Quantcast
Channel: บ้านและสวน
Viewing all 9929 articles
Browse latest View live

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิตบนสะดึงไม้

$
0
0

ในตอนนี้กระแสการปักผ้ากำลังฮิตมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเย็บปักบนสะดึงแบบธรรมดาด้วยลวดลายการปักผ้าแบบต่าง ๆ หรือ งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต บนสะดึงไม้ เช่น การปักดอกไม้ การปักใบไม้ ก็ดูสวยงามน่ารักน่าหาเวลาว่างไปนั่งปักผ้ามาก ๆ แต่ในตอนนี้การปักผ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือการปักรูปคนแบบสามมิติและมีการสร้างเส้นผมให้สยายออกมาพริ้วไสวเหมือนเป็นเส้นผมจริง ๆ 

ผลงานสุดสร้างสรรค์นี้คือผลงานของ คุณเหิน – ชัยณรงค์ พูลอ่อน นักออกแบบที่สร้าง งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต บน สะดึงไม้ได้สวยงามและมีเอกลักษณ์ คุณเหินใช้สะดึงในการตรึงผ้าและใช้ไหมปักผ้ากับไหมพรมในการปักสร้างลวดลายซึ่งเป็นการปักรูปคนในแบบที่มีเส้นผมปลิวสวยออกมาจากผ้า ไม่ว่าจะเป็นการผูกปล่อยเส้นผมพริ้วสไว ผมหางม้าหรือแม้แต่การถักผมเปีย คุณเหิน ก็สร้างสรรค์ผลงานออกมาได้แบบมีชีวิตชีวาเป็นธรรมชาติมาก ๆ

 

เทคนิคขั้นพื้นฐานการปักดอกไม้

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

อุปกรณ์งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

1 สะดึงไม้ปักผ้า

2 ผ้าดิบสีขาว

3 ไหมปักผ้า

4 ไหมพรมสีต่าง ๆ

5 เข็มเย็บผ้า

6 กรรไกร

7 ปากกาสำหรับเขียนผ้า

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

ขั้นตอนการทำงานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

1 นำผ้าดิบสีขาวมาใส่เข้าไปในสะดึง แล้วดึงผ้าให้ตึงทุกทิศทาง จากนั้นเริ่มจากการออกแบบลวดลายโดยใช้ปากกาเขียนผ้าวาดลวดลายที่ต้องการจะปักลงบนชิ้นงานก่อน

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

2 เริ่มจากการทำผมสามมิติก่อน โดยเริ่มจากบริเวณที่เราวาดลายเส้นเป็นศรีษะ ให้แทงเข็มที่มีเส้นไหมพรมขึ้นมาจากด้านใต้สะดึงจุดที่หนึ่ง เว้นระยะความยาวของเส้นไหมพรมเท่ากับเส้นผมที่ต้องการ จากนั้นแทงเข็มลงไปที่ผ้าจุดที่สองให้เยื้องมาด้านขวาจากรูเข็มแรกเล็กน้อย แล้วแทงเข็มขึ้นมาจุดที่สามทางด้านขวา แล้วล็อกเส้นไหมพรมด้วยการแทงเข็มกลับไปที่จุดที่หนึ่ง ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนครบเส้นรอบวงที่เราวาดเป็นศรีษะ

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

3 เก็บความเรียบร้อยด้านในเส้นผม ด้วยการใช้ไหมพรมสีเดิมเย็บเป็นเส้นตรงปิดให้เต็มพื้นที่ด้านในศรีษะ

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

4 ตัดไหมพรมที่เป็นห่วงแยกออกมาให้เป็นเส้นตรง

 

5 ใช้หวีขนาดเล็กหวีเส้นไหมพรมที่พันเกลียวอยู่ ให้คลายตัวออกเป็นเส้นผมตรงเส้นเล็ก ๆ

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

6 รวบเส้นไหมพรมเข้าด้วยกันจากนั้นใช้เส้นไหมพรมอีกหนึ่งเส้นมาผูกรอบไหมพรมทั้งหมด จัดทรงไหมพรมให้เหมือนการผูกผมคน  แล้วใช้กรรไกรตัดเส้นไหมพรมให้ความยาวสม่ำเสมอกัน

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

7  สร้างลวดลายกิ่งไม้ด้วยวิธีการเย็บแบบด้นถอยหลัง(BACKSTITCH) ปักเข็มขึ้นมาจากด้านหลังผ้าจุดที่ 1 แล้วปักเข็มลงไปในผ้าจุดที่ 2 ซึ่งอยู่ทางด้านขวาของจุดที่ 1 โดยให้ความยาวของเส้นไหมยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากนั้นปักเข็มขึ้นมาจากจุดที่ 3 ซึ่งอยู่ถัดมาจากจุดที่ 1 ด้านซ้ายมือ 0.5 เซนติมเตร แล่วปักเข็มลงจุดที่ 1

จากนั้นเริ่มต้นฝีเข็มใหม่โดยการปักจุดที่ 4 ซึ่งอยู่ถัดมาจากจุดที่ 3 ทางซ้ายมือ 0.5 เซนติเมตร  ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ โดยรักษาระยะห่างให้สม่ำเสมอกัน

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

8 สร้าวลวดลายดอกไม้ด้วยการใช้วิธีปักเดซี่(LAZY DAISY STITCH) เริ่มด้วยการร้อยไหมปักเข้ารูเข็ม ขมวดปมให้เรียบร้อย แล้วแทงเข็มขึ้นมาที่จุดกึ่งกลางให้ปมอยู่ข้างใต้เว้นความยาวไหมปักไว้ 1.5 เซนติเมตร จากนั้นแทงเข็มลงมาในจุดที่ติดกันตามภาพ หน้าตาจะออกมาเป็นห่วงโซ่ ต่อด้วยการแทงเข็มขึ้นมาที่จุดกึ่งกลางด้านในของเส้นไหมปักความยาวไหมปัก 1.5 เซนติเมตร แล้วแทงเข็มไปฝั่งตรงข้ามให้ชิดติดกัน ทำกลีบต่อไปเหมือนเดิมโดยเริ่มจากจุดศูนย์กลางเดีบวกับกลีบแรก

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

9 สร้างลวดลายเกษรดอกไม้ด้วยการปักปมฝรั่งเศส (FRENCH KNOT) ปักเข็มขึ้นมาที่จุดกึ่งกลาง และม้วนด้ายทวนเข็มนาฬิกา หนึ่งหรือสองรอบเข็ม จากนั้นดึงไหมปักให้ตึงแล้วแทงเข็มลงที่จุดเดิม ค่อย ๆ รูดไหมจนสุด เท่านี้เราก็จะได้ปมฝรั่งเศสเป็นเการดอกไม้แล้ว

