที่พบได้ทั่วไป เชื่อกันว่า ถ้าปลูกไว้จะร่ำรวย ทำมาค้าขึ้น

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138058.html

ไม้มงคลเรียกทรัพย์

รวยไม่เลิก

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี ทุกส่วนอวบน้ำ ลำต้นใต้ดินเป็นหัวคล้ายหัวหอม เหมาะปลูกเป็นไม้กระถาง มีความเชื่อว่าจะนำความร่ำรวยมาสู่ผู้ปลูก

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138086.html

ไม้มงคลเรียกทรัพย์

เงินไหลมา

ไม้เลื้อยใบลายสวยงาม นิยมปลูกในแจกันเพื่อประดับตกแต่งห้องได้ เชื่อว่าผู้ใดปลูกเลี้ยงจะร่ำรวย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138126.html

ไม้มงคลเรียกทรัพย์

เศรษฐีกอดทรัพย์

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี คาดว่ากลายพันธุ์มาจากชุนเช่า  เป็นไม้เสี่ยงทายที่เชื่อกันว่า หากปลูกแล้วใบม้วนเป็นหลอดจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและร่ำรวย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138064.html

เศรษฐีน้ำเต้าทอง

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวแบบหัวหอม เชื่อกันว่าหากใครปลูกเลี้ยงจะทำให้ค้าขายดี มีเงินทองมากมาย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138062.html

เต่านำโชค

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย เป็นไม้มงคลที่เชื่อว่าจะบันดาลโชคลาภ และหากพกติดตัวจะเกิดเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138122.html

บารมี

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี สามารถปลูกเป็นไม้กระถาง หรือลงแปลงประดับสวนในบริเวณที่มีแสงรำไรหรือใต้ร่มไม้ เป็นไม้มงคลที่เชื่อกันว่า หากใครปลูกจะมีบารมี เจริญรุ่งเรือง

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138110.html

ทับทิมเศรษฐี

ไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีความเชื่อกันว่าปลูกแล้วจะร่ำรวย มีเงินทองเหลือใช้

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138114.html

ว่านถุงเงินถุงทอง

เป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ทำให้ค้าขายดี เก็บเงินเก็บทองได้มาก

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/137472.html

ว่านรางเงิน

มีความเชื่อกันว่าหากใครปลูกไว้หน้าบ้านจะทำให้ค้าขายดี แถมว่านชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.baanlaesuan.com/plants/perennial/138070.html


เรื่อง: Tatsareeya S.
คลังภาพบ้านและสวน

ไม้มงคลเรียกทรัพย์

l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l l 

The post 10 ไม้มงคลเรียกทรัพย์ ปลูกแล้วรวย ส่งเสริมเงินทอง appeared first on บ้านและสวน.

สำนักงานของ DROOMPARKEN ในเนเธอร์แลนด์ ที่มีขนาดเพียง 2.2 x 2.75 เมตร

$
0
0

ตามมาดู สำนักงานขนาดเล็ก ในเนเธอแลนด์ ที่มีขนาดเพียง 2.2 x 2.75 เมตร ว่าเขาใช้ทำงานสร้างสรรค์กันอย่างไร

สำนักงานขนาดเล็ก กะทัดรัดของ Droomparken ซึ่งตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะในประเทศเนเธอร์เเลนด์ ซึ่งพิสูจน์ให้รู้ว่าแม้มีพื้นที่ไม่มากคุณก็สามารถมีออฟฟิศสำหรับทำงานสร้างสรรค์ของตัวเองได้

สำนักงานขนาดเล็กสำนักงานขนาดเล็ก

โดยคอนเซ็ปต์ของงานนี้เป็นการทดลองออกแบบ สำนักงานขนาดเล็ก สำหรับกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ของอนาคต ซึ่งคุณสามารถแสดงและรังสรรค์พื้นที่ใหม่ เพื่อดึงคุณออกจากกรอบเดิม ๆ ที่เคยเป็นอยู่

สำนักงานขนาดเล็ก

และด้วยโลเกชั่นกลางสวนเขียวชอุ่ม ทำให้คุณได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติและมีสมาธิโฟกัสกับงาน ทั้งยังกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะมาทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์ร่วมกับผู้อื่น หรือทำงานเพียงลำพัง

ตัวสำนักงานขนาดเล็กจึงได้รับการออกแบบให้กระจายตัวไปตามจุดต่าง ๆ ของสวนสาธารณะ เพื่อรองรับคนทำงานที่ฝันจะมีที่ทำงานคนเดียวท่ามกลางธรรมชาติโดยไม่ถูกรบกวน

สำนักงานขนาดเล็ก

ตัวสถาปัตยกรรมออกแบบเป็นอาคารทรงกล่องขนาดเล็กสุดเรียบง่าย กรุกระจกตลอดแนวความสูงเพื่อช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ภายใน เอื้อให้เกิดแรงบันดาลใจขณะทำงาน ตัวผนังเป็นอะคูสติกวอลล์ที่ช่วยขจัดเสียงรบกวน และยังทำหน้าที่เป็นพินบอร์ดสำหรับติดงานและสเก็ตช์งานไปในตัว

สำนักงานขนาดเล็ก

นอกจากพื้นที่ทำงานแล้ว ยังควบรวมพื้นที่พักผ่อนให้ได้เอนหลังระหว่างพักสมอง ซึ่งความยืดหยุ่นอย่างอิสระนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างสรรค์ที่ดี

สำนักงานขนาดเล็ก

ตัววัสดุด้านนอกกรุด้วยแผ่นอะลูมิเนียมลอนลูกฟูก ทั้งในส่วนของผนังและหลังคา ดูกลมกลืนไปกับบริบทโดยรอบ แต่ก็ยังดูโดดเด่นท่ามกลางสภาพแวดล้อม ขณะที่พื้นที่ภายในได้เลือกโทนสีที่เอื้อต่อการทำงานและสร้างสมาธิได้เป็นอย่างดี

สำนักงานขนาดเล็ก สำนักงานขนาดเล็ก

ออกแบบ: Chris Collaris
ตกแต่งภายใน: Dutch Invertuals
โปรดักต์ชั่น: Samen Sterker
แคมเปญวิชวล: Architects of Identity (Edhv studio)

ภาพ: Ronald Smits
เรียบเรียง: BRL

The post สำนักงานของ DROOMPARKEN ในเนเธอร์แลนด์ ที่มีขนาดเพียง 2.2 x 2.75 เมตร appeared first on บ้านและสวน.

บ้านปูนเปลือยปิดทึบของคู่รักที่มีวิวส่วนตัวจากภายในบ้าน

$
0
0

บ้านปูนเปลือย ปิดทึบของคู่รักที่มีวิวส่วนตัวจากภายในบ้าน

บ้านปูนเปลือย หลังนี้ตั้งอยู่ในย่านอาศัยเก่าแก่อย่างเมืองนากาคูเตะ ซึ่งตั้งอยู่ถัดออกไปจากเมืองนาโกย่า

บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย

นี่คือบ้านที่ผู้ออกแบบได้รับโจทย์จากเจ้าของบ้านซึ่งเป็นคู่รัก ว่าอยากได้บ้านโมเดิร์นในรูปแบบของคอนกรีตเปลือย

บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือยบ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย

รูปลักษณ์ภายนอกจึงดูเหมือนกล่องปูนสี่เหลี่ยมดิบกระด้าง ที่หน้าบ้านแทบไม่มีช่องเปิดใด ๆ ให้เห็นเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว แล้วค่อยทำการเปิดช่องแสงขนาดใหญ่จากภายในซึ่งเป็นฝั่งทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติ ระบายอากาศ ทั้งยังกลายเป็นวิวส่วนตัวของบ้าน

บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย

เพิ่มมิติพร้อมปรับเปลี่ยนอารมณ์ความดิบแข็งของวัสดุปูนเปลือยเมื่อมาถึงด้วยการยืดระยะโถงทางเดินจากทางเข้าถึงห้องนั่งเล่น ก่อนจะพบกับการตกแต่งภายในที่เลือกใช้ไม้โอ๊กขาว ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นเหมาะกับคู่รัก และลดความแข็งกระด้างของคอนกรีตลงได้เป็นอย่างดี

บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือยบ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือยบ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย บ้านปูน บ้านปูนเปลือย บ้านคอนกรีตหล่อ บ้านคอนกรีตเปลือย

ออกแบบ: Tomoaki Uno Architects
ภาพ: Hiroshi Tanigawa
เรียบเรียง: BRL

The post บ้านปูนเปลือยปิดทึบของคู่รักที่มีวิวส่วนตัวจากภายในบ้าน appeared first on บ้านและสวน.

บ้านที่หายใจได้รอบทิศด้วยวัสดุอิฐและประตูบานสไลด์

$
0
0

บ้านอิฐ ในอินโดนีเซีย ที่พึ่งพาพลังงานจากธรรมชาติ ผ่านการใช้วัสดุท้องถิ่น และเทคนิคการก่อที่เอื้อต่อการหมุนเวียนของอากาศ และลดความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน

เมื่อความทรงจำในวัยเยาว์ของเจ้าของบ้านที่เคยอาศัยอยู่ที่เกาะชวา คือการอาศัยอยู่ในบ้านที่มีวัสดุหลักเป็น “อิฐ” ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นและอ่อนน้อมถ่อมตน เมื่อตัดสินใจมาสร้าง บ้านอิฐ หลังใหม่ จึงนำมาใช้เป็นโจทย์หลักให้กับทีมสถาปนิกจาก DELUTION

บ้านอิฐ

นอกจากอิฐจะเป็นตัวแทนของความแข็งแรงและสร้างความดึงดูดใจให้กับผู้พบเห็นแล้ว ยังเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างสถาปัตยกรรมสีเขียว เพราะมีส่วนช่วยในการระบายอากาศและดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายใน

บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ

บ้านหลังนี้มีสวนมากถึง 4 จุด ประกอบไปด้วยสวนหน้าบ้าน สวนส่วนตัว สวนบนระเบียงชั้นสอง และสวนคอร์ตยาร์ด โดยสวนหน้าบ้านตั้งอยู่ติดกับห้องแฟมิลี่ที่เชื่อมต่อโดยง่ายด้วยการเปิด-ปิดประตูบานสไลด์ เอื้อให้เกิดการถ่ายเทอากาศทั่วทั้งบริเวณชั้น 1

บ้านอิฐ

สวนส่วนตัว พื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในครอบครัวที่สามารถมองเห็นได้จากห้องของตัวเองพร้อมกับบ่อปลาสุดสดชื่น ถัดมาในส่วนของสวนระเบียงที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในด้วยประตูสไลด์เช่นเดียวกับชั้นล่าง ทำหน้าช่วยในการไหลเวียนอากาศ ทั้งยังกรองความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรง

บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ

ในส่วนของการวางผัง เลือกวางผังแบบโอเพ่นแปลน สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนที่ในครอบครัวที่มักใช้เวลาร่วมกันเป็นประจำ เกิดเป็นบรรยากาศแสนอบอุ่น และยังเสิรมการระบายอากาศภายในกับภายนอกโดยไม่มีผนัง หรือโครงสร้าง มากีดขวางการถ่ายของลมที่จะผ่านเข้ามาทางประตูกระจกบานสไลด์รอบ ๆ บ้าน

บ้านอิฐ

สำหรับบ่อปลาไม่ได้ออกแบบไว้เพียงเพื่อความสวยงาม แต่ยังทำหน้าที่ลดการสะท้อนของแสงอาทิตย์ก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน และยังช่วยเพิ่มความเย็นยามลดพัดผ่านไอน้ำเข้ามา

บ้านอิฐ

ด้วยแนวคิดและการออกแบบดังกล่าว จึงเรียกได้ว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ตัวอย่างที่ดีอีกหลังหนึ่งก็ว่าได้ เพราะถูกคิดให้ช่วยลดการใช้พลังงานและพึ่งพาพลังงานจากธรรมชาติแทน ผ่านการใช้วัสดุอย่างอิฐ และเทคนิคต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการหมุนเวียนของอากาศ และลดความร้อนก่อนจะเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างเป็นรูปธรรม

Plan, Section, and Elevation

บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ บ้านอิฐ
ออกแบบ: DELUTION
ภาพ: Fernando Gomulya
เรียบเรียง: Woofverine

The post บ้านที่หายใจได้รอบทิศด้วยวัสดุอิฐและประตูบานสไลด์ appeared first on บ้านและสวน.

CORNER 60’S เปลี่ยนตึกแถวเก่าในไต้หวัน เป็นคาเฟ่และห้องเรียนสำหรับชุมชน

$
0
0

Corner 60’s โปรเจ็กต์รีโนเวตตึกแถวเก่าแบบดั้งเดิมของไต้หวัน เพื่อคงเอกลักษณ์และสุนทรียภาพแบบดั้งเดิมไว้

Corner 60’s ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมในชุมชนที่ค่อนข้างเงียบ ทีมสถาปนิกจาก Soar Design Studio พยายามเก็บของเก่าไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องเก่า วัสดุหินปิดผิว และเหล็กดัดหน้าต่างซึ่งสื่อให้เห็นถึงกาลเวลาและยุคสมัย

Corner 60’s Corner 60’s

เจ้าของตึกนี้เป็นอาจารย์ผู้หลงรักในตึกเก่าและมีความกระตือรือร้นในการสอน จึงหวังให้ที่นี่เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เกิดเป็นไอเดียออกแบบพื้นที่เชิงทดลองในรูปแบบของคาเฟ่ ที่ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชน

Corner 60’s Corner 60’s

ทีมออกแบบเริ่มจากมองภาพตึกแถวนี้ให้เหมือนห้องแล็บขนาดเล็กสำหรับการทดลองวิทยาศาสตร์ของเด็ก ควบคู่ไปกับการเป็นพื้นที่คาเฟ่ของคนในชุมชน โดยเก็บเอกลักษณ์ของตึกแถวแบบเก่าไว้ และทำการปรับปรุงข้อจำกัดของของตึกแถวที่มักมีความมืดทึบ แสงสว่างเข้าไม่ถึง และการระบายอากาศที่ไม่ดี

Corner 60’s Corner 60’s

ปัญหาดังกล่าวถูกแก้ไขด้วยการใช้วัสดุจำพวกกระจกและตะแกรง รวมถึงการเจาะพื้นบางส่วน เกิดเป็นพื้นที่ดับเบิ้ลสเปซที่ช่วยในการดึงแสงธรรมชาติ แล้วแทนที่ด้วยไม้เขตร้อนชื้นไว้ในพื้นที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์นั้น ร่วมด้วยการจัดพื้นที่แบบโอเพ่นแปลนและทางเดินเชื่อมบริเวณชั้นสองแบบโปร่ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาอากาศร้อนชื้นของตึกแถวในเขตเมืองได้เป็นอย่างดี

Corner 60’sCorner 60’s Corner 60’s Corner 60’s Corner 60’sCorner 60’s

ออกแบบ: SOAR Design 合風蒼飛設計 + 張育睿建築師事務所
ภาพ: Hey!Cheese
เรียบเรียง: BRL

The post CORNER 60’S เปลี่ยนตึกแถวเก่าในไต้หวัน เป็นคาเฟ่และห้องเรียนสำหรับชุมชน appeared first on บ้านและสวน.

บ้านไม้ชั้นเดียว เกี่ยวหัวใจให้ผ่อนคลาย

$
0
0

บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงแสนสงบที่แทรกตัวอยู่กลางธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำนครนายกหลังนี้ เป็นที่พักกายพักใจจากชีวิตวุ่นวายในเมืองหลวง จะมีก็เพียงเสียงของธรรมชาติและสายน้ำที่อยู่เบื้องหน้าเท่านั้นที่เห็นเมื่อไรก็ชวนให้หัวใจรู้สึกสดชื่นรื่นรมย์อยู่เสมอ

บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง

เจ้าของ – ออกแบบ : คุณหนุ่ม  บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง

บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง
แบ่งเป็นเรือนไม้สองหลังเพื่อให้บ้านดูโปร่งและสัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ทั้งสองหลังสามารถมองเห็นกันได้จากส่วนระเบียงทางเดินและริมน้ำ
ห้องนอน
ห้องนอนของเจ้าของบ้านในเรือนหลังแรก ออกแบบผนังด้านที่ติดริมน้ำเป็นกระจกบานกระทุ้งทั้งผืนเพื่อรับวิวและลมจากแม่น้ำ ตกแต่งห้องอย่างเรียบง่าย มีมุ้งกางกันยุงแทนการติดมุ้งลวดรอบบ้าน เพื่อไม่ให้บังวิวธรรมชาติอันงดงาม
ระเบียงไม้ บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง
ระเบียงนั่งเล่นที่ติดกับห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเอกเขนกอ่านหนังสือ ทำที่นั่งไม้สูง 45 เซนติเมตร เป็นตัวแอล (L) เข้ามุมที่ระเบียง เพื่อปรับเปลี่ยนมุมนั่งเล่นได้ตามใจชอบ

บางครั้งเมื่อเราเบื่อชีวิตในเมือง การได้ออกมาใช้ชีวิตในต่างจังหวัดที่ไม่มีทั้งทีวี วิทยุ หรือโทรศัพท์ อาจช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและสามารถเติมเชื้อไฟให้คุณกลับมามีแรงลุยงานใหม่ได้อีกครั้ง

คุณหนุ่ม เจ้าของบ้านไม้แห่งนี้ มีความคิดว่าอยากมีบ้านริมน้ำมานานแล้ว จนวันหนึ่งมีโอกาสได้มาพบที่ดินที่เขาต้องการ ซึ่งบางคนไม่แน่ใจว่าจะนำมาสร้างบ้านดีหรือไม่ เพราะมีที่ดินติดกับวัด ตั้งห่างจากถนนหลักร่วมกิโล แถมถนนทางเข้ายังเป็นฝุ่นดินลูกรังอีกต่างหาก แต่เมื่อมาเห็นบรรยากาศริมน้ำที่ร่มเย็นและอัธยาศัยไมตรีที่น่ารักของเพื่อนบ้าน ทำให้เขาตัดสินใจซื้อที่ดินผืนนี้และเริ่มสร้างบ้านในฝันทันที

บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตารางเมตร วางแปลนแบ่งออกเป็นสองส่วน มีระเบียงรอบๆบ้านเพื่อความใกล้ชิดธรรมชาติเรือนหลังแรกใช้เป็นบ้านพักส่วนตัวสำหรับพักผ่อนและใช้เวลาว่างอ่านหนังสือเงียบๆ ส่วนอีกหลังใช้เป็นที่รับรองแขกผู้มาเยือน ต่อเนื่องกับระเบียงกว้างยื่นสู่แม่น้ำใช้เป็นที่สังสรรค์ยามค่ำคืน

ระเบียงไม้
ระเบียงไม้ทำราวกันตกเตี้ยๆสำหรับเป็นม้านั่งในตัวและเพื่อไม่ให้บดบังวิวแม่น้ำ ทำให้ใกล้ชิดธรรมชาติได้ดีทีเดียว เหมาะเป็นมุมจิบกาแฟยามเช้าหรือนั่งสังสรรค์ตอนเย็นได้สบายๆ
ระเบียงไม้
ระเบียงกว้างส่วนเรือนรับรองแขกเปิดโล่งรับวิวแม่น้ำและธรรมชาติโดยรอบ
ระเบียงไม้ ระเบียงทางเดิน บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง
ระเบียงทางเดินไม้กว้าง 1.50 เมตร ปูพื้นไม้เว้นร่อง 5 มิลลิเมตร ด้านหนึ่งวางชั้นไม้และของเก่าตกแต่ง ทำราวกันตกเตี้ยๆสูงประมาณ 45 เซนติเมตร สำหรับนั่งเล่นได้ในตัวตลอดแนว
บานเฟี้ยม
ทางเข้าเรือนหลังที่สองสำหรับรับรองแขก ผนังด้านหนึ่งเป็นบานเฟี้ยมบ้านไทยโบราณที่มีลวดลายสวยงาม พร้อมช่องลมแกะสลักด้านบนเพื่อระบายความร้อน ทั้งหมดนี้สวยลงตัวโดยไม่ต้องหาของประดับเพิ่มเติมเลย
หน้าต่างบานกระทุ้ง
ด้านในเรือนรับรองติดตั้งหน้าต่างโบราณที่สามารถเปิดเป็นบานกระทุ้งและบานสะวิงได้ในตัว ทำให้เลือกใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะรับแสงหรือรับลม ภายในตกแต่งด้วยของเก่าที่ซื้อจากตลาดในหมู่บ้านที่ชาวบ้านนำมาขาย

ออกแบบบ้านให้ยกพื้นสูงประมาณ 1-2 เมตร โดยไล่ระดับจากถนนทางเข้ามาจนถึงริมตลิ่ง เพื่อป้องกันน้ำท่วมในช่วงหน้าน้ำและเพื่อคงสภาพดินตามธรรมชาติไว้ เรือนไม้ทั้งสองหลังนั้นซื้อต่อมาจากบ้านเก่าที่กำลังรื้อทิ้งแล้วขนส่งนำชิ้นส่วนมาประกอบตกแต่งใหม่ตามความต้องการและเงื่อนไขของโครงสร้างเดิม โดยไม่ได้ตกแต่งผิวไม้เลยทำให้ได้บ้านที่มีบรรยากาศย้อนยุคพร้อมผิวสัมผัสอบอุ่นของไม้เก่าในสภาพเดิมจริงๆ

ห้องนอนไม้

ห้องนอน
ห้องนอนแขกสร้างแพตเทิร์นที่ผนังด้านหนึ่งโดยผสมวัสดุระแนงไม้และเหล็กเส้นทำลวดลายเส้นตั้งและเส้นนอน สร้างลูกเล่นให้ห้องดูน่าสนใจ

ภายในบ้าน คุณหนุ่มตกแต่งด้วยของเก่าที่หาซื้อได้ในตลาดละแวกบ้าน และใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ดูเรียบง่ายผสมผสานกับวัสดุธรรมชาติและวัสดุเหลือใช้ที่ได้จากงานรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานที่คุณหนุ่มเคยทำมาก่อน เมื่อนำทั้งหมดมาบวกเข้ากับไอเดียสนุกๆก็สามารถสร้างสรรค์พื้นที่เฉพาะตัว อย่างห้องครัวเรือนไม้ ห้องน้ำเปิดโล่ง หรือของตกแต่งอย่างโคมไฟประดิษฐ์ ที่ทั้งหมดล้วนสวยงามแปลกตา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสมถะแบบชาวบ้าน ทำให้บ้านดูร่มรื่นเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร มองไปมุมไหนก็ดูผ่อนคลายสบายตา

ครัวไทย
ห้องครัวไทยที่มีหน้าต่างบานกว้างเพื่อระบายกลิ่น ใช้โครงคร่าวผนังไม้เป็นชั้นสำหรับวางเครื่องปรุงในตัว และใช้ไม้ในองค์ประกอบทุกส่วนเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศของบ้านไทย ไม่ว่าจะเป็นที่วางเตา ฐานอ่างล้างจาน และโต๊ะเตรียมอาหาร แต่สำหรับครัวที่ใช้งานเป็นประจำไม่ควรมีไม้ไว้ใกล้เตาไฟมากนัก เพราะอาจเกิดเพลิงไหม้ได้
ห้องน้ำ
ห้องน้ำแบบเปิดโล่ง แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยการกั้นผนังอิฐบล็อกโปร่งๆที่เจ้าของบ้านออกแบบขึ้นมาเอง อ่างอาบน้ำกรุไม้รอบด้านเพื่อให้เข้ากับบ้านไม้ สร้างสีสันด้วยผนังปูนสีเหลืองสูง 1 เมตรที่ด้านหลัง
ห้องอาบน้ำ
ส่วนฝักบัวอาบน้ำ ด้านล่างทำผนังปูนสูง 1 เมตร ด้านบนต่อเป็นผนังไม้ไผ่แบบธรรมชาติ ทำโครงหลังคาแบบโปร่งเพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนและใช้ติดตั้งดวงโคมส่องสว่างในห้องน้ำ
บ้านไม้
มุมหนึ่งในบ้านที่ให้ความรู้วึกเหมือนอยู่ในบ้านย้อนยุค เพราะเต็มไปด้วยของเก่าที่สะสมไว้อย่างทีวี พัดลม กล้องถ่ายรูป และของเล่นต่างๆ ทำหน้าต่างเชื่อมต่อไปยังส่วนหลังบ้าน เพื่อความต่อเนื่องและระบายลมให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น

เห็นแล้วคงทำให้หลายๆคนอยากทำบ้านในฝันของตัวเองให้เป็นจริงบ้างเหมือนกันใช่ไหม


เรื่อง : กรวรรณ คันโธ

ภาพ: จิระศักดิ์,ดำรง

สไตล์: ประไพวดี

บ้านไม้หลังเล็กริมสระบัว ได้อารมณ์บ้านต่างจังหวัด ทั้งที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ

ชีวิตธรรมดาในบ้านไม้ใต้ถุนสูง

10 แบบบ้านไม้หลังเล็ก ขนาดกำลังพอดีกับใจ โอบกอดด้วยธรรมชาติ

The post บ้านไม้ชั้นเดียว เกี่ยวหัวใจให้ผ่อนคลาย appeared first on บ้านและสวน.