TIPS

การปักผ้าด้วยมือด้วยลายปักพื้นฐาน

1. การปักแบบด้นถอยหลัง ให้เป็นเส้นตามที่เราต้องการค่ะ หรือพูดง่าย ๆ คือการปักไหมไปด้านหลังแล้วแทงขึ้นไปด้านหน้านั่นเองค่ะ ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะคะ การปักแบบนี้เป็นการปักแบบเบสิคและใช้งานมากที่สุดเพราะทั้งง่ายแถมนำไปใช้ได้กับเส้นหลายรูปแบบอีกด้วย

2. การปักแบบด้นหรือการควิลท์ จะมีลักษณะเหมือนเส้นปะเลยค่ะ โดยการเย็บก็ง่ายไม่แพ้แบบแรก เพราะเป็นการเย็บแบบเดินหน้าให้มีระยะห่างที่ไม่กว้างมากแบบเท่า ๆ กัน เพื่อนสามารถเพิ่มลูกเล่นได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไหม 2 สีปักสลับกันในแต่ละช่องหรือจะใช้ลูกปัดร้อยเพิ่มก็ได้ค่ะ

3. การปักแบบเส้นตรง เป็นการปักที่ง่ายและเบสิคสุด ๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ เพียงแค่ปักเข็มลงและแทงขึ้นมาตามปกติเท่านั้นเอง แต่ว่าการปักแบบนี้ก็ต้องวางแผนเหมือนกันนะคะว่าจะปักรูปแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะใช้กับการปักรูปดอกไม้หรือใบไม้ที่มีรายละเอียดไม่เยอะค่ะ

4. การปักปมฝรั่งเศษ ซึ่งจะมีรูปร่างเป็นปมอันจิ๋ว ๆ ที่แอบมีรายละเอียดอยู่เล็กน้อย โดยการปักใช้วิธีแทงเข็มขึ้นมาและพันไหมรอบเข็ม 2-3 รอบจากนั้นปักเข็มลงไปยังจุดเดิมและดึงไหมให้ตึง แต่ระวังอย่าให้แน่นจนเกินไปนะคะ เห็นอันเล็ก ๆ แบบนี้แต่งานละเอียดอย่างการทำเกสรดอกไม้หรือการปักเป็นลายพื้นผิวให้กับรูปทรงอื่น ๆ ก็ต้องพึ่งการปักแบบนี้เลยค่ะ

5. การปักแบบก้านดอกไม้ หรือการปักเป็นเส้นแบบ 2 ชั้น ดูแล้วจะเหมือนกับก้านของดอกไม้เลยใช่ไหมล่ะคะ แต่การปักแบบนี้ก็นำไปปักเป็นเส้นขอบแบบอื่น ๆ ได้เหมือนกัน ทั้งเส้นตรงและเส้นโค้งเลยค่ะ ส่วนวิธีการปักจะคล้ายกับการด้นพียงแต่จะปักแบบให้เส้นซ้อนกันในแนวเฉียงนั่นเองค่ะ

6. การปักห่วงโซ่ เป็นการปักที่เหมาะมากค่ะ สำหรับใครที่อยากได้เส้นขอบมีรายละเอียดสวย ๆ และโดดเด่นสะดุดตา วิธีการคือเริ่มปักโดยแทงเข็มขึ้นมาแล้วปักลงไปยังจุดเดิมเลยค่ะ แต่ก่อนที่จะดึงไหมให้ตึงให้แทงเข็มขึ้นยังจุดถัดไปโดยให้ปลายไหมพันล้อมไว้จากนั้นค่อย ๆ ดึงให้ตึงได้เลยค่ะ

7. การปักแบบทึบ จะมีลักษณะเป็นผืนทึบทั้งหมด ส่วนรูปทรงที่จะปักก็แล้วแต่เราจะสร้างสรรค์ได้เลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะใช้กับการปักใบไม้หรือกลีบดอกไม้ โดยการปักนั้นจะเป็นการแทงเข็มขึ้นและปักลงไปตามปกติ เพียงแค่ให้อยู่ในกรอบของรูปทรงที่ต้องการเท่านั้นเอง เห็นง่าย ๆ อย่างนี้ แต่ก็แอบใช้ฝีมือโดยการปักให้ชิดและมีความยาวของเส้นที่เหมาะสมด้วยนะคะ

8. การปักแบบขนนก ที่ดูแล้วเหมือนเส้นพริ้วไหมแบบไขว้กันเป็นกิ่งก้าน การปักแบบนี้เลยเหมาะกับการปักเป็นรูปทรงที่มีอยู่ในธรรมชาติ อย่างก้านใบไม้ สาหร่าย ขนนก ซึ่งจะใช้ร่วมกับการปักแบบอื่น ๆ หรือจะปักเป็นเส้นขอบก็ได้เหมือนกันค่ะ ซึ่งวิธีการนั้นจะเริ่มด้วยการแทงเข็มขึ้นมาและปักลงไปยังจุดถัดไปที่อยู่ด้านข้าง โดยก่อนที่จะดึงไหมให้ตึงนั้น ให้แทงเข็มขึ้นมายังตำแหน่งที่อยู่ระหว่างจุดแรกกับจุดที่สองโดยเยื้องไปด้านล่าง และอย่าลืมที่จะให้ปลายไหมอ้อมอยู่ด้านล่างด้วยนะคะ

9. การปักที่ดูเหมือนกับผมเปียแบบนี้มีวิธีการที่ง่ายมากค่ะ เพียงแค่หลังจากแทงเข็มขึ้นมาและปักลงไปตามปกติแล้ว การแทงเข็มขึ้นมาอีกครั้ง ให้แทงทะลุผ่านปลายไหมในเส้นแรกแทนการเว้นระยะนั่นเองค่ะ เป็นการปักอีกแบบที่เหมาะกับการนำไปใช้ปักเส้นขอบ แถมเป็นการปักที่ไม่ว่าจะดูจากด้านหน้าหรือด้านหลังผ้าก็จะมีหน้าตาที่เหมือนกันเลยค่ะ

10. การปักห่วงโซ่แบบเดี่ยว ที่จะคล้ายกับการปักห่วงโซ่แบบปกติแต่คราวนี้ห่วงแต่ละอันจะแยกกันแบบอิสระค่ะ ซึ่งการปักจะมีวิธีที่เหมือนกัน แต่การเริ่มปักห่วงถัดไปจะไม่จำเป็นต้องติดกับห่วงอันเดิมค่ะ จะใช้วิธีการปักลงไปใต้ผ้าและแทงขึ้นไปยังตำแหน่งไหนก็ได้ วิธีการเดิมแค่เปลี่ยนรูปแบบนิดหน่อยก็ได้ลายปักแบบใหม่แล้วล่ะค่ะ ใครที่อยากปักกลีบดอกไม้ก็ลองนำลายนี้ไปใช้ได้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.blisby.com/blog/stitches-every-embroiderer-should-know/

8 ไอเดีย ต่อยอดงานปักผ้า เพื่อเป็นชิ้นงานสุดสร้างสรรค์

 

งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิต

 

 

ขอบคุณ 

คุณเหิน – ชัยณรงค์ พูลอ่อน

ติดตามผลงานของครูเหินได้ที่

Facebook : Hern Chainarong

Instagram : Chainarong111

 

ขอบคุณสถานที่

ร้าน Little Friends Beyond B&B

 

เรื่อง : อรพรรณ วัจนะเสถียรกุล

ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

สไตล์ : suanpak

The post งานปักผ้าสามมิติแบบมีชีวิตบนสะดึงไม้ appeared first on บ้านและสวน.


KOKUYO X PAINTERBELL “AnywhereAnychair EXHIBITION”

$
0
0

KOKUYO เปิดตัวงาน KOKUYO x PAINTERBELL “AnywhereAnychair EXHIBITION” – นิทรรศการ เก้าอี้ “ANY’ โมเดลสุดพิเศษจาก KOKUYO งานดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่ายมากที่สุด การันตีด้วยรงวัล Good Design Award 2019 Best 100 เหมาะกับ Lifestyle ทุกการทํางาน พร้อมชมเก้าอี้ ANY ลายพิเศษที่วาดโดย Painterbell ศิลปินวาดภาพประกอบมากฝีมือเจ้าของลายตัวการ์ตูน John Lulu and Friends ที่หลายคนรัก

ภายในนิทรรศการนี้ประกอบไปด้วยโซนโชว์ผลงานศิลปะที่ KOKUYO ร่วมมือกับ Painterbell รังสรรค์เก้าอี้ ANY รุ่น พิเศษทั้งหมด 5 สี เข้ากับไลฟ์สไตล์คาร์แร็คเตอร์ของ Painterbell ทั้ง 5 ได้อย่างลงตัว ซึ่ง Painterbell กล่าวไว้ว่า “John, Lulu, Fufuland, Emily และ Joe เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ของแต่ละสาขาอาชีพที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง รักงาน ดีไซน์เรียบง่ายสไตล์มินิมอล แสดงผลงานผ่าน Art Sculpture ที่สื่อถึงสายงานของตัวเอง เพื่อให้เห็นถึงคําว่า Art+Design ที่เข้าถึงกัน”

เก้าอี้ ANY ของ KOKUYO เป็นเก้าอี้ที่ถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์มินิมอล เรียบง่าย มีโครงสร้างที่ดูโปร่งเบา ลายเส้นลื่น ไหล แต่ยังเข้ากับดีไซน์อื่นๆ ได้หลากหลายสไตล์ ด้วยเฉดสีพาสเทลให้เลือกเยอะถึง 5 สีด้วยกัน แม้ว่าดีไซน์ของเก้าอี้ ANY จะดูน้อย แต่ฟังค์ชั่นของเก้าอี้ก็มีให้เพรียบพร้อม ตัวเก้าอี้ทํามาจากวัสดุโพลีนโพรพิลีน หรือ PP ที่ทนทาน รับแรง กระแทกและแรงดึงได้ดี ในขณะเดียวกันก็มีน้ําหนักเบาเคลื่อนย้ายง่าย ส่วนเบาะรองนั่งที่พับได้ทํามาจากวัสดุโพลีนยูรีเทน ที่นุ่มสบาย นั่งนานๆ ไม่มีอาการเมื่อย ทั้งหมดนี้ทําให้เก้าอี้ ANY ได้รับรางวัล Good Design Award 2019 Best 100 ไปครอง

ทุกคนที่สนใจมาเข้าชมนิทรรศการ KOKUYOX PAINTERBELL “AnywhereAnychair EXHIBITION” สามารถ เข้าร่วมงานได้ เพียงแค่ลงทะเบียนเข้าร่วมงานด้วยการ Scan QR Code เพื่อกรอกข้อมูล เมื่อลงทะเบียนแล้ว สามารถรับ Code ส่วนลดสําหรับการช้อปผ่าน kokuyo.co.th

นอกจากเดินชมนิทรรศการแล้ว KOKUYO ยังมีกิจกรรมให้ผู้เข้าชมทุกคนได้ร่วมสนุกกันถึง 2 กิจกรรมดังนี้:

  1. กิจกรรมภายในงาน – ถ่ายภาพมุมที่คุณชอบภายในงาน Post ลง IG และ Facebook ของคุณพร้อมติด #AnywhereAnychain #kokuyOxpainterbell (ต้องเปิดเป็นสาธารณะ) – นําหลักฐานการลงรูปมาแลกรับขนม เครื่องดื่ม และของที่ระลึกจาก KOKUYOx PAINTERBELL (มีจํานวนจํากัด เพียง 50 ชุดต่อวัน)
  2. กิจกรรมลุ้นรับเก้าอี้ ANY 5 รางวัล (รางวัลละ 1 สี)
    1. ถ่ายภาพสุดเก๋ของคุณกับเก้าอี้ ANY สีที่คุณชอบภายในงานลงใน IG ของคุณ (ต้องเปิดเป็นสาธารณะ)
    2.ใส่แคปชั่นบอกเหตุผลว่า ทําไมเก้าอี้สีที่คุณเลือกจึงเหมาะกับคุณ ในคอนเซ็ปต์ ANY + LIFESTYLE = YOUR SPACE! พร้อมติด hashtag ##AnywhereAnychair #kokuyoxpainterbell
    3. ผู้โชคดี 5 ท่านที่ภาพและเหตุผลโดนใจกรรมการที่สุดจะได้รับรางวัลเก้าอี้ ANY จาก KOKUYO มูลค่า 7,400 บาท คนละ 1 ตัว
    4. ระยะเวลาร่วมกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 26 – 30 พฤศจิกายน 2563 5. คําตัดสินของกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด

The post KOKUYO X PAINTERBELL “AnywhereAnychair EXHIBITION” appeared first on บ้านและสวน.

ZIVI NIMMAN โฮสเทลเชียงใหม่ที่มีห้องพักเพียง 4 ห้อง 4 สไตล์

$
0
0

ZIVI เป็นสำนวนที่มาจากภาษาโครเอเชียมีความหมายว่า Live Life ด้วยแนวคิดการออกแบบที่ตั้งใจให้โฮสเทลแห่งนี้เป็นเสมือนบ้านที่มีดีไซน์ เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและชวนผ่อนคลายขณะพักผ่อน ZIVI NIMMAN 

โดยเริ่มต้นจากการรีโนเวตตึกแถวเก่าที่เจ้าของเคยอยู่อาศัยมาตั้งแต่วัยเด็ก แล้วจัดวางฟังก์ชันใหม่เพื่อให้ตอบโจทย์กับการทำหน้าที่เป็นโฮสเทลมากที่สุด ZIVI NIMMAN 