5 แบบบ้านปูนเปลือยชั้นเดียว สำหรับเป็นไอเดียในการสร้างบ้านในต่างจังหวัด

$
0
0

นอกจากความสวยเท่ที่โชว์พื้นผิวของวัสดุแบบดิบๆแล้ว เสน่ห์ของ “บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว” ยังอยู่ที่การดูแลรักษาง่าย ช่างไทยมีความชำนาญในการก่อสร้าง ภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงเกินเอื้อม เรามี 5 ตัวอย่างบ้านปูนเปลือยชั้นเดียวที่มีบริทความเป็นธรรมชาติของบ้านต่างจังหวัด ซึ่งดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ยังมีความเก๋ไก๋แฝงอยู่มาฝากกัน ดังนี้

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว

1.บ้านปูนเปลือยชั้นเดียวสร้างง่าย โอบล้อมด้วยนาข้าวและขุนเขา

เจ้าของ-ออกแบบตกแต่ง: คุณสุกัญญา โชติสุกานต์

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียวซุ้มไม้เลื้อย

ห้องรับแขก สวนแนวตั้งในห้องน้ำ


2.บ้านน้อยบนดอยที่มีวิวภูเขาโอบล้อม 360 องศา

เจ้าของ-ออกแบบ : คุณณชนก เสียมไหม

บ้านปูนเปลือยหลังคาสูง พิเศษตรงที่มีระเบียงนั่งเล่นตามมุมต่างๆเพื่อชมวิว บ้านหลังนี้สร้างตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุด จึงมักเป็นมุมโปรดปรานของเจ้าของบ้าน ภายในเปิดโล่ง มีชั้นลอยเล็กๆ สำหรับเป็นห้องนอนรับรองแขก ชั้นล่างกั้นส่วนเล็กๆเป็นส่วนเตรียมอาหาร บาร์สำหรับชงกาแฟสดหอมๆ พร้อมมุมนั่งจิบกาแฟเล็กๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแบบมีชิ้นเดียวในโลก ของประดับตกแต่งต่างๆเน้นของทำมือ  >> อ่านต่อ 

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว ประตูไม้ บ้านปูนเปลือย ครัวไทย


3.บ้านปูนเปลือยชั้นเดียวของช่างไม้ ที่ปลูกแทรกไปกับพืชพรรณรอบบ้านอย่างลงตัว

เจ้าของ – ออกแบบ : คุณพร้อม ด้วงไข่

บ้านปูนเปลือยที่เติมความอบอุ่นด้วยการนำไม้มาเป็นองค์ประกอบของบ้านด้วย ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของประดับที่ทำจากไม้เช่นกัน ซึ่งมีรูปทรงสวยแปลกตาไม่น้อย เข้ากับชุดเขาสัตว์และภาพวาดสไตล์คาวบอย เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้านที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวและชมธรรมชาติ >> อ่านต่อ

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว สัตว์สตัฟฟ์


4.บ้านชั้นเดียวปูนเปลือย ธรรมดาแต่น่าอยู่

เจ้าของ : คุณผดุงศักดิ์ วงษ์ไกร และคุณนิธิมา ทักษอุดม

ออกแบบ : Pijic Architect โดยคุณศรายุทธ ใจคำปัน

บ้านปูนเปลือยหลังเล็กที่เน้นเรื่องขนาดที่เหมาะสำหรับการเป็นบ้านที่น่าอยู่ เช่น ความสูงของฝ้าภายในห้องประมาณ 2.60 เมตร  ทางเดินภายนอกกว้างประมาณ 1 เมตร ดูน่ารักและอบอุ่น หรือแม้แต่ความสูงโดยรวมของตัวบ้านก็ไม่มากนัก ประมาณ 5 เมตร ทำให้เมื่อยืนอยู่ที่สวนกลางบ้าน ตัวบ้านไม่ได้สูงจนข่มผู้อาศัย โครงสร้างหลักคือคอนกรีตเสริมเหล็ก ภายนอกอาคารทำผิวขัดมัน ตกแต่งด้วยการก่ออิฐซึ่งมาจากจังหวัดลำปาง มีขนาดใหญ่กว่าก้อนอิฐทั่วไป ซึ่งความไม่สม่ำเสมอของผิวและสี ทำให้เกิดรูปแบบเฉพาะตัวที่น่าสนใจ >> อ่านต่อ 

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว บ้านปูนเปลือย ทางเดินปูนเปลือย


5. บ้านปูนเปลือยชั้นเดียวกลางหุบเขาที่ดูแลรักษาง่าย ใช้งบไม่มาก

เจ้าของ-ตกแต่ง : พลตำรวจโทพนมศักดิ์ ทั่งทอง

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว กลางหุบเขาในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างด้วยงบประมาณไม่มาก ดูแลรักษาง่าย แต่สามารถมองเห็นวิวผืนป่า ลำน้ำสายเล็ก และนาขั้นบันไดได้สวยงามตลอดทั้งปี >> อ่านต่อ

บ้านปูนเปลือยชั้นเดียว ระเบียง บ้านปูนเปลือย ห้องนอน


เรียบเรียง: Tarnda

ภาพ: ฝ่ายภาพบ้านและสวน นิตยสาร room

บ้านปูนเปลือย 5 สไตล์เท่ในทุกดีไซน์

RAW CONCRETE HOUSES รวมบ้านปูนเปลือยดีไซน์เท่ 12 หลัง

7 แบบบ้านชั้นเดียวแจกฟรี! ในงบ 2.4 แสน – 2 ล้าน

The post 5 แบบบ้านปูนเปลือยชั้นเดียว สำหรับเป็นไอเดียในการสร้างบ้านในต่างจังหวัด appeared first on บ้านและสวน.

GOOD OPTICAL EYEWEAR ร้านขายแว่นตาที่ออกแบบให้ลูกค้าเลือกจับจ่ายอย่างสบายใจ

$
0
0

ร้านแว่นตา ที่ออกแบบให้ลูกค้าเลือกจับจ่ายอย่างสบายใจ ดูเป็นกันเอง ขณะเลือกสินค้า แถมยังใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้จะอยู่ในร้านก็ตาม

Good Optical Eyewear คือ ร้านแว่นตา ในไต้หวัน ที่สถาปนิกจาก Soar Design Studio ต้องการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับร้านค้า โดยเริ่มจากจินตนาการว่าร้านแบบไหนที่เราอยากเข้าไปเลือกจับจ่ายใช้สอย จนได้คำตอบว่าเป็นร้านค้าที่เมื่อเข้าไปแล้วไม่รู้สึกกดดันและรู้สึกสบายใจในการเดินเลือกชมสินค้า

ร้านแว่นตา

จึงตีความออกมาเป็นร้านที่คาดหวังให้ลูกค้าได้สัมผัสกับความสงบ รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติราวกับว่าอยู่ท่ามกลางกระท่อมกลางป่าที่รายล้อมไปด้วยสรรพชีวิตที่เพิ่งถือกำเนิด ซึ่งหากย้อนกลับไปแก่นของพื้นที่เชิงพาณิชย์คือการทำให้คนมีปฏิสัมพันธ์ โดยไร้การออกแบบตกแต่งที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ลูกค้าได้โฟกัสไปที่สภาพแวดล้อมที่น่ารื่นรมย์และดูผ่อนคลาย

ร้านแว่นตา ร้านแว่นตา

พื้นที่ภายในร้านถูกแบ่งออกเป็นหลายชั้นในระดับที่แตกต่างกัน โดยชั้นล่างซึ่งมีความเป็นพับลิกสเปซ ทำเป็นพื้นที่โชว์สินค้าแว่นตาและบริการวัดสายตา ส่วนชั้นบนแบ่งเป็นพื้นที่กึ่งไพรเวตและพื้นที่ไพรเวต สำหรับเป็นออฟฟิศ ห้องประชุม และพื้นที่จัดนิทรรศการ

ร้านแว่นตา

เพื่อเป็นการเชื่อมพื้นที่ทั้งสองชั้นเข้าด้วยกัน ผู้ออกแบบใช้พื้นที่เเนวตั้งอย่างการตกแต่งที่สามารถมองเห็นทะลุถึงกันและมุมสีเขียวของต้นไม้ โดยใช้คุณสมบัติของวัสดุโปร่งใสและต้นไม้ภายนอกในการสร้างความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้จะอยู่ข้างในร้านก็ตาม เสริมด้วยการจัดวางที่นั่งพักแบบเเรนดอมให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเป็นกันเอง ขณะที่พวกเราเดินเลือกสินค้า

ร้านแว่นตา ร้านแว่นตา

สำหรับการเลือกใช้วัสดุ เลือกใช้ไม้จริงที่โชว์ผิวสัมผัส และเสริมบรรยากาศที่อบอุ่น โดยนำมาวางซ้อนกันอย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมา กลายเป็นแบ็กกราวน์ของร้านที่น่าสนใจและดูมีมิติยิ่งขึ้น ซึ่งผู้คนที่เข้ามาจะรู้สึกได้ตั้งแต่แรกเห็น ชวนเพลิดเพลินไปกับเนื้อแท้ของความเป็นธรรมชาติ ตัดกับคอนกรีตที่ดูแข็งแรง เข้าคู่กับกระจกที่มีความโปร่งใส กลายเป็นความคอนทราสต์ระหว่างความคมชัดกับความว่างเปล่าที่ลงตัว

ร้านแว่นตา ร้านแว่นตา

อีกหนึ่งความตั้งใจคือการคุมมู้ดแอนด์โทนของบรรยากาศร้านให้ไม่มีสีสันที่ฉูดฉาด นอกไปจากผิวสัมผัสของเนื้อแท้วัสดุ เพื่อขับเน้นโครงสร้างเหล็กที่ดูซับซ้อน และบันไดวนกลางร้านให้ดูกลมกลืนไปกับไม้ นำเสนอภาพของความสงบและเรียบง่ายอย่างแท้จริง

ร้านแว่นตา ร้านแว่นตาร้านแว่นตา

ออกแบบ: Soar Design Studio (www.facebook.com/soar.design.tw)
ภาพ: Hey!Cheese
เรียบเรียง: BRL

The post GOOD OPTICAL EYEWEAR ร้านขายแว่นตาที่ออกแบบให้ลูกค้าเลือกจับจ่ายอย่างสบายใจ appeared first on บ้านและสวน.

1 ห้องนอนกลางทุ่งนา ในบ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล

$
0
0

บ้านพักผ่อนสไตล์โคโลเนียลที่มีเพียง 1 ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น โดยออกแบบให้พื้นห้องมีระดับต่างกัน เพื่อเป็นการแยกสัดส่วนแทนการทำกำแพง จึงได้ความรู้สึกเหมือนว่าทั้งบ้านมีห้องเดียว 

บ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล

เจ้าของ-ออกแบบตกแต่ง : คุณสุริยา เสาร์หมื่น

บ้านชั้นเดียวอยู่สบาย
นอกเขตแนวรั้วคือทุ่งนาซึ่งมีสีสันต่างกันไปตามฤดูกาล แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือความโล่งและสายลมเย็นๆที่พัดผ่านตลอด

เมื่อถึงคราวต้องออกแบบบ้านของตัวเอง คุณสุริยา เสาร์หมื่น สถาปนิกลูกล้านนาโดยกำเนิด ผู้มีพื้นเพอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ กลับต้องคิดให้มากยิ่งกว่าการออกแบบให้ผู้อื่น  บ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล

“หลายคนติดภาพว่าผมถนัดการออกแบบสไตล์ล้านนา เลยพลอยคิดว่าผมทำเป็นแต่สไตล์นี้เท่านั้น จริงๆแล้วนั่นเป็นเพียงโอกาสหนึ่งที่ทำให้เราได้ทำงานตรงนั้น และก็กลายเป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้ผมอยากจะเลี่ยงงานแบบนั้นเมื่อทำบ้านของตัวเอง ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ แต่ผมอยากได้บ้านที่เป็นบ้านของผมเอง”

บ้านชั้นเดียว บ้านชั้นเดียวอยู่สบาย
ถนนด้านหน้าบ้านปูบล็อกซีเมนต์แบบมีรูโปร่งแล้วปล่อยให้หญ้าขึ้น ตัวบ้านมีรูปทรงคล้ายบ้านโคโลเนียลในแถบประเทศอินเดียตอนใต้และศรีลังกา ลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูนสีเหลืองที่ดูโดดเด่น ส่วนกรอบประตูหน้าต่างทาสีขาวเพื่อเน้นให้เห็นส่วนนี้ชัดๆ “ผนังนอกบ้านใช้สีฝุ่นสีเหลืองผสมกับปูนขาวแล้วก็ฉาบเลย ไม่ต้องทาสี ผมชอบที่มันดูกระดำกระด่างดี”
ทางเดิน
ทางเดินจากโรงรถ (หลังผนังเตี้ยสีเหลืองทางด้านขวาของภาพคือโรงรถ)ปูพื้นศิลาแลงตรงเข้าสู่หลังบ้าน มองผ่านซุ้มประตูออกไปคือทุ่งนาโล่ง ส่วนผนังเตี้ยสีขาวถัดจากโรงรถเป็นครัวแบบเปิด

นอกจากออกแบบบ้านให้ตัวเองแล้ว คุณสุริยายังต้องทำเผื่อเพื่อนอีกสามคนด้วย เพราะทั้งสี่คนร่วมกันซื้อที่ดินผืนหนึ่งกลางทุ่งนาในเขตอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และแบ่งสร้างเป็นบ้าน 4 หลัง อีกส่วนหนึ่งสร้างเป็นโรงแรมขนาดเล็กชื่อว่า “at Villa Sansai” โดยออกแบบสิ่งก่อสร้างทั้งหมดให้กลมกลืนกัน บ้านทั้งสี่หลังเป็นบ้านชั้นเดียว มีขนาดและรูปทรงภายนอกใกล้เคียงกัน ส่วนภายในจะแตกต่างกันไปตามบุคลิกของเจ้าของบ้านแต่ละคน

“ผมออกแบบบ้านหลังนี้โดยเริ่มต้นจากการคิดถึงพื้นที่ภายในก่อน เพราะมีประสบการณ์จากบ้านหลังเดิมที่กั้นแต่ละส่วนเป็นห้องเล็กๆ ทำให้รู้สึกอึดอัดเหมือนอยู่ในกล่อง ผมอยากให้พื้นที่เกือบทุกส่วนในบ้านหลังนี้เปิดถึงกัน ดังนั้นจึงออกแบบให้พื้นห้องมีระดับต่างกัน เพื่อเป็นการแยกสัดส่วนแทนการทำกำแพง จึงรู้สึกเหมือนว่าทั้งบ้านมีห้องเดียว”