ZIVI NIMMAN ที่พักเชียงใหม่ โฮสเทลชียงใหม่

ห้องพักของที่นี่มีเพียง 4 ห้องเท่านั้น โดยแต่ละห้องมีขนาด 32 ตารางเมตร และมีห้องน้ำในตัว ตกแต่งด้วยธีมที่แตกต่างกันตามความชอบและไลฟ์สไตล์ของแขกผู้เข้าพัก โดยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งล้วนได้รับการคัดสรรจากเจ้าของเองทั้งหมด แบ่งเป็นห้อง Black เน้นเฟอร์นิเจอร์สีดำเป็นหลัก ห้อง White โดดเด่นด้วยการตกแต่งด้วยหินอ่อนสีขาว ห้อง Comfy Gold พิเศษด้วยฮาร์แวร์สีทองทั้งห้อง และห้อง Wood บรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองด้วยการนำไม้สักของจังหวัดเชียงใหม่มาใช้เป็นองค์ประกอบหลัก นอกจากนี้แต่ละชั้นของห้องพักยังมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับไว้แชร์กิจกรรมร่วมกัน จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมชุดครัวขนาดกะทัดรัดไว้สำหรับนั่งรับประทานอาหารพร้อมหน้ากัน

ZIVI NIMMAN ที่พักเชียงใหม่ โฮสเทลชียงใหม่ ZIVI NIMMAN ที่พักเชียงใหม่ โฮสเทลชียงใหม่ ZIVI NIMMAN ที่พักเชียงใหม่ โฮสเทลชียงใหม่

ที่ตั้ง : 12/14 ซ.15 ถ.นิมมานเหมินท์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่
โทร : 0-5311-1809
FB : zivinimman

เจ้าของ: ฉมาพันธ์ อัครอิทธิพงศ์
ออกแบบ : Pommballstudio


อ่านต่อ MILA HOTEL THAPAE รีโนเวตตึกแถวเก่าเป็นที่พักใกล้คูเมืองเชียงใหม่สไตล์ลักชัวรี่

SLEE(P) HOSTEL & CAFÉ เชื่อมโยงกำแพงคูเมืองเชียงใหม่ด้วยวัสดุ “อิฐ”

THE EARTH CREATIVE LIFESTYLE HOTEL
โลกใบเล็กสำหรับผู้มองหาที่พักเชียงใหม่ในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนบ้าน

ที่พักเชียงใหม่ The Earth Creative Lifestyle Hotel

The post ZIVI NIMMAN โฮสเทลเชียงใหม่ที่มีห้องพักเพียง 4 ห้อง 4 สไตล์ appeared first on บ้านและสวน.

โครงสร้างรั้ว และการแก้ไข รั้ว เอียง

$
0
0

วิธีก่อสร้าง รั้ว ให้แข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้ยาวนานมีปัจจัยหลักๆ คือ สภาพดินและระดับดิน ซึ่งวิศวกรจะออกแบบโครงสร้างให้เหมาะสมกับแต่ละกรณี ในเบื้องต้นมีปัจจัยและชนิดของโครงสร้างรั้วต่างๆ ดังนี้

ปัจจัยและชนิดของโครงสร้าง รั้ว ต่างๆ

1.ระดับความสูงดินสองฝั่งเท่ากัน

กรณีที่ระดับดินของเราและเพื่อนบ้านสูงเท่ากัน และทำเป็นรั้วร่วมโดยแชร์ค่าใช้จ่ายกัน โดยสร้างทับแนวเขตที่ดิน สามารถใช้เสาเข็มต้นเดียวกันในฐานรากแต่ละอันได้ เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดและรั้วมีความสมดุลเพราะแรงดันของดินทั้งสองฝั่งเท่ากัน

รั้ว

2.ระดับดินแตกต่างกันไม่เกิน 60 เซนติเมตร

ถ้าระดับดินแตกต่างกันไม่เกิน 60 เซนติเมตร หรือกรณีทำโครงสร้างรั้วอยู่ในเขตที่ดินของเรา โครงสร้างเช่นนี้ไม่สมดุลเหมือนกรณีแรก จึงต้องออกแบบเป็นฐานรากแบบตีนเป็ด (ยื่นเข้ามาในที่ดินของเราเพียงฝั่งเดียว)

รั้ว

3.ระดับดินแตกต่างกันมากกว่า 70 เซนติเมตร

ถ้าระดับดินแตกต่างกันมากกว่า 70 เซนติเมตรขึ้นไป จำเป็นต้องใช้ฐานรากพิเศษ โดยเพิ่มคานดึงรั้งที่เรียกว่า “คานสเตย์” เพื่อไม่ให้กำแพงเอนล้มไปด้านที่ระดับดินต่ำกว่า อีกทั้งต้องออกแบบกำแพงกันดินทลายออกสู่ภายนอกด้วย

กำแพงรั้วเอียง

สาเหตุและการแก้ไข

1.ก่อสร้างผิดวิธี

หากการก่อสร้างไม่เหมาะสมกับสภาพที่ดินนั้นๆ เช่น การสร้างรั้วรอบที่ดินซึ่งมีระดับความสูง-ต่ำต่างกับที่ดินข้างเคียงมาก ถ้าช่างนำแบบก่อสร้างสำหรับรั้วทั่วไป (รั้วสำหรับที่ดินสองฝั่งสูงเท่ากัน) มาใช้งาน ก็จะทำให้รั้วเกิดอาการเอียงหรือแบะออกอย่างแน่นอน

การแก้ไข

ควรทำคานดึงรั้งที่เรียกว่า “คานสเตย์” และฐานรากเพิ่มทันที เพื่อหยุดการเอียง พร้อมตัดโครงสร้างรั้วที่เอียงออกจากรั้วที่ยังปกติ เพื่อไม่ให้โครงสร้างดึงกัน

รั้ว

2.ผลกระทบจากการตอกเข็มในพื้นที่ข้างเคียง

อาจส่งผลให้เสาเข็มและฐานรากรั้วที่อยู่ใต้ดินแตกร้าวหรือทรุดเอียงได้ โดยเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายควรรีบถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งกับเจ้าของบ้านข้างเคียงเพื่อซ่อมแซม

3.ดินไหล

แม้จะก่อสร้างด้วยวิธีการที่ถูกต้องแล้ว แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น น้ำท่วมและดินทรุดตัว จะทำให้ดินไหลออกไปได้ ทำให้เสาเข็มขาดความแข็งแรงตามไปด้วย

การแก้ไข

หากพบโพรงดินใต้แนวรั้ว ให้รีบเติมดินและชั้นทรายทับหน้า พร้อมบดอัดด้วยรถกบกระโดด ในการเติมดินนั้นจำเป็นต้องทำทั้งสองฝั่ง เพื่อให้พื้นดินมีความมั่นคง

ขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ ช่างประจำบ้าน โดยสำนักพิพม์บ้านและสวน

สั่งซื้อได้ที่ www.naiin.com/product/detail/205452

เรื่อง ศักดา ประสานไทย

ภาพประกอบ ศณาธิป จันทร์เอี่ยม


เรื่องอื่นที่น่าสนใจ

รั้วเมทัลชีท ติดตั้งเองได้ ไม่ยากเลย

กฎหมาย รั้วที่ดิน รั้วบ้าน

อยากต่อเติมรั้วให้สูงกว่าเดิม ต้องขออนุญาตเพื่อนบ้านไหม?