มุมนั่งเล่น
มุมหนึ่งของส่วนนั่งเล่นก่อแท่นคอนกรีตแล้ววางเบาะกับหมอนอิงเป็นเสมือนโซฟาตัวใหญ่ “ตอนทำบ้านก็คิดอยู่ว่าด้านหลังที่นั่งจะทำอย่างไรดี บังเอิญไปเจอประตูไม้เก่าของจีนสี่บานซึ่งมีขนาดพอดีกับช่องนี้ ผมจึงทำเป็นบานเลื่อนเพื่อเปิดพื้นที่ให้ต่อเนื่องกับห้องนอน”
ชั้นวางของ
ตรงข้ามส่วนนั่งเล่นเป็นชั้นวางของและเครื่องเสียง โดยเว้นที่ว่างตรงกลางไว้ค่อนข้างกว้าง “เดิมทีผมไปเลือกหาไม้เก่ามาปูพื้น แต่พอผ่านไปสามเดือนไม้ก็โก่งตัวขึ้นมา จึงคิดจะเปลี่ยนเป็นพื้นปาร์เกต์ พอให้ช่างลองเรียงลายดูแล้ว ก็คิดว่าอย่าดีกว่า ในที่สุดก็เลือกกระเบื้องดินเผาแผ่นใหญ่มาปูพื้นแทน ซื้อในเชียงใหม่นี่แหละครับ”
ด้านข้างของส่วนนั่งเล่นก่อโต๊ะคอนกรีตเรียบๆจัดเป็นมุมทำงานขนานกับแนวประตู เนื่องจากตำแหน่งของบ้านอยู่ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนนี้จึงร่มทั้งวัน

บ้านหลังนี้มีทางเข้าสองด้าน ทางเข้าหลักอยู่ด้านหน้าออกแบบเป็นซุ้มประตูยื่นออกมาจากตัวบ้าน บานประตูเป็นไม้เก่าจากประเทศอินเดียแกะลายอย่างละเอียดลออ บริเวณนี้ยังทำม้านั่งปูนหล่อไว้ด้วย ส่วนทางเข้าอีกด้านเป็นทางเดินขนานกับโรงรถ ต้องเดินผ่านซุ้มประตูซึ่งมีลักษณะคล้ายซุ้มเรือนแก้ว ทางเข้านี้นำไปสู่ชานพื้นปูนด้านหลังบ้าน

ภายในบ้านแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนใหญ่ๆ ส่วนแรกเป็นส่วนนั่งเล่น โดยออกแบบให้ผนังด้านหนึ่งเป็นชั้นไม้โปร่ง สำหรับวางของและเครื่องเสียง ส่วนด้านตรงข้ามชั้นก่อแท่นคอนกรีตแล้ววางเบาะกับหมอนอิงใช้แทนโซฟานั่งเล่น ริมประตูชิดชานด้านหลังก่อโต๊ะคอนกรีต จัดเป็นมุมทำงาน

อีกส่วนหนึ่งคือห้องนอนอยู่ด้านหลังส่วนนั่งเล่น โดยมีผนังทึบเว้นช่องตรงกลางแต่งด้วยประตูบานเลื่อนไม้เก่าของจีนเป็นตัวกั้น แต่ปกติจะเปิดประตูไว้เพื่อความต่อเนื่องของพื้นที่ ภายในห้องนอนก่อเป็นแท่นขนาดใหญ่สำหรับวางฟูก ส่วนช่องหลืบที่แยกจากห้องนอนจัดเป็นส่วนแต่งตัวและห้องน้ำ ทั้งส่วนนั่งเล่นและห้องนอนมีช่องเปิดหลายช่อง เพื่อช่วยระบายอากาศและเปิดรับแสงสว่าง

ห้องนอน
ด้วยความเคยชินกับการนอนบนพื้น คุณสุริยาจึงออกแบบที่นอนเป็นแท่นขนาดใหญ่กรุหินอ่อนแล้ววางฟูก โดยหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ซึ่งแสงอาทิตย์จะสาดเข้ามาในห้องเฉพาะช่วงบ่าย ด้านข้างเป็นประตูบานใหญ่ช่วยระบายอากาศให้ภายในห้องเย็นสบาย
อีกมุมหนึ่งของห้องนอนยังคงวางเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ได้จังหวะของการจัดวางที่สวยงาม บนผนังประดับภาพสเก็ตช์การออกแบบอาคารของคุณสุริยา
ห้องน้ำ
แม้ว่าห้องน้ำจะมีขนาดไม่ใหญ่โตนัก แต่เมื่อตกแต่งด้วยโทนสีขาว ประกอบกับด้านในทำเป็นประตูกระจกฝ้า ปล่อยให้แสงสว่างผ่านเข้ามาได้ ก็ทำให้ภาพรวมของห้องดูโปร่งยิ่งขึ้น แสงที่ส่องเข้ามายังทำให้ห้องน้ำแห้งสะอาดด้วย
ชานบ้าน
ชานทางเดินด้านหลังบ้านซึ่งจะต่อไปยังครัวและห้องน้ำมีแดดยามบ่ายส่องให้ได้ไออุ่น โดยได้ร่มเงาจากต้นลั่นทม
สวน
ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน ปลูกต้นชบาเป็นแนวรั้ว
มุมนั่งเล่น
มุมเล็กๆหลังห้องครัว คุณสุริยาวางโต๊ะตัวเล็กกับเก้าอี้ไม้เก่าใช้เป็นมุมทำงาน

“ผมชอบให้ภายในบ้านดูกว้าง ไม่ชอบมีเฟอร์นิเจอร์มากเกินไป แล้วก็ไม่ชอบเครื่องปรับอากาศด้วย แม้จำเป็นต้องติดเผื่อไว้ แต่ปีหนึ่งผมใช้แค่ 2-3ครั้งเองครับ ผมพยายามทำบ้านให้อยู่สบายคือต้องมีแสงธรรมชาติเพียงพอขณะเดียวกันก็ทำประตูหน้าต่างไว้เยอะๆ รวมทั้งมีการป้องกันความร้อนที่หลังคาและผนังไว้ด้วย เพื่อให้บ้านเย็นสบายที่สุดครับ”  คุณสุริยากล่าวปิดท้าย


เรื่อง : จัตตริน

ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

นิตยสารบ้านและสวนฉบับเมษายน 2551

บ้านชั้นเดียวล้อมสวน พร้อมมองเห็นวิวนาข้าว

บ้านชั้นเดียวกลางทุ่งที่เปิดรับธรรมชาติอย่างเต็มที่

Farmsup บ้านชั้นเดียวกลางทุ่งที่อยู่แบบพอเพียง

   บ้านชั้นเดียวอยู่สบาย

The post 1 ห้องนอนกลางทุ่งนา ในบ้านชั้นเดียวสไตล์โคโลเนียล appeared first on บ้านและสวน.

10 เรื่องต้องรู้ รีโนเวต ต่อเติมครัว

$
0
0

ครัวเก่าใช้มานานย่อมเสียหายหรือไม่สอดคล้องกับการใช้งานปัจจุบัน หลายคนอยากรีโนเวตห้องครัวแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ซึ่งนอกจากเรื่องสไตล์การตกแต่งแล้ว ยังมีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อป้องกันปัญหาในภายหลัง เรามาดู 10 เรื่องต้องรู้ในการรีโนเวตและ ต่อเติมครัว กัน

1.หลักการวางแปลน

ก่อนรีโนเวตหรือ ต่อเติมครัว พิจารณาว่าแปลนเดิมใช้งานได้ดีหรือไม่ โดยฟังก์ชันหลักคือ ตู้เย็น อ่างล้างจาน และเตาไฟ ซึ่งเป็นส่วนเก็บ ส่วนล้าง และส่วนปรุงอาหารตามลำดับ ควรจัดวางเป็นรูปสามเหลี่ยม หรือเป็นเส้นตรงสั้นๆ ซึ่งจะช่วยให้การทำงานในห้องครัวมีความคล่องตัว และเพื่อความสะดวกควรมีระยะช่องทางเดินอย่างน้อย 1.10 เมตร

ต่อเติมครัว

2.ถ้าจะเปลี่ยนอ่างล้างจาน ย้ายเตาไฟ รู้ไหมควรห่างกันเท่าไร

พื้นที่ข้างเตาไฟทั้งสองข้างควรเว้นที่ว่างไว้ข้างละอย่างน้อย 45 เซนติเมตร เพื่อเป็นที่วางหม้อ กระทะและอาหารที่ปรุงเสร็จแล้ว อีกทั้งระหว่างตู้เย็นและอ่างล้างจานก็ควรมีพื้นที่ว่างสำหรับ วางของที่หยิบออกจากตู้เย็นและวางจานชามที่เตรียมล้างหรือล้างเสร็จแล้ว โดยมีระยะอย่างน้อย 30 – 45 เซนติเมตร

ต่อเติมครัว

3.พื้นที่ห้องและรูปแบบเคาน์เตอร์

-พื้นที่ 3-5 ตร.ม. ควรทำเคาน์เตอร์รูปตัว i โดยชิดผนังด้านใดด้านหนึ่ง จัดพื้นที่ทั้ง 3 โซน อยู่ในแถวเดียวกัน ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่จะเป็นครัวในคอนโดมิเนียมหรือทาวน์เฮ้าส์

-พื้นที่ 6 ตร.ม. ขึ้นไป สามารถทำเคาน์เตอร์รูปตัว L ซึ่งช่วยให้การทำครัวสะดวกขึ้น ควรวางตู้เย็นให้ประตูตู้เย็นเปิดออกไปด้านเคาน์เตอร์ ก็จะทำให้มีพื้นที่การเปิดหยิบของมากกว่า และนำของออกมาวางที่เคาน์เตอร์ได้ง่าย

-พื้นที่ 9 ตร.ม. ขึ้นไป เหมาะกับเคาน์เตอร์รูปตัว U หรือจะวางเคาน์เตอร์ตัว i สองแถวขนานกันก็ได้

-พื้นที่ 12 ตร.ม. ขึ้นไป สามารถจัดเคาน์เตอร์แบบ Island ซึ่งเข้าได้กับเคาน์เตอร์ทุกรูปแบบ ทั้งเคาน์เตอร์รูปตัว I ตัว U หรือตัว L สามารถทำได้ทั้งครัวไทยและครัวฝรั่งแบบ Open Space ซึ่งสามารถออกแบบเป็นเคาน์เตอร์บาร์ได้ด้วย

ต่อเติมครัว

4.เปลี่ยนวัสดุท๊อปเคาน์เตอร์ใหม่ เลือกอะไรดี

ก่อนจะเปลี่ยนท๊อปเคาน์เตอร์ใหม่ ต้องรู้โครงสร้างเคาน์เตอร์ก่อนว่าเป็นแบบโครงคร่าวหรือเคาน์เตอร์ปูน หากเป็นเคาน์เตอร์ปูนจะสามารถติดตั้งวัสดุท๊อปเคาน์เตอร์ได้ทุกชนิด ส่วนเคาน์เตอร์โครงคร่าวจะติดตั้งได้เฉพาะท๊อปเคาน์เตอร์ที่เป็นวัสดุแผ่น มาดูท๊อปเคาน์เตอร์ยอดนิยมกัน

-หินแกรนิต มีความแข็งแรงทนทาน พื้นผิวลื่นเป็นมัน เช็ดทำความสะอาดง่าย มีหินหลายสีให้เลือก

-หินสังเคราะห์/หินเทียม มีทั้งที่ผลิตจากอะคริลิกและเรซิ่น สามารถสั่งผลิตชิ้นเดียวได้แบบไม่มีรอยต่อ ไม่เป็นที่สะสมของสิ่งสกปรก แต่ไม่เหมาะกับครัวไทยซึ่งมีการกระแทกบ่อย

-ซีเมนต์ขัดมัน เหมาะสำหรับครัวไทยและแพนทรี่สไตล์ลอฟต์ สามารถก่อขึ้นรูปได้ตามต้องการ  เมื่อเคลือบพื้นผิวแล้วจะช่วยป้องกันน้ำและความชื้นได้ดี แต่หากฉาบไม่ดีอาจเกิดรอยร้าวได้

สเตนเลส เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่เน้นความทนทาน และพื้นผิวทำความสะอาดง่ายไม่มีการดูดซึมน้ำและสิ่งสกปรก แต่จะเกิดรอยขีดข่วนได้หากขัดหรือถูแรงๆ ที่เนื้อวัสดุโดยตรง

ต่อเติมครัว

5.เพิ่มตู้เก็บของ ติดตั้งอย่างไร

จุดที่สามารถเพิ่มตู้หรือชั้นเก็บของได้ คือ การติดผนัง และการแขวนเพดาน

ตู้ติดผนัง ผนังที่ติดตั้งต้องมีความแข็งแรง จึงควรตรวจสอบประเภทผนังก่อนติดตั้ง

-ผนังโครงคร่าว ก่อนติดตั้งตู้ควรเสริมโครงคร่าวให้ตรงกับตำแหน่งติดตั้งตู้เพื่อรับน้ำหนัก ไม่ควรเจาะยึดกับวัสดุแผ่นอย่าง แผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ เพราะจะรับน้ำหนักได้ชั่วคราว และพังลงมาในภายหลัง

-ผนังก่ออิฐมอญและอิฐมวลเบา สามารถเจาะยึดกับผนังได้เลย โดยใช้พุกให้ตรงตามประเภทผนัง

-ผนังก่ออิฐบล็อก ไม่แนะนำให้ติดตั้งตู้ที่มีน้ำหนักมาก เพราะภายในอิฐบล็อกมีลักษณะกลวง และเนื้ออิฐไม่แน่น แต่หากจำเป็นควรเจาะยึดตามแนวรอยต่ออิฐซึ่งเป็นส่วนปูนก่อที่มีเนื้อแน่น และหากเจาะเจอส่วนที่กลวง ให้ใช้พุกผีเสื้อเหล็กก็จะช่วยรับน้ำหนักได้ดีขึ้น

ตู้แขวนเพดาน การทำตู้หรือชั้นแขวนเพดาน ต้องแขวนกับโครงสร้างอาคารเท่านั้น เช่น คานหรือพื้นชั้นบน ห้ามแขวนกับโครงคร่าวฝ้าเพดานซึ่งไม่สามารถรับน้ำหนักได้

 6.การเปลี่ยน-เพิ่มอุปกรณ์ครัว

หากมีการเปลี่ยนหรือเพิ่มอุปกรณ์ครัว ควรตรวจสอบขนาดและวิธีการติดตั้ง เพื่อให้สามารถติดตั้งกับพื้นที่เดิมได้

-อ่างล้างจาน เช็กขนาดหลุมที่เจาะ (ก้มดูใต้เคาน์เตอร์) ความลึกอ่าง ตำแหน่งก๊อกน้ำ และระยะท่อระบายน้ำ

-เตาไฟ มีทั้งประเภทตั้งบนเคาน์เตอร์และฝังเคาน์เตอร์ จึงต้องเช็กขนาดเตากับช่องของเคาน์เตอร์ให้ตรงกัน

-เครื่องดูดควัน การติดตั้งใหม่ ให้พิจารณาแนวการเดินท่อและจุดที่จะระบายควันออก ซึ่งระบายออกได้ทางผนังและหลังคา แต่ถ้าไม่สามารถเดินท่อได้ มีรุ่นที่ใช้ระบบกรองอากาศโดยไม่ต้องเดินท่อ แต่ประสิทธิภาพจะด้อยกว่า

-เตาอบ มีทั้งแบบลอยตัวและบิลท์อิน การติดตั้งมีข้อควรระวัง 2 เรื่อง คือ ควรทำปลั๊กแยกสำหรับเตาอบและมีเบรกเกอร์เฉพาะ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ไฟมากและใช้ต่อเนื่องนาน ไม่ควรใช้ปลั๊กร่วมกันอุปกรณ์อื่น และเรื่องการระบายความร้อนของเตาอบ ซึ่งมีทั้งการระบายความร้อนด้านหน้า ด้านบน และด้านหลัง จึงต้องเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้ง หากเป็นเตาแบบลอยตัว ต้องเว้นระยะการวางตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ ส่วนเตาอบแบบบิลท์อิน อย่าลืมทำช่องระบายความร้อนด้วย

ต่อเติมครัว

 7.ควรทำเคาน์เตอร์สูงเท่าไร

ความสูงของเคาน์เตอร์จะสัมพันธ์กับความสูงของผู้ใช้งาน

-ผู้ใช้สูงไม่เกิน 159 เซนติเมตร เคาน์เตอร์ควรสูง 83 เซนติเมตร

-ผู้ใช้สูง 160-167 เซนติเมตร เคาน์เตอร์ควรสูง 85 เซนติเมตร

-ผู้ใช้สูง 168-174เซนติเมตร เคาน์เตอร์ควรสูง 90 เซนติเมตร

-ผู้ใช้สูงตั้งแต่ 175 เซนติเมตร เคาน์เตอร์ควรสูง 92 เซนติเมตร

แต่โดยปกติมักมีผู้ใช้เคาน์เตอร์ครัวหลายคน จึงนิยมทำเคาน์เตอร์ครัวที่ความสูง 90 เซนติเมตร

8.ความสูงตู้ เตาอบ และเครื่องดูดควัน

-ตู้ติดผนัง ควรสูงจากท็อปเคาน์เตอร์ครัวประมาณ 40 – 70 เซนติเมตร หรือไม่น้อยกว่า 1.35 เมตร จากพื้นห้อง และลึกประมาณ 30 – 35 เซนติเมตร เพื่อป้องกันศีรษะของผู้ใช้งานชนหรือกระแทก

-เครื่องดูดควันและเตาปรุงอาหาร เตาไฟควรสูงเท่ากับท็อปเคาน์เตอร์ ส่วนเครื่องดูดควันควรสูงจากเตาประมาณ 50 – 70 เซนติเมตร

-เตาอบ ควรสูงระดับเดียวกับเคาน์เตอร์จะใช้งานสะดวกที่สุด หรือติดตั้งสูงจากพื้นถึงฐานเตาอบที่ 45 – 70 เซนติเมตร ก็ยังใช้งานสะดวก

9.แสงสว่างและการเดินสายไฟใหม่

การจัดแสงสว่างให้ทำครัวได้ชัดเจน คือ การติดตั้งหลอดไฟเหนือเคาน์เตอร์ โดยติดตั้งไว้ใต้ตู้ติดผนัง หากอาศัยเฉพาะไฟเพดานจะเกิดเงาบังขณะทำอาหารได้ ส่วนการเดินสายไฟใหม่ถ้าไม่อยากกรีดผนังเพื่อฝังสายไฟ แนะนำให้เดินท่อร้อยสายจัดระเบียบให้เรียบร้อย หรือเดินสายซ่อนไว้ในตู้หรือเคาน์เตอร์ ก็ช่วยบังความไม่เรียบร้อยได้ แต่ถ้าสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าค่อนข้างเก่ามีอายุมากกว่า 10 ปี จะรีโนเวตทั้งทีก็ควรพิจารณาเปลี่ยนใหม่จะใช้ต่อได้อีกยาวๆ

 10.ทำผนังกันเปื้อนและพื้นกันลื่น

ครัวที่ใช้งานจริงมักเปียกชื้นและเปื้อนคราบอาหารไปทั่วห้อง ผนังครัวโดยเฉพาะผนังหน้าเตาไฟและหน้าอ่างล้างจาน ควรใช้วัสดุที่พื้นผิวทนความชื้น ไม่กักเก็บสิ่งสกปรก และเช็ดทำความสะอาดง่าย ใช้ได้ทั้งกระเบื้องเซรามิก หินแกรนิต สเตนเลส แต่ไม่แนะนำการกรุกระจก ซึ่งแม้จะเช็ดง่าย แต่ก็เห็นคราบเปื้อนง่ายด้วย

ส่วนการเลือกพื้นห้องครัวที่มักเปียกน้ำบ่อย ควรใช้วัดสุกันลื่นที่พื้นผิวไม่หยาบเกินไป เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายด้วย แนะนำให้ใช้กระเบื้องหรือหินแบบขอบตัด (ขอบตรง) ซึ่งปูชิดได้  ก็จะลดคราบสกปรกที่มักสะสมในร่องยาแนวที่ทำให้ห้องครัวดูเก่าเร็ว แต่ถ้าใครอยากปูทับพื้นเดิมโดยไม่รื้อ อย่างลืมเช็กความสูงเคาน์เตอร์และประตูห้องซึ่งสัมพันธ์กับระดับความสูงพื้นด้วย

——————————————————————————————————————เรื่อง ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์

ภาพประกอบ เอกรินทร์ พันธุนิล

ภาพ แฟ้มภาพนิตยสารบ้านและสวน, room

อ่านต่อเรื่องน่าสนใจ

7 ปัญหายอดฮิตในครัว

KITCHEN IDEAS รู้จักสไตล์ที่ชอบก่อนเนรมิตครัวใหม่กับไอเดียแต่งห้องครัว 3 แบบ

6 วัสดุทำท็อปเคาน์เตอร์ครัว เลือกให้เหมาะช่วยยืดอายุการใช้งานครัวที่บ้านได้

ติดตามบ้านและสวนที่ www.facebook.com/baanlaesuanmag

The post 10 เรื่องต้องรู้ รีโนเวต ต่อเติมครัว appeared first on บ้านและสวน.

โคมไฟละม้ายโต๊ะและกรอบรูปที่ NENDO สร้างสรรค์ให้แบรนด์ FLOS

$
0
0

โปรดักต์ที่เห็นนี้คือ โคมไฟ  ไม่ใช่โต๊ะ หรือกรอบรูป!

อีกหนึ่งงานออกแบบที่สะท้อนคาแรกเตอร์ของ nendo ซึ่งมักแอบใส่ความขี้เล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ลงไปในผลงานตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่อเราได้เห็นลายเส้นของ โคมไฟ สุดน่ารักที่เป็นแนวคิดตั้งต้นก่อนจบเป็นผลงานจริง
โคมไฟ nendo Flos
โคมไฟตั้งพื้น และโคมไฟตั้งโต๊ะ สำหรับใช้งานเอ๊าต์ดอร์ชิ้นนี้ หากดูเพียงผิวเผินยังไงก็ไม่เหมือนโคมไฟในแบบที่เราคุ้นตา เนื่องจากรูปแบบเฉพาะตัวของมัน โดย nendo ได้ออกแบบให้กับแบรนด์โคมไฟสัญชาติอิตาลีอย่าง Flos ซึ่งมีส่วนผสมที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างเฟรมที่เพรียวบางดัดโค้งหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้รูปทรงเว้านี้รับกันได้ดีกับตัวโคมไฟทรงกลมสีขาวนวล
โคมไฟ nendo Flos โคมไฟ nendo Flos
สังเกตที่โคมไฟตั้งโต๊ะ ส่วนขาได้รับการออกแบบให้โต๊ะสองตัวมีขาหนึ่งขาที่ตั้งและใช้งานร่วมกัน อันกลายเป็นทั้งลูกเล่นให้แก่ชิ้นงานได้อย่างน่าสนใจ และยังเป็นเสมือนศูนย์กลางของโคมไฟ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับองศาระหว่างเฟรมได้สะดวก
โคมไฟ nendo Flos
นอกจากนั้นขาข้างเดียวนี้ ยังทำหน้าที่ซ่อนสายไฟที่เชื่อมต่อระหว่างโคมไฟกับแบตเตอรี่ที่บรรจุอยู่ภายในพื้นผิวโต๊ะ ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้ายและใช้งานกลางแจ้งได้อย่างดี โดยเฟรมของโคมไฟมีทั้งแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้าให้เลือกตามใจชอบ
โคมไฟ nendo Flos โคมไฟ nendo Flos โคมไฟ nendo Flos
ขณะที่โคมไฟสำหรับอิงผนัง ได้รับการออกแบบให้สามารถวางเข้ามุม และปรับการใช้งานได้สองทิศทาง ไม่ว่าจะนำไปวางในแนวตั้งและแนวนอน โดยที่รูปทรงของเฟรมที่ดูนุ่มนวลนี้ ได้ช่วยขับให้ดวงโคมกลายเป็นวัตถุที่เป็นดังตัวละครเด่น สร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ประหนึ่งดวงโคมกำลังลอยและส่องสว่างด้วยตัวเองอย่างสง่าผ่าเผย
โคมไฟ nendo Flos โคมไฟ nendo Flos โคมไฟ nendo Flos
ออกแบบ : Nendo ร่วมด้วย myt
ภาพ : Akihiro Yoshida
เรียบเรียง : ND24

The post โคมไฟละม้ายโต๊ะและกรอบรูปที่ NENDO สร้างสรรค์ให้แบรนด์ FLOS appeared first on บ้านและสวน.