 

 

 

The post โครงสร้างรั้ว และการแก้ไข รั้ว เอียง appeared first on บ้านและสวน.

บ้านที่ตกแต่งอย่างเข้าใจ สวยพร้อมอยู่แบบประหยัดเวลา จับเข่าคุยกับมืออาชีพด้านการตกแต่งภายใน คุณเอิร์ธ Interior Designer จากแสนสิริ

$
0
0

ที่มาแนวคิดสร้างสรรค์บ้านตัวอย่าง แต่งครบพร้อมอยู่จาก แสนสิริ

อากาศเย็นๆ ของบ่ายวันหนึ่ง ทีมงานบ้านและสวนได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างของโครงการบุราสิริ พัฒนาการ ของ แสนสิริ ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์บ้านบรรยากาศรีสอร์ท ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์บ้านใกล้ชิดธรรมชาติที่กำลังมาแรงในยุคนี้ วันนี้เราได้มีโอกาสสนทนากับ Interior Designer จากแสนสิริ คุณเอิร์ธ ศาศวัต คูสุวรรณ ถึงข้อดีในการเลือกซื้อบ้านตกแต่งพร้อมอยู่ รวมถึงที่มาที่ไปของการออกแบบตกแต่งบ้านในรั้วโครงการของแสนสิริ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าเยี่ยมชมทุกครั้งเสมอ

Q: ในมุมมองของ Interior Designer อะไรคือข้อดีของการซื้อบ้านที่ตกแต่งพร้อมอยู่ จากแสนสิริ

คุณเอิร์ธ : “ผมว่ามันเป็นความพิเศษและความคุ้มค่าที่แสนสิริมอบให้ลูกค้า ทุกๆ อย่างที่เราเลือกให้ การออกแบบของเรา เราลงดีเทลทุกจุด เริ่มตั้งแต่ Inspiration แรก มาเป็น Concept Development และ Design Development ออกมาเป็นแบบ หลังจากนั้นคุยกับผู้รับเหมา เลือกเฟอร์นิเจอร์ เลือกวัสดุ รวมถึงเราลงพื้นที่ไปดูหน้างานให้ด้วย ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาไปกับการออกแบบ คุมงานก่อสร้างและตกแต่ง แต่ได้บ้านสวยแต่งครบในสไตล์ที่ลูกค้าชอบ ตามที่เห็นทุกอย่าง ที่สำคัญบ้านตกแต่งแล้วเสร็จจากแสนสิริในแต่ละโครงการนั้น มีจำนวนจำกัดเพียงแบบละ 1 หลังเท่านั้นในโครงการ เพราะฉะนั้นสำหรับลูกค้าคนไหนที่มองหาบ้านที่สวยพร้อมอยู่ มีทุกอย่างครบแล้ว ผมว่ามันตอบโจทย์สำหรับลูกค้ามาก ความคุ้มค่าตรงนี้แสนสิริดูแลให้หมดแล้ว เมื่อเราเปิดให้จับจองทีไร ก็เลยมีความต้องการของตลาดสูง ช่วงนี้ก็กำลังเปิดขายอยู่เช่นกัน ใครที่กำลังมองหาอยู่ หรือเคยเล็งๆที่โครงการไหนไว้ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะซื้อครับ”

“ซึ่งหลักการทำงานของเรา เราไม่ได้แค่คิดแค่คอนเซ็ปต์สำหรับ Interior ในบ้านหลังนั้น Interior Designer ของแสนสิริ เราจะมองตั้งแต่ Inspiration Concept มองตั้งแต่การออกแบบโครงการเลย หมายถึงว่าเรา Develop โครงการนี้จาก Inspiration อะไร แล้วเรามาปรับ Interior ให้มันเข้ากันทั้งหมด และตรงตามความชอบของลูกบ้าน เราคิดไปถึงว่า มีคนที่อยู่อาศัยในบ้านนี้บ้าง น่าจะมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นที่นี่บ้าง มีบรรยากาศอะไรที่เราอยากจะให้เกิดขึ้น”

Q: พูดถึงเทรนด์การออกแบบตกแต่ง ปัจจุบันเทรนด์ไหนกำลังมาแรง

คุณเอิร์ธ : “ผมว่าในส่วนของเทรนด์มันค่อนข้างกว้าง เพราะคำว่าดีไซน์ในแต่ละสไตล์ มันมีค่อนข้างหลากหลาย แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่ผมมองภาพรวมตอนนี้เป็นคีย์เวิร์ด ผมว่ามันจะเป็นคำว่า “Balance of Life” คือทุกวันนี้ถ้าสังเกตในทุกสไตล์ เราหาวิธีที่จะดึงธรรมชาติกลับมาใกล้เคียงกับเรามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำต้นไม้เข้ามา การมีสวนที่ Connect กับตัวบ้าน การดึงแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้าน รวมถึงการใช้ลมธรรมชาติแทนการเปิดแอร์ คนในยุคปัจจุบันโหยหาสิ่งนี้ อยากใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะที่ผ่านมาเหมือนเราหลุดจากธรรมชาติเกินไป เราจึงอยากดึงสิ่งเหล่านี้กลับมา”

Q: อย่างโครงการบุราสิริ พัฒนาการ มีการตกแต่งบ้านตัวอย่างที่อิงกับแนวคิดใกล้ชิดธรรมชาติ อยากให้เล่าให้ฟังถึงจุดเด่นในการทำ Interior ที่นี่

คุณเอิร์ธ : “โครงการบุราสิริ พัฒนาการ คอนเซ็ปต์คือบ้านบรรยากาศรีสอร์ท ดังนั้นบรรยากาศในโครงการนอกบ้าน ตั้งแต่ทางเข้าต่างๆ ทำให้เรารู้สึกได้กลับมาสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริง เหมือนเราได้ไปเที่ยวรีสอร์ท บางคนยุ่งๆ ไม่มีเวลามากพอไปเที่ยวพักผ่อนต่างจังหวัดบ่อยๆ การได้กลับมาบ้านแล้วได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สดชื่นผ่อนคลาย ได้อยู่ในพื้นที่ที่มีการตกแต่งที่ Connect ธรรมชาติไว้รอบตัวเรา ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ที่บ้าน