จากตึกแถวแคบลึกและทึบตัน สู่บ้าน 4 ชั้นที่มีแปลงผักสวนครัวบนดาดฟ้า

$
0
0

เปลี่ยนภาพจำ ตึกแถว หน้าแคบ ตอนลึก ทึบตัน เป็นบ้านเปิดโปร่ง พร้อมแปลงปลูกผักสวนครัวบนชั้นดาดฟ้า

ปัจจุบันอาคารพาณิชย์ หรือ ตึกแถว ขนาด 4×16 เมตร และ 5×14 เมตร กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการสร้างพื้นที่อยู่อาศัยในเมืองใหญ่ของประเทศเวียดนาม
ตึกแถว บ้านตึกแถว
อย่างเช่น Tan Phu House บ้านตึกแถวในกรุงโฮจิมินห์หลังนี้ นอกเหนือจากการแก้ไขข้อจำกัดเรื่องมลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยด้านลบเเล้ว ผู้ออกแบบจาก k59 atelier ยังเลือกวิธีการเปลี่ยนพฤติกรรมดั้งเดิมของผู้อาศัยที่เกิดจากข้อจำกัดเรื่องพื้นที่แคบและปิดทึบ ด้วยการปรับพื้นที่เปิดโล่ง และสร้างคุณภาพที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว
พวกเขาเริ่มต้นจากการสังเกตกิจกรรมหลัก ๆ ของสมาชิกสามรุ่นในบ้าน รวมไปถึงสภาพแวดล้อมเดิมของที่ตั้ง ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ด้านหน้า และมีแสงแดดส่องถึงในบ้านยามเช้า พร้อมใช้วิธีการเพิ่มจำนวนต้นไม้ให้กลายเป็นฟาซาดธรรมชาติ ตัวช่วยในการกรองฝุ่น ป้องกันมลพิษ เเละเเสงเเดดไม่ให้เข้าสู่บ้านโดยตรง ร่วมกับฟาซาดแผงคอนกรีตและส่วนหลังคาที่ช่วยเป็นเกราะให้อาคารได้อย่างดี
ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว
เเต่ทั้งนี้อากาศและแสงจะไม่ถูกปิดกั้น หรือตัดขาดใด ๆ เพราะสถาปนิกได้ออกแบบช่องอาคาร ให้เป็นเสมือนกลไกหลักในการอำนวยความสะดวก และช่วยระบายอากาศที่ดี โดยภายใต้ตึก 4 ชั้น ถูกแบ่งพื้นที่ออกแบบเป็นสัดส่วน ชั้นล่างประกอบด้วยครัวเปิดที่อยู่ถัดเข้ามาจากลานจอดรถ เชื่อมระหว่างพื้นที่ภายในกับภายนอก และห้องนั่งเล่นของคุณยายที่สามารถมองดูลูกหลานและรับไออุ่นของแสงแดดยามเช้าได้ในทุก ๆ วัน
ชั้นสองประกอบด้วยมุมนั่งเล่น และพื้นที่การเรียนรู้ของลูก ๆ ที่เป็นส่วนขยายออกมาจากห้องนอน ชั้นสามเป็นห้องนอนใหญ่ ลานซักล้าง เเละห้องน้ำ บนชั้นดาดฟ้า ประกอบด้วยห้องพระ เฉลียงหน้าบ้าน และแปลงผักสวนครัว
ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถวตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว
สถาปนิกผู้ออกแบบอธิบายว่า “เรามุ่งเน้นเรื่องช่องว่างของอาคารที่เปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อสร้างความต่อเนื่อง และเชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกัน ทั้งยังได้สร้างพื้นที่กิจกรรมอันหลากหลาย มอบโอกาสการพบปะและมองเห็นกันระหว่างสมาชิกในบ้าน เเสดงถึงความผูกพันกันในครอบครัวตามวิถีของชาวเอเชีย เเม้จะเป็นบ้านของคนยุคใหม่ก็ตาม”
ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถวตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว
Tan Phu House จึงเป็นบ้านที่ผู้ออกแบบใส่ใจกับพื้นที่การใช้งานที่สอดคล้องและเหมาะกับความต้องการของผู้อาศัยมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก เพราะพวกเขามองว่า “ความต้องการของผู้อยู่อาศัยมีบทบาทสำคัญที่สุดในการสร้างความหมายของบ้านในสังคมยุคใหม่ เป็นที่อยู่อาศัยที่ควบรวมพื้นที่กิจกรรมอันหลากหลาย และสร้างความใกล้ชิดผ่านทางพื้นที่แบบเปิดและแบบปิดในอุดมคติของเรา”
ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว ตึกแถว บ้านตึกแถว
ออกแบบ: k59 atelier | k59atelier.com
ทีมออกแบบ: Phan Lam Nhat Nam + Tran Cam Linh
วิศวกรรม: Phạm Dong Tâm
เจ้าของ: Le Ngoc Hoang และ Bui Thu Thuy
ภาพ: Courtesy of k59 atelier
เรียบเรียง: ND24

The post จากตึกแถวแคบลึกและทึบตัน สู่บ้าน 4 ชั้นที่มีแปลงผักสวนครัวบนดาดฟ้า appeared first on บ้านและสวน.

DEVOLUTION PARK สวนป่าในคอนโดฯที่ปลูกให้คนทั้งโลกออนไลน์มาเที่ยวชม

$
0
0

แบบสวน ลอยฟ้าบนชั้น 27 ของอาคาร 50 ชั้น ที่ถูกสร้างขึ้นจากห้องขนาด 90 ตารางเมตร อยู่ในพื้นที่พักอาศัยที่หนาแน่นของ Xinglin Bay, Xiamen ประเทศจีน

แบบสวน โดยทีมออกแบบ DEVOLUTION ต้องการทดลองการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้พักอาศัยจำนวน 300 ห้องในตึกแห่งนี้

แบบสวน แบบสวน

ก่อนการมาถึงของสังคมตึกสูง แต่ละบ้านมักจะแชร์พื้นที่สวนด้วยกัน และสวนเหล่านั้นจึงได้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและพบปะกันของคนในชุมชน แต่ทุกวันนี้การแชร์พื้นที่ได้ลดลง กลายเป็นพื้นที่ปิดแบบ “ตัวใครตัวมัน” มากขึ้น

แบบสวน แบบสวน

แบบสวน แบบสวน

แบบสวน แห่งนี้จึงเป็นเสมือนภาพแทนของความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ส่วนตัวกับพื้นที่สาธารณะในแบบที่ค่อนข้างจะสุดโต่ง แต่ DevolutioN PARK ก็อาจทำให้ผู้คนเริ่มตั้งคำถามถึงวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ขาดหายการดื่มด่ำธรรมชาติในรูปแบบง่าย ๆ อย่างสวนใกล้บ้านไปเสีย

แบบสวน

แม้สวนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นให้คงอยู่เพียง 1 เดือน เท่านั้น! แต่ทีม DevolutioN ได้ร่วมกับ SeeekLab จัดการเผยแพร่ภาพของสวนนี้ออกไปทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งคนจากภายนอกอาคารสามารถเข้าถึงสวนนี้ได้ผ่านโลกออนไลน์ เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ “สาธารณะ” ในรูปแบบใหม่ขึ้น ลองจินตนาการถึงการที่ใครสักคนในอาคาร เดินออกมานั่งในสวนนี้ และเริ่มต้นพูดคุยกับคนอื่น ๆ ที่อยู่อีกฟากของโลกอินเทอร์เน็ตดูก็ได้ครับ เหมือนจะเข้าท่าดีใช่ไหมละ?

แบบสวน แบบสวน

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการตีความ “พื้นที่สาธารณะ” ที่สร้างมุมมองแบบ Hybrid ระหว่าง “โลกออนไลน์” กับ “โลกจริง” ได้อย่างน่าสนใจ

แบบสวน แบบสวน

ออกแบบ : Tangjiansong, DEVOLUTION, SeeekLab
ภาพ : DEVOLUTION
เรื่อง : Wuthikorn Sut

The post DEVOLUTION PARK สวนป่าในคอนโดฯที่ปลูกให้คนทั้งโลกออนไลน์มาเที่ยวชม appeared first on บ้านและสวน.


บ้านทาวน์เฮ้าส์รีโนเวตใหม่ แล้วซ่อนสวนลับเอาไว้หลังบ้าน

$
0
0

สถาปนิก djuhara + djuhara จากประเทศอินโดนีเซีย ได้ทำการ รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์ หลังหนึ่งที่เมื่อมองจากภายนอกเเล้ว บ้านนี้มีลักษณะหน้าบ้านที่ค่อนข้างเเคบมาก

กระทั่งเดินเข้ามาด้านในจึงจะพบว่าด้านหลังของบ้านมีสวนซ่อนอยู่! ซึ่งเกิดจากการที่เจ้าของได้ซื้อ “ที่ตาบอด” ที่อยู่ติดกันไว้ ก่อนจะได้รับการออกเเบบให้ทั้งตัวบ้านทาวน์เฮาส์เก่าเเละที่ดินที่เพิ่งซื้อเพิ่มมานี้ มีความพิเศษที่เอื้อต่อการอยู่อาศัย

รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์

คอนเซ็ปต์ที่ผู้ออกแบบนำมาใช้จึงเป็นการปรับให้ผู้ใช้งานสามารถค่อย ๆ เดินเข้ามาสัมผัสกับพื้นที่เขียวชอุ่มของสวนด้านหลังได้อย่างน่าเซอร์ไพร้ส์ ไล่เรียงลำดับตั้งแต่หน้าบ้าน ส่วนรับแขก และพื้นที่ครัวที่ต่อเนื่องไปยังสวน ก่อนจะเข้าสู่ “Floating Box” หรือพื้นที่ส่วนตัวที่เหมือนลอยอยู่ด้านบน

รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์ รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์

จากส่วนนั่งเล่นที่ชั้นบนบานกระจกขนาดใหญ่จะทำให้เจ้าของบ้านสามารถสัมผัสวิวสวนได้อย่างใกล้ชิด โดยที่ยังคงความเป็นส่วนตัวไว้ด้วยแนวกำแพงที่กั้นให้สวนแห่งนี้เป็นสวนลับของบ้านนี้แต่เพียงผู้เดียว

รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์ รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์

การออกแบบรีโนเวตนอกจากจะมีการจัดการพื้นที่ได้อย่างแยบยลและลงตัวแล้ว สถาปนิกผู้ออกแบบยังคำนึงถึงทิศทางลมที่จะไหลผ่านตัวบ้านเพราะประเทศอินโดนีเซียนั้นมีความชื้นสูงกว่าไทยมาก การเว้นพื้นที่ข้างบ้านไว้ครึ่งเมตรจึงเป็นวิธีที่ช่วยให้ลมไหลผ่านจากหน้าบ้านไปยังสวนหลังบ้านได้อย่างทั่วถึง เกิดการไหลเวียนอากาศตลอดเวลาบ้านจึงไม่ร้อน

รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์ รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์

สุดท้ายคือการเลือกปล่อยให้วัสดุและโครงสร้างที่ถูกปรับปรุงนั้นยังคงร่องรอยไว้บางจุด ทำให้เรื่องราวของบ้านเชื่อมโยงจากอดีตสู่ปัจจุบันได้อย่างน่าสนใจ

รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์

การปรับปรุงบ้านหลังนี้เรียกได้ว่าเป็นกรณีที่น่าสนใจของการผนวก “ที่ตาบอด” มาสร้างให้เกิดพื้นที่สีเขียวในบ้านทาวน์เฮาส์ที่เเคบเเสนเเคบได้สำเร็จ เป็นอีกกรณีที่น่าสนใจอย่างมากในการทำให้บ้านทาวน์เฮ้าส์เดิม ๆ มีชีวิตชีวาเเละสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งในบ้านเราเองก็พอมีบ้างที่เจ้าของซื้อทาวน์เฮาส์ด้านหลังให้เชื่อมต่อเป็นที่ดินผืนเดียวกัน หากจะลองทำสวนหลังบ้านไว้สำหรับพักผ่อนอย่างบ้านนี้บ้าง คงจะน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์ รีโนเวตบ้านทาวน์เฮาส์

ออกแบบ : djuhara + djuhara
ภาพ : Soopakorn Srisakul, djuhara + djuhara

The post บ้านทาวน์เฮ้าส์รีโนเวตใหม่ แล้วซ่อนสวนลับเอาไว้หลังบ้าน appeared first on บ้านและสวน.

บ้านไม้กลางสวน ที่เปิดรับบริบทธรรมชาติด้วยกระจกบานใหญ่

$
0
0

บ้านไม้ หลังนี้ตั้งอยู่ในโอกินาวา หมู่เกาะใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีภูมิอากาศแบบทรอปิคัลเช่นเดียวกับประเทศไทยเรา

สถาปนิกจาก ISSHOArchitects จึงเลือกออกแบบ บ้านไม้ ให้มีหลังคาทรงปั้นหยาคลุมยื่นยาว ทั้งยังยกพื้นเพื่อหลบเลี่ยงความชื้น และสร้างการระบายอากาศที่ดีให้กับบ้าน

บ้านไม้

หลังคาปั้นหยาทรงสูงและบานเปิดขนาดใหญ่ ช่วยให้ลมที่พัดเข้าสู่ตัวบ้านนำพาลมร้อนลอยขึ้นสู่ด้านบนของเพดาน ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยในบ้านเย็นสบาย
บ้านไม้

ขณะที่การเลือกใช้โครงสร้างไม้เป็นส่วนประกอบหลัก ก็เพื่อให้เข้ากับบริบทธรรมชาติ ร่วมด้วยการกรุผนังกระจกใสที่เปิดรับวิวได้เต็มสายตา หรือจะออกมานั่งเล่นนอกบ้านชิล ๆ บริเวณระเบียงยกพื้น ซึ่งออกแบบไว้รอบ ๆ บ้านก็ได้

บ้านไม้ บ้านไม้ บ้านไม้

ผังภายในแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ ส่วนรับแขกและครัวที่ต่อเนื่องกัน ทั้งยังมีห้องนอน 2 ห้อง กั้นด้วยห้องน้ำในส่วนกลาง ส่วนห้องเก็บของและเสื้อผ้าแอบซ่อนไว้ในพื้นที่กึ่งกลางบ้านโดยทุกฟังก์ชันดูลื่นไหลกลมกลืน เป็นความลงตัวได้อย่างพอดิบพอดี
บ้านไม้
เมื่อนึกถึงการนั่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านหลังนี้ มีแดดบ่ายเเละลมทะเลพัดเอื่อย ๆ ผ่านเข้ามา ช่วยสร้างความสดชื่นขึ้นมาได้มากเลยทีเดียว หากใครมีที่อยู่ติดทะเล หรืออยู่ในบริบทภาคใต้ จะลองทำบ้านหลังเล็ก ๆ ที่เปิดวิวกว้าง ๆ เช่นนี้ดูบ้างก็เข้าท่าดีนะครับ
บ้านไม้ บ้านไม้ บ้านไม้บ้านไม้ บ้านไม้ ISSHOArchitects
ออกแบบ : ISSHOArchitects (https://www.issho.com)
ภาพ : Koichi Torimura
เรื่อง : Wuthikorn Sut

The post บ้านไม้กลางสวน ที่เปิดรับบริบทธรรมชาติด้วยกระจกบานใหญ่ appeared first on บ้านและสวน.