“อย่างเช่น สเปซของบ้าน ผมว่าจุดเด่นที่นี่คือ Living กับ Dining ที่มีพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ และซึ่งตรงนี้มีช่องแสงที่เรา Connect แสงตรงไปสวนด้านข้างค่อนข้างใหญ่มาก เพราะฉะนั้นคนในบ้านจะเหมือนได้นั่งดูสวนในบ้านตลอดเวลา เหมือนเรามีพื้นที่สีเขียวล้อมตัวเรา ตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงข้างบ้าน แล้วในส่วนชั้นบนจะมีระเบียงที่เรียกว่า “Sanctuary Space” ซึ่งตรงนี้จะเป็นระเบียงที่ปรับฟังก์ชันได้ ทำเป็น Semi outdoor เวลาที่เราอยากรับลม เช่น ช่วงตื่นมาตอนเช้าหรือช่วงเย็น แต่ถ้าเราอยากให้ห้องนอนเราใหญ่ขึ้น เราสามารถปิดกระจกตรงนี้ได้ ทำให้พื้นที่ภายในห้องกว้างขึ้นได้”

Q: เมื่อพูดถึงงานเฟอร์นิเจอร์ ใช้เกณฑ์อะไรในการเลือก

คุณเอิร์ธ : “ในส่วนเฟอร์นิเจอร์ เราเลือกที่ออกแนวร่วมสมัย ดูทรงเก่าบ้างผสมกับตัวที่ออกโมเดิร์น แต่ทุก Feeling ที่ออกมา มันจะมีคำว่า Tropical คือการตกแต่ง การเลือกใช้วัสดุ โทนสี มาในธีมที่ทำให้เหมือนบรรยากาศการพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ท ผมว่าในเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ เราเลือกใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ เป็นไม้ รวมไปถึงวอลเปเปอร์ด้วย ถ้าดูจากบ้านตัวอย่างหลังนี้ จะเป็นลายกราฟฟิกใบไม้ต้นไม้ แต่ละห้องจะมีลวดลายไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นไฮไลท์ของแต่ละห้อง และในพื้นที่แต่ละพื้นที่ มันจะมีรายละเอียดการใช้สีสันที่ทำให้บ้านดูสดใส

พวกรายละเอียดวัสดุที่นำมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น Soft material พวกผ้า หวาย หรือวอลเปเปอร์ กับ Hard material พวกลามิเนต พวกเมทัล ทุกจุดทุกชิ้นในบ้าน ทุกจุด Built-in Furniture ผ้าม่าน แม้กระทั่งผ้าปูเตียง หมอนอิงบนโซฟา เราเลือกมาให้ลูกค้าหมดแล้วว่ามันเข้ากันและตรงตามคอนเซ็ปต์ คือทั้งหมดผ่านตา Interior Designer ของแสนสิริมาทั้งหมด”

Q: สิ่งที่อยากให้ลูกค้ารู้สึกหลังจากที่ได้เห็นบ้านตัวอย่างหรือบ้านตกแต่งแล้วเสร็จ

คุณเอิร์ธ : “บุราสิริ พัฒนาการ เรามีคอนเซ็ปท์ค่อนข้างชัดเจนว่ามันเป็นบ้านสไตล์รีสอร์ท เพราะฉะนั้นผมว่าความประทับใจของลูกค้าที่เข้ามาสัมผัส ก็คือ เหมือนเราได้พักผ่อนอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติตลอดเวลา ซึ่งบ้านตัวอย่างนี้ เราพยายามนำเสนอหลายๆ อย่าง เช่น การจัดสวน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ผมเล่าไปเมื่อสักครู่ เพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดูบ้านตัวอย่างที่ไม่เหมือนที่อื่น ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ซึ่งลูกค้าที่มาชมบ้านตัวอย่างเขาจะได้เห็น Space Original พร้อมกับ Inspiration ที่แสนสิริตั้งใจสร้างไว้ให้ลูกค้าในการตกแต่งบ้านอยู่แล้ว บางท่านมาเยี่ยมชมโครงการ ชอบที่นี่ พอซื้อบ้านของเราไปก็ตกแต่งในสไตล์นี้”

Q: แปลว่า First Impression ที่ลูกค้าเห็นบ้านตัวอย่าง เป็นเรื่องสำคัญมาก

คุณเอิร์ธ : “ผมว่าลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้านตัวอย่าง จาก First Impression ตอนที่เขาเข้ามา เขาติดกับภาพนี้รู้สึกว่า นี่แหละคือบ้านที่เขามองหามานาน แถมยังมีคนจัดหาเฟอร์นิเจอร์พร้อมตกแต่งให้ทั้งหมด ผมว่าการที่ลูกค้าคนนึงบอกว่าจะไปจ้างดีไซน์เนอร์มา มันใช้ระยะเวลาพอสมควรตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะว่าเราอาจจะจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า สิ่งที่เราชอบจริงๆ คืออะไร บ้านตัวอย่างคือการทำให้จินตนาการของเขาออกมาเป็นรูปเป็นร่าง จับต้องได้จริง ถ้าคุณมองหาสไตล์แบบนี้ อันนี้คือตอบโจทย์ใช่เลย”

“นอกจากนี้ ในมุมของผมที่เป็นคนตกแต่ง น่าจะเป็นเรื่องของความภาคภูมิใจด้วย คล้ายๆ กับว่าในการทำบ้านตัวอย่างในแต่ละครั้ง มันเป็นต้นแบบ Inspiration ให้กับลูกค้าท่านอื่นๆ คือเราจะมีลูกค้าที่พาผู้รับเหมามาดูบ้านตัวอย่างตลอด แล้วบอกว่าอยากได้สเปซแบบนี้นะ อยากได้ดีไซน์แบบนี้ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เราภูมิใจ ซึ่งไม่ใช่แค่บ้านตัวอย่างที่ บุราสิริ พัฒนาการ ที่โครงการอื่นๆ ก็มีเหตุการณ์แบบนี้เรื่อยๆ เหมือนกัน ที่ลูกค้าชอบการตกแต่งภายในของเรามาก อยากซื้อบ้านหลังนี้เลย ไม่ก็พา Interior Designer ของตัวเองมาดู”

Q: ที่บุราสิริ พัฒนาการ มีคลับเฮาส์ที่สวยงามโดดเด่นมากๆ อยากให้เล่าถึงการออกแบบตกแต่งภายในของคลับเฮาส์ที่นี่

คุณเอิร์ธ : คลับเฮาส์ที่นี่ได้แรงบันดาลใจมาจากการ Glamping (Glamorous Camping) ที่อยากให้บรรยากาศเหมือนลูกบ้านได้แคมป์ปิ้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นตัวคลับเฮาส์ที่นี่ จะมีพื้นที่ Outdoor ค่อนข้างเยอะ เพื่อให้ลูกค้ารับลมธรรมชาติ และในขณะที่รับลมธรรมชาติ ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงนั้นด้วย บรรยากาศเสมือนลูกค้าได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่รีสอร์ทจริงๆ

Q.คติประจำใจในการทำงานของคุณเอิร์ธ ในฐานะที่เป็น Interior Designer

คุณเอิร์ธ : “คือเวลาเราคิดอะไรออกมา บางทีจะเริ่มจากแค่ภาพที่อยู่ในหัวเรา แต่สุดท้ายภาพตรงนั้น เราต้องสร้างเรื่องราวสร้างสตอรีออกมาให้ได้ว่า ในแต่ละสเปซจากภาพที่เราคิดทั้งหมดนี้ เช่น ห้องนั่งเล่น ไป ห้องนอน ไปห้องอเนกประสงค์ เรื่องราวตรงนี้จะไหลต่อกันได้ยังไง เราจะเล่าเรื่องราวได้ยังไง ในบ้านมันคือสตอรีที่ผมเห็นภาพ เช่น ครอบครัวหนึ่งเข้ามาอยู่ตรงนี้ เราอยากให้สเปซตรงนี้ คนในบ้านได้มาใช้ชีวิตด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ทานข้าวด้วยกัน มีกิจกรรมร่วมกัน เป็น สเปซที่ให้ความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัว ทีนี้ในฐานะที่เราทำงานที่แสนสิริ เราจะทำงานภายใต้คอนเซ็ปต์ที่เรียกว่า “Made For Life” เป็นร่มใหญ่ ที่ทุกโครงการที่เราทำ ในทุกอย่างที่เรามอบให้ลูกค้า ต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้า

ซึ่งในวิธีการทำงานของแสนสิริ แต่ละโครงการจะมีคอนเซ็ปต์ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นบรรยากาศที่ลูกค้าเข้าไปมองหาในบ้านตัวอย่างแต่ละสไตล์ แต่ละที่ ลูกค้าจะได้สัมผัสที่ต่างกัน ซึ่งผมว่าอันนี้มันเปิดกว้างวาไรตี้สำหรับลูกค้า เพื่อสัมผัสของจริง ได้เห็นกับตาจริงๆ ลูกค้าสามารถเดินทางมาดูได้เลยครับ”

จากที่คุณเอิร์ธเล่าให้ฟังทั้งหมด ใครที่กำลังมองหาบ้านตกแต่งพร้อมอยู่ การเลือกซื้อบ้านตัวอย่างจากแสนสิริก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะด้วยความตั้งใจและการใส่ใจทุกกระบวนการ ทำให้บ้านในฝันของคุณนั้น กลายมาเป็นบ้านแห่งความจริงที่สวยและตอบโจทย์ตรงใจทุกอย่าง

สิริ เพลส ราชพฤกษ์-345

สิริ เพลส ราชพฤกษ์-345

คณาสิริ ชัยพฤกษ์วงแหวน

บุราสิริ วัชรพล

ขอกระซิบว่า #บ้านใหม่ของเรา มีจำนวนจำกัดแบบ Limited Edition พร้อมข้อเสนอมากมายจากแสนสิริ ดังนั้นใครอยากซื้อบ้าน เวลานี้แหละ #เวลานี้ดีที่สุด ที่จะมีบ้าน วันนี้ – 30 ธันวาคม 2563 เท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติม http://siri.ly/wBrAE3B

 

The post บ้านที่ตกแต่งอย่างเข้าใจ สวยพร้อมอยู่แบบประหยัดเวลา จับเข่าคุยกับมืออาชีพด้านการตกแต่งภายใน คุณเอิร์ธ Interior Designer จากแสนสิริ appeared first on บ้านและสวน.

7 แบบบ้านชั้นเดียวแจกฟรี! ในงบ 2.4 แสน – 2 ล้าน

$
0
0

รวมแบบบ้านชั้นเดียวจากคอลัมน์ “บ้านในฝัน” นิตยสารบ้านและสวน ซึ่งใช้งบก่อสร้างตั้งแต่ 2.4 แสนบาทไปจนถึง 2 ล้าน เหมาะสำหรับผู้ต้องการสร้างบ้านพักผ่อนหลังเล็กที่แยกจากบ้านหลัก ทำเป็นบ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด หรือมองหาบ้านพักวัยเกษียณ มีให้ชมด้วยกัน 7 แบบ ดังนี้

1. บ้านถูกอยู่ได้

ออกแบบ: ศุภวัฒน์  อริญชยวัฒน์

ทัศนียภาพ: ยุทธนา เลิศรมยานันท์

บ้านต้นทุนต่ำหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้น ใช้โครงสร้างเหล็กทั้งหมด ตั้งแต่เสา คาน และโครงหลังคา เพราะสร้างเร็ว ถอดประกอบได้ ขนาดช่วงเสา 3 x 6 เมตร (ระยะลงตัวของโครงสร้างเหล็ก) พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นส่วนนอน ส่วนเตรียมอาหาร ห้องน้ำแบบประหยัด (ใช้บ่อเกรอะ-บ่อซึมเป็นบ่อซีเมนต์สำเร็จรูป และโถนั่งยอง) มุงหลังคาสังกะสี ผนังกรุแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์บนโครงคร่าวสำเร็จรูป ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าอิฐและปูนมาก

แบบบ้านชั้นเดียว

พื้นที่ใช้สอย  20 ตารางเมตร ปลูกในที่ดินขนาด 17.5 ตารางวาขึ้นไป

ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ 2.4 แสนบาท

ควรหันหน้าบ้านไปทางทิศใต้จะเหมาะสมและรับลมได้ดีที่สุด

แปลน

  1. ส่วนนอน
  2. ห้องน้ำ
  3. ส่วนเตรียมอาหาร
ผนังหายใจได้ ลมพัดผ่านได้ บ้านไม่ร้อน แต่ยังรักษาความเป็นส่วนตัว ภายในปิดด้วยมุ้งลวดกันยุงตอนกลางคืน
ใช้ประตูบานเฟี้ยมกับผนังสองด้าน เมื่อเปิดออกหมด ห้องก็จะกลายเป็นศาลา ติดพัดลมเพดานสักหนึ่งตัวก็ช่วยให้เย็นสบาย

นอกจากจะทำเป็นเรือนเดี่ยวแล้ว ยังสามารถทำเป็นเรือนต่อแบบโมดูลาร์ในลักษณะคล้ายกลุ่มเรือนแบบไทยๆ โดยเชื่อมต่อด้วยลานไม้หรือยกพื้นสูงมีใต้ถุนก็ได้ ค่อยๆขยายบ้านออกไปเมื่อพร้อม ไม่ต้องลงทุนก้อนโต

2. โลหะเคหะ

ออกแบบ: ศุภวัฒน์  อริญชยวัฒน์

ทัศนียภาพ: ยุทธนาเลิศรมยานันท์

แบบบ้านที่เรียบง่าย แต่ดูเก๋ด้วยวัสดุสมัยใหม่อย่างโลหะเมทัลชีท หรือแผ่นเหล็กรีดเคลือบสังกะสีที่ใช้กันมากในการทำโรงงาน เพราะก่อสร้างง่าย ราคาไม่แพง  ซึ่งอาจถูกใจบางท่านที่ต้องการเลือกใช้วัสดุแปลกใหม่ ชอบความเป็นอินดัสเทรียลลุคมากกว่าบ้านไม้หรือบ้านปูนที่เราคุ้นเคย ข้อดีอีกประการของบ้านแบบนี้คือสามารถถอดประกอบได้ น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้  อาจใช้เป็นบ้านพักผ่อนหลังเล็กกะทัดรัดชั้นเดียว