5 วิธีแก้ปัญหา ตู้เย็นปิดไม่สนิท ทำเองได้ ไม่ง้อช่าง

$
0
0

ตู้เย็นปิดไม่สนิท ส่งผลให้ความเย็นภายในตู้สามารถลอดออกมาได้  ปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากการใช้งานมานาน เช่น ขอบยางประตูตู้เย็นเสื่อม เพียงแค่ซื้อมาเปลี่ยนใหม่ก็น่าจบเรื่องแล้ว แต่ปัญหา ตู้เย็นปิดไม่สนิทไม่ได้เกิดจากขอบยางประตูเสื่อมสภาพเพียงอย่างเดียว เพราะมีอีกหลายสาเหตุด้วยกัน ยุคนี้เป็นยุคประหยัด ถ้าไม่เสียสตางค์ได้จะเป็นเรื่องที่ดีงามมากๆ วันนี้มีวิธีการแก้ปัญหาตู้เย็นปิดไม่สนิทด้วยตัวเองมาฝากกัน

1.ทดสอบตู้เย็นว่ายังปิดสนิทดีหรือไม่

เบื้องต้นให้หากระดาษ A4 มา 1 แผ่น เปิดประตูตู้เย็นออกมา แล้วใส่กระดาษไปครึ่งแผ่น (ให้ประตูตู้เย็นหนีบกระดาษไว้) จากนั้นก็ทำการดึงกระดาษออกมา ถ้าเรารู้สึกว่ากระดาษดึงออกยาก แสดงว่าตู้เย็นยังปิดได้สนิท แต่ถ้าดึงกระดาษออกมาได้ง่าย แสดงว่าขอบยางประตูตู้เย็นเสื่อมสภาพแล้ว จึงทำให้ ตู้เย็นปิดไม่สนิท

ตู้เย็นปิดไม่สนิท

2.หมั่นทำความสะอาดขอบยางประตูตู้เย็น

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาตู้เย็นปิดไม่สนิทก็คือ มีฝุ่นละอองและคราบสกปรกติดอยู่ที่ขอบยางประตู ปัญหานี้แก้ได้ง่ายๆด้วยการหมั่นทำความสะอาดขอบยางประตูเย็นเป็นประจำ (สัปดาห์ละครั้งหรืออย่างน้อยเดือนละครั้งก็ได้) โดยใช้ฟองน้ำชุบน้ำสะอาด แล้วทำการเช็ดคราบสกปรกออกให้หมด แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง เพราะสารเคมี อาจทำให้ขอบยางเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร

ตู้เย็นปิดไม่สนิท

3.เพิ่มความอ่อนนุ่มให้กับขอบยางประตูตู้เย็น

ขอบยางประตูที่เสื่อมสภาพสังเกตได้ไม่ยาก เพราะขอบยางจะเริ่มมีการแข็งตัว แต่สามารถแก้ไขให้กลับมาอ่อนนุ่มขึ้นได้ เริ่มด้วยการถอดปลั๊กไฟตู้เย็นก่อน จากนั้นใช้น้ำร้อนมาเทราดไปบนขอบยางทั้ง 4 ด้าน ทิ้งไว้สักพักเพื่อให้ยางขยายตัว แต่ถ้าขอบยางยังคงแข็งตัวอยู่ หมายความว่าขอบยางนั้นหมดอายุแล้ว ควรซื้อขอบยางมาเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า

4.ตั้งขาตู้เย็น ให้ด้านหน้าสูงกว่าด้านหลัง

บางครั้งการตั้งวางตู้เย็นไม่ได้ระดับ อาจทำให้ตู้เย็นเปิดออกมาหรือปิดไม่สนิทได้เช่นกัน โดยเฉพาะกับตู้เย็นที่ตั้งก้มลงไปด้านหน้าเล็กน้อย แต่ตู้เย็นรุ่นใหม่จะมีขาตู้ที่สามารถปรับขึ้นลงได้ ซึ่งช่วยในการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าไม่มี ให้หาแผ่นกระเบื้องหรือไม้เนื้อแข็ง มารองขาตู้เย็นด้านหน้า (ให้ขาหน้าสูงขึ้นเล็กน้อยประมาณ 2-3 เซนติเมตร) ตู้เย็นจะตั้งอยู่ในลักษณะเชิดหน้าขึ้น ช่วยทำให้ประตูตู้เย็นปิดสนิทและปิดเองได้ พูดง่ายๆก็คือ ใช้แรงโน้มถ่วงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานั่นเอง

5.เปลี่ยนขอบยางประตูตู้เย็นใหม่

ถ้าทำตามคำแนะนำที่กล่าวมาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ แสดงว่าขอบยางประตูตู้เย็นคงหมดสภาพแล้ว หรือถ้ามีเชื้อราขึ้นรอบขอบประตูด้วย แนะนำให้หาซื้อมาเปลี่ยนใหม่ได้เลย แต่อย่าลืมต้องถอดปลั๊กไฟตู้เย็นออกก่อนทุกครั้ง จากนั้นใช้ไขควงมาคลายสกรูตรงขอบยางประตูทุกจุด แล้วดึงขอบยางประตูของเก่าออกมา และนำขอบยางประตูตู้เย็นเส้นใหม่ไปแช่ในน้ำอุ่นประมาณ 2-3 นาที ยางก็จะอ่อนตัวและยืดหยุ่น สามารถดัดตัวไปตามแนวขอบตู้เย็นได้ง่าย จากนั้นนำขอบยางประตูใส่กลับเข้าที่เดิมให้เรียบร้อย

ตู้เย็นปิดไม่สนิท

หมายเหตุ : ขอบยางประตูตู้เย็นมีจำหน่ายที่ร้านขายอุปกรณ์อะไหล่ตู้เย็น หรือติดต่อกับศูนย์บริการก็ได้ ราคาประมาณ 500-700 บาทต่อเส้น โดยขึ้นอยู่กับขนาดและรุ่นของตู้เย็นนั่นเอง

TIPS :

“วางของที่ประตูตู้เย็นหนักเกินไปหรือเปล่า” การวางของเอาไว้ที่ชั้นวางของประตูตู้เย็นในปริมาณที่มากเกินไป มีส่วนทำให้เกิดปัญหาประตูตู้เย็นปิดไม่สนิทได้เช่นกัน ลองนำสิ่งของทั้งหมดดังกล่าวออกไป แล้วทำการทดสอบเปิดปิดประตูตู้เย็นอีกครั้ง เราอาจพบว่าตู้เย็นที่บ้านเราไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยก็เป็นได้นะ ที่สำคัญสามารถช่วยยืดอายุของตู้เย็นให้มีการใช้งานยาวนานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


เรื่อง : คันยิก้า

ภาพประกอบ : เอกรินทร์ พันธุนิล

10 เรื่องต้องรู้ รีโนเวต ต่อเติมครัว

ปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้ามี 3 ขาแต่เต้ารับที่บ้านมี 2 รูทำอย่างไรดี?

เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดใดบ้างที่ต้องต่อสายดิน

The post 5 วิธีแก้ปัญหา ตู้เย็นปิดไม่สนิท ทำเองได้ ไม่ง้อช่าง appeared first on บ้านและสวน.

CHAIR 1:1 เก้าอี้ที่ผลิตง่าย ขายคล่อง ลดขยะ ตอบโจทย์วิถีร่วมสมัย

$
0
0

แนวคิดของเก้าอี้ CHAIR 1:1 เริ่มต้นจากการพยายามค้นหาเก้าอี้ที่เหมาะกับยุคร่วมสมัยอย่างแท้จริง ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีการผลิต การขาย และการใช้งาน ทำอย่างไรเราถึงจะสร้างสรรค์เก้าอี้ที่เป็นตำนาน เข้าถึงง่าย ขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้จำนวนมาก เพื่อให้เกิดผลกำไรคืนสู่ช่างฝีมือ รวมถึงคำนึงถึงการขนส่ง และการใช้งานจริงอีกด้วย

หลังจากผ่านกระบวนการออกแบบที่ยาวนานกว่า 5 ปี MARTINELLI VENEZIA สตูดิโอออกแบบจากอิตาลีก็เปิดตัว CHAIR 1:1 ที่เสร็จสมบูรณ์ในรูปแบบของเก้าอี้แบบถอดประกอบได้ ทุกชิ้นส่วนได้รับการผลิตโดยแม่พิมพ์ชุดเดียว โดยออกแบบให้ใช้แม่พิมพ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  เพิ่มความเร็วในการผลิต รวมถึงลดกระบวนการผลิตขยะในกระบวนการผลิตให้มากที่สุด หลังจากออกจากแม่พิมพ์ เก้าอี้แต่ละชุดก็พร้อมส่งขายได้ทันที ข้ามขั้นตอนอื่น ๆ และยกกระบวนการผลิตขั้นสุดท้ายให้ผู้ใช้งานเป็นผู้ประกอบเก้าอี้ของตัวเอง และนั่นจึงนำมาสู่แนวคิด Hyper-seriality หรือการให้ความสำคัญกับการผลิตเป็นชุดๆ

ภาพ: Stefania Zanetti

มองดูเผิน ๆ นี่อาจทำให้เรานึกถึงแผงชิ้นส่วนของเล่นที่แถมมาในถุงขนมตอนเด็ก ๆ ซึ่งไม่ต้องใช้น็อตหรือสกรูในการประกอบ ทั้งยังประกอบได้รวดเร็ว สนุกและง่ายดาย เก้าอี้ตัวนี้ก็เช่นกัน โดยใช้เวลาประกอบเพียง 1 นาที โดยไม่ต้องใช้เครื่องมืออื่นช่วย และเมื่อประกอบเสร็จก็แทบไม่เห็นที่มาของกระบวนการผลิต  การประกอบเก้าอี้เองจะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเชื่อมโยงกับวัตถุ มองเห็นคุณค่า และสร้างสายสัมพันธ์บางอย่าง ที่ทำให้พวกเขาใช้งานมันนานขึ้น และด้วยดีไซน์เรียบง่าย นี่จึงเป็นเก้าอี้ที่เหมาะกับแทบทุกบ้าน

ภาพ: Stefania Zanetti

นอกจากนี้ การผลิตเก้าอี้รูปแบบนี้ยังช่วยให้สามารถจัดเก็บสต๊อกได้ง่ายขึ้น ขนส่งง่ายขึ้น โดยเก้าอี้ CHAIR 1:1 จำนวน 26 ตัว ใช้พื้นที่เพียง 1 ลูกบาศก์เมตร ในคลังสินค้า ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญของการจำหน่ายออนไลน์ ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว ทั้งหมดนี้ไม่ได้จบแค่เพียงขั้นตอนการออกแบบรูปลักษณ์ แต่ยังครอบคลุมถึงการออกแบบกระบวนการผลิต การออกแบบแม่พิมพ์ โดยนักออกแบบได้ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทผู้ผลิตเก้าอี้พลาสติกชั้นนำอย่าง Secostampi และ Plastamp เพื่อให้เกิดดีไซน์นี้ขึ้น

ภาพ: Stefania Zanetti
ภาพ: Stefania Zanetti
ภาพ: Stefania Zanetti
ภาพ: Stefania Zanetti

ท่ามกลางความสงสัยว่าโลกนี้มีของดีไซน์จากพลาสติกมากเกินไปหรือยัง แต่เมื่อคำนวณจากทุกด้านในวิถีชีวิตปัจจุบัน ก็พบว่า ‘พลาสติก’ คือวัสดุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแนวคิดแบบนี้ เพราะการผสมผสานกับวัสดุอื่น จะสร้างความยุ่งยากในกระบวนการรีไซเคิล  ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดในการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน คือการยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด ออกแบบด้วยวัสดุเดียว และไม่ใช่การออกแบบรูปลักษณ์อย่างเดียว แต่ต้องออกแบบกระบวนทั้งหมด ตั้งแต่การซื้อ การขาย ไปจนถึงการกำจัด นี่จึงเป็นเก้าอี้คุณภาพดีที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งจะมาทดแทนเก้าอี้ในท้องตลาดที่ไม่ทนทาน จากช่างฝีมือผู้ไม่เชี่ยวชาญ

การออกแบบตั้งใจลดขนาดแม่พิมพ์ให้มีขนาดเล็กลง และใช้งานได้ประสิทธิภาพสูงสุด ลดการใช้ทรัพยากร และลดขยะที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิต
CHAIR 1:1
หลังกระบวนการผลิต สินค้าก็พร้อมสำหรับการจัดจำหน่ายได้ทันที และด้วยรูปแบบที่กะทัดรัดจึงประหยัดพื้นที่ในคลังสินค้า

CHAIR 1:1 CHAIR 1:1 CHAIR 1:1

Martinelli Venezia สตูดิโอออกแบบรุ่นใหม่ในมิลาน และปาแลร์โม ทำงานออกแบบตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงสถาปัตยกรรม เน้นสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิม ความเป็นท้องถิ่น ซึ่งเชื่อมโยงกับวัสดุ และกระบวนการผลิต ซึ่งผลงานของพวกเขาได้จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีส MAXXI ในกรุงโรม และ Triennale Design Museum ในมิลานมาแล้ว


แนวคิดและออกแบบ: Martinelli Venezia and Alessandro Stabile

ภาพ: Stefania Zanetti

Special thanks to / Secostampi-Plastamp for technical support and Sandro Trigila for still-life images

IG: @martinellivenezia

www.martinellivenezia.com

IG: @alestab

www.alessandrostabile.com

 


 

โคมไฟละม้ายโต๊ะและกรอบรูปที่ NENDO สร้างสรรค์ให้แบรนด์ FLOS

The post CHAIR 1:1 เก้าอี้ที่ผลิตง่าย ขายคล่อง ลดขยะ ตอบโจทย์วิถีร่วมสมัย appeared first on บ้านและสวน.

สวนคนเมืองขนาดเล็ก แต่สามารถปลูกผักและเลี้ยงไก่ไข่ไว้บริโภคได้ตลอดทั้งปี

$
0
0

ในสวนขนาดเล็กที่ดูเรียบง่ายและไม่ได้ดูสวยงามโดดเด่นกว่าสวนอื่นๆในครั้งแรกที่มอง แต่กลับมีนิยามความงามในแบบของตัวเอง ในฐานะของแหล่งอาหารและสร้างสุขภาพที่ดีในการดำเนินชีวิตให้เกิดสุขภาพที่ดีแบบคนในเมือง เป็นสวนขนาดเล็กหน้าบ้านแต่สามารถปลูกผักและเลี้ยงไก่ไข่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและไอเดียที่น่าสนใจทีเดียวที่สามารถนำไปใช้ได้กับทุกคน

คุณตี๋และคุณบุพพรรณ ภรรยากับสวนจัดเองขนาดกะทัดรัด แต่เพียงพอกับมื้ออาหารประจําวันของครอบครัวเล็กๆ

พื้นสวนโรยกรวดแม่น้ําเพื่อช่วยเก็บรักษาความชื้นในดินเอาไว้ จึงไม่ต้องรดน้ําบ่อยๆ นอกจากนี้ยังทําให้สวนดูสวยงามมากขึ้นด้วย

คุณตี๋-ศุภวุฒิ บุญมหาธนากร เจ้าของบริษัท ใจบ้าน สตูดิโอ จํากัด การพบปะในครั้งนี้นอกจากเป็นการไปเยี่ยมเยือนพี่ชายที่ผมเคารพรักแล้ว ยังตั้งใจไปชมสวนซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยเล่าให้ฟังว่า“พี่ตั้งใจว่าจะทําสวนเพื่อเป็นแหล่งอาหารไว้รับประทานเอง” ทําให้ผมอยากมาเห็นด้วยตาสักครั้ง ผ่านไป2ปี ต้นไม้เริ่มเติบโตตามที่คุณตี๋ได้ตั้งปณิธานเอาไว้ หากดูเผินๆเหมือนว่าเติบโตเองตามธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้วเป็นสวนที่ปรับมาจากสวนแนวบาหลี ซึ่งเป็นสไตล์ที่คุณตี๋ชื่นชอบและจัดออกมาได้สวยงามไม่แพ้ใครผมถามถึงสาเหตุที่ทําให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนมาจัดเป็นสวนอย่างที่เห็นก็ได้รับคําตอบว่า “เมื่อก่อนหากจะจัดสวนให้บ้านในเมือง เราต้องซื้อดิน ซื้อต้นไม้ ซื้อทุกอย่างมาลง เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติในมุมมองของมนุษย์ แต่จริงๆอาจไม่เป็นธรรมชาติในมุมมองของแมลงหรือสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติจริง ก็เลยอยากลองเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่อง Permaculture เอง

กระบะที่ทําจากอิฐดินเผาเรียงกันง่ายๆสําหรับปลูกผักสวนครัวหลายชนิดคละกัน มีทั้งกรีนโอ๊ก กรีนคอสร็อกเกต ผักโขม ผักชีฝรั่ง และกระเจี๊ยบเขียว

แม้แต่สวนข้างศาลานั่งเล่นก็ยังปลูกไม้ประดับที่รับประทานได้ ทั้งอ่อมแซบซึ่งเป็นไม้ดอกคลุมดินและสามารถนําไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง และใบเงินใบทองที่เป็นพืชสมุนไพร

 

ผมคุยเรื่องแนวคิดPermacultureกับคุณตี๋อยู่พักใหญ่ จึงทราบว่าแท้จริงแล้วการจัดสวนในรูปแบบนี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าการทําเกษตรแบบยั่งยืนที่เน้นการบํารุงดินด้วยธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมี รวมถึงการปลูกไม้พื้นถิ่นหลากหลายชนิดแม้สวนของคุณตี๋จะมีเนื้อที่แค่เพียง100ตารางวาแต่เขาเล่าให้ฟังว่าในหนึ่งวันสามารถรังสรรค์เมนูอาหารได้หลากหลาย เพราะต้นไม้เกือบทั้งหมดในสวนเป็นชนิดที่รับประทานได้และพบเห็นได้ทั่วไปอย่างมะละกอ มะม่วง บวบ ขิง ข่า พริกตะไคร้ ชะอม แทรกไปกับไม้สมุนไพรและผักสวนครัวพื้นบ้านที่ปลูกง่ายและไม่ต้องดูแลมากเช่น ฟักข้าว ผักเชียงดา อ่อมแซบ ลูกใต้ใบบอน หม่อน และผักปลัง โดยในครั้งแรกเริ่มจากทดลองปลูกผักสวนครัวไม่กี่อย่าง เมื่อประสบความสําเร็จ สามารถเก็บผลผลิตได้ จึงเริ่มต่อยอดทดลองปลูกต้นไม้คละกันแบบมาซาโนบุ ฟูกูโอกะ ผู้ริเริ่มเกษตรกรรมธรรมชาติ โดยปลูกต้นไม้หลายชั้นหลายระดับรวมกัน ก็ได้ผลผลิตค่อนข้างดี มีผักหลากหลายชนิดให้รับประทานมากขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยโปรตีนจากไข่ไก่วันละ2ฟอง ซึ่งได้จาก“แจ่ม”และ“จันทร์” ไก่พันธุ์ไข่2ตัวที่เลี้ยงเอาไว้ อีกทั้งยังนํามูลไก่ไปหมักกับเศษใบไม้เพื่อใช้เป็นปุ๋ยเพิ่มแร่ธาตุให้ต้นไม้

ศาลาขนาดเล็กที่ใช้เป็นมุมพักผ่อนยังคงกลิ่นอายของสวนเดิมที่เป็นสไตล์บาหลีมีไม้กระถางและไม้ใหญ่บางต้นที่ยังเก็บไว้ให้ร่มเงาและความสวยงามแก่สวน

ไม้ดอกอย่างแพงพวยที่มักเห็นเป็นไม้ประดับสวยๆในสวนทั่วไป แต่คุณตี๋ยังตัดต้นและนําไปตากแห้งทําเป็นชาดื่ม ช่วยลดระดับน้ําตาลในร่างกาย รวมถึงผักแพวซึ่งนําติดมือมาจากร้านอาหารก็นํามาปักชําในน้ํา เป็นผักที่รับประทานแกล้มกับอาหารหลายชนิด

“เรื่องหลักคือดิน จะทําอย่างไรให้ดินมีชีวิตตอนที่ไปทํางานช่วยวางผังชุมชนกับเกษตรอินทรีย์ที่แม่ทาก็ได้เรียนรู้ว่าการปลูกผักให้งาม ดินต้องดี แต่ทุกทีเราบํารุงดินโดยการซื้อปุ๋ยซื้ออะไรมาใส่ ทีนี้เราทดลองไม่ซื้อดินหรือปุ๋ยมาใส่เลยทําให้ดินเป็นธรรมชาติใบไม้ร่วงก็เก็บไปสุมๆจนกลายเป็นดิน อันไหนรกเกินก็นําไปทําเป็นปุ๋ยผสมกับมูลไก่เพิ่มแร่ธาตุในดิน”คุณตี๋เล่าพลางพลิกใต้เศษใบไม้เพื่อให้ผมเห็นความร่วนและสมบูรณ์ของเม็ดดิน ก่อนจะพาไปชมสวนและแนะนําต้นไม้ต่างๆ พร้อมเล่าสรรพคุณให้ฟังและทิ้งท้ายด้วยแง่คิดเรื่องความงามของสวนว่า

ภายในอ่างน้ําที่ประดับในสวนเลือกปลูกพืชรับประทานได้ เช่น ผักแขยงที่ให้รสชาติคล้ายมินต์ สามารถนํามารับประทานสดๆ ลวกจิ้มหรือใช้ประกอบอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวได้

ต้นไม้ใหญ่ของเดิมที่ตัดแต่งให้กิ่งก้านไม่แผ่ออกมาก เพื่อไม่ให้บดบังแสงแดดเนื่องจากผักสวนครัวด้านล่างส่วนใหญ่ต้องการแสงเกือบตลอดทั้งวัน

ผักชีขึ้นแทรกไปกับมันญี่ปุ่น แม้ผลผลิตจากส่วนหัวมันที่ได้จะไม่ดีเท่าในท้องตลาด แต่ก็นําใบมาลวกหรือประกอบอาหารรับประทานได้เช่นกัน ทั้งยังมีสีสันสวยงาม ช่วยสร้างจุดเด่นในสวนได้

“เมื่อก่อนตอนเราเรียนเรื่องการออกแบบก็มักมองนิยามความงามตามทฤษฎีที่สอนมา แต่พอได้มาจัดสวนและดูแลสวนเองก็ได้เห็นความงามอีกแบบ เมื่อก่อนเราเน้นแต่ต้นไม้ ไม่เน้นดินแต่ต้นไม้จะงาม ดินก็ต้องงาม มันมีสิ่งมีชีวิตมีไส้เดือน มีแมลง มีผีเสื้อ มีนกกินแมลง เป็นการสร้างวงจรของระบบนิเวศที่สวยงาม”

จริงอย่างที่คุณตี๋ว่า เราอาจเคยเห็นสวนที่ตัดแต่งดูแลอย่างสวยงาม ออกดอกออกผลให้เห็นตลอด แล้วก็เพลิดเพลินกับความงามเหล่านั้นเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งเราก็จะเคยชินและรู้สึกปกติกับความงามแบบนั้น แต่หากความงามได้รับการถ่ายทอดไปมากกว่าสิ่งที่ตาเห็น เป็นสิ่งที่สัมผัสและเคลื่อนไหวเติบโตได้อยู่เสมอ ผมคิดว่าความมีชีวิตของธรรมชาติจะเติบโตและสร้างสรรค์ความสวยงามให้เราได้ชื่นชมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ต้นไม้หลายชนิดในสวนเป็นพืชตระกูลถั่ว ซึ่งจะมีปมรากที่ช่วยตรึงไนโตรเจนในดิน ช่วยให้ดินมีธาตุอาหารสําหรับการเจริญเติบโตของต้นไม้ หนึ่งในนั้นก็คือหางนกยูงไทยต้นนี้

ก่อนจะปรับพื้นที่เป็นแปลงผัก คุณตี๋จะนําใบไม้แห้งมาห่มดินเพื่อรักษาปริมาณน้ําในดินและเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินซึ่งอยู่ใกล้ผิวดิน รวมถึงลดการสูญเสียธาตุอาหารของพืชด้วย

แจ่มและจันทร์ ไก่สองตัวซึ่งเลี้ยงไว้เพื่อรับประทานไข่บางครั้งก็ปล่อยให้เดินเล่นในสวนโดยให้อยู่ในสุ่มไก่เพื่อจํากัดพื้นที่ไม่ให้ไปรบกวนแปลงต้นไม้อื่นๆ

เก็บกวาดเศษใบไม้ที่ร่วงลงมาในสวนให้ไปกองอยู่ใต้พุ่มไม้เพื่อให้เกิดการทับถมจนกลายเป็นดินเหมือนในธรรมชาติโดยมีไส้เดือนดินและน้ําหมักชีวภาพเป็นตัวช่วยเร่งกระบวนการย่อยสลาย

เศษใบไม้ส่วนที่เหลือก็เก็บมาผสมรวมกับมูลของไก่ที่เลี้ยงเอาไว้ ใช้เป็นปุ๋ยสําหรับเพิ่มแร่ธาตุให้ต้นไม้ด้วยวิธีชีวภาพโดยไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมี

ถั่วดาวอินคา ไม้พื้นบ้านที่มีประโยชน์มากมายหลายส่วน ตั้งแต่ยอดที่นําไปทําอาหารได้ ทั้งยังอุดมด้วยกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3,6และ9 วิตามินเอและวิตามินอี รวมถึงใช้สกัดเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น สบู่ยาสระผม และน้ํามัน


เรื่อง : “ปัญชัช”

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข, ศุภกร ศรีสกุล

 

พลังประชาชนที่เปลี่ยน “กองขยะ” สู่ “สวนผักคนเมืองเชียงใหม่”

ใจบ้านสตูดิโอ: เมื่อทุกเสียงให้ความหมายในงานออกแบบ

The post สวนคนเมืองขนาดเล็ก แต่สามารถปลูกผักและเลี้ยงไก่ไข่ไว้บริโภคได้ตลอดทั้งปี appeared first on บ้านและสวน.

Viewing all 9932 articles
Browse latest View live