พื้นที่ใช้สอยประกอบด้วยห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอเนกประสงค์ ส่วนเตรียมอาหาร ซึ่งมีประตูเลื่อนเปิด-ปิดได้เพื่อความเรียบร้อย พร้อมเฉลียงเล็กๆหน้าบ้านสำหรับพักผ่อน ผนังส่วนใหญ่กรุเมทัลชีทตัวแซด (Z) บนโครงคร่าวเหล็กอาบสังกะสี เพื่อการระบายอากาศที่ดี (คล้ายผนังหายใจได้) ภายในกรุมุ้งลวดกันแมลง มุงหลังคาโค้งเมทัลชีทสั่งทำสำเร็จรูป ซึ่งนำมาติดตั้งบนโครงสร้างได้เลย

แบบบ้านชั้นเดียว

พื้นที่ใช้สอย 40 ตารางเมตร สามารถปลูกในที่ดิน ขนาด 35 ตารางวา หน้ากว้าง 10 เมตรขึ้นไป

ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ 6 แสนบาท (ราคาอาจแปรผันตามชนิด ยี่ห้อ และขนาดของวัสดุเมทัลชีทที่เลือกใช้)

ควรหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือจะเหมาะสมและหลบความร้อนได้ดีที่สุด

แปลน

  1. ห้องนอน
  2. ห้องน้ำ (แยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกัน)
  3. ส่วนเตรียมอาหาร มีบานเลื่อนปิดซ่อนไม่ให้ดูรกตา
  4. ห้องอเนกประสงค์ (ใช้รับแขก รับประทานอาหาร หรือทำงานได้)
  5. เฉลียง
มุมมองด้านหน้า
มุมมองด้านหลัง
หลังคาโค้งสำเร็จรูป สั่งทำตามขนาด นำมาติดตั้งในพื้นที่ก่อสร้างได้เลย แนะนำให้เลือกชนิดที่มีฉนวน
แนวไม้ระแนง ช่วยลดความเรียบของพื้นและผนังโลหะ ทำให้ดูน่าสนใจ และช่วยกันความร้อนจากแสงอาทิตย์
ภาพตัดผนังกรุเมทัลชีทตัวแซด (Z) เพื่อระบายอากาศแต่กันน้ำได้ดี ด้านในติดมุ้งลวดกันแมลง

3. บ้านเล็ก สวนน้อย

ออกแบบ: ศุภวัฒน์ อริญชยวัฒน์

ภาพประกอบ: มาโนช กิตติชีวัน

        บ้านหลังนี้มีโจทย์ว่าต้องสร้างบนที่ดินจำกัด ด้านหน้าติดถนนกว้าง 8 เมตรยาวไปถึงข้างหลัง ตัวบ้านวางเยื้องมาด้านหน้าที่ดิน เพื่อให้เกิดที่ว่างด้านหลังให้มากที่สุดสำหรับทำสวน เพื่อให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด โดยทางเข้าด้านหน้าออกแบบเป็นมุมนั่งเล่น-รับแขกเล็กๆอยู่ภายนอกบ้าน เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะพบส่วนอเนกประสงค์ ใช้เตรียมอาหาร รับประทานอาหาร รวมถึงนั่งทำงานได้ด้วย ถัดไปเป็นห้องน้ำ ซึ่งแยกส่วนอาบน้ำฝักบัวไว้เป็นสัดส่วนและสามารถชมวิวสวนได้ ส่วนห้องนอนที่อยู่ด้านในก็อยู่ใกล้สวนหย่อมเช่นกัน สำหรับหน้าบ้านทำเป็นแปลงพืชผักสวนครัวใช้ประโยชน์ได้ บางทีต้นไม้ที่ปลูกยังใช้แทนรั้วบ้านได้ด้วย

แบบบ้านชั้นเดียว

พื้นที่ใช้สอย 50 ตารางเมตร  ปลูกในที่ดินขนาด 32 ตารางวาขึ้นไป หน้ากว้าง 8 x 16 เมตร เป็นอย่างน้อย

ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ 7.5 แสนบาท

สวนหลังบ้านที่แม้มีขนาดเล็ก แต่ก็มีความเป็นส่วนตัว โดยปลูกชาเป็นพุ่มแทนรั้วกำแพงทึบ

แปลน

1.มุมนั่งเล่น-รับแขกภายนอก

2.ส่วนอเนกประสงค์

3.ห้องนอน

4.ห้องน้ำ

5.ส่วนอาบน้ำฝักบัว

6.ห้องเก็บของ

7.สวนหย่อม

8.สวนครัวหน้าบ้าน

มุมนั่งเล่นนอกบ้านก่อนเข้าตัวบ้าน ทำเป็นซุ้มอุโมงค์ยาวไปถึงหลังบ้าน เพิ่มความสดชื่นด้วยการปลูกไม้เลื้อยขึ้นพันเสาให้ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าอยากให้กันฝนได้ด้วย ก็รองข้างใต้ด้วยแผ่นพอลิคาร์บอเนต ใช้เป็นมุมรับรองแขกและจิบน้ำชากาแฟ พร้อมชมสวนไปในตัว
ส่วนอาบน้ำที่มองเห็นต้นไม้ให้ความสดชื่นและรับแสงธรรมชาติ ช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างจากห้องน้ำแบบปิดทั่วไป

4. บ้านศาลา…ศาลาบ้าน

ออกแบบ: ศุภวัฒน์ อริญชยวัฒน์

ทัศนียภาพ: ศราวุธ จินตชาติ

ไอเดียสนุกๆสำหรับคนที่ชื่นชอบการนั่งเล่นในศาลา บรรยากาศที่ดูง่ายๆ สบายๆ รับลมเย็นที่พัดโชยมาตลอดเวลา ช่างเป็นความสุขที่น่าอิจฉาเสียจริง แต่ศาลาของจริงนั้นมีเฉพาะเสาและหลังคาเท่านั้น ไม่มีผนังกั้น บ้านหลังนี้จึงประยุกต์บรรยากาศจริงของศาลามาใช้ โดยวางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบแปลนศาลาทั่วไป แล้วจึงวางตำแหน่งห้องแทรกไปในตัวบ้าน อันประกอบด้วยห้องนอนพร้อมห้องน้ำ ซึ่งกั้นผนังเพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องโถงกลางออกแบบให้โล่ง ไร้ผนัง ใช้เป็นเสมือนศาลาพักผ่อนหรือรับแขก เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเอ๊าต์ดอร์ เช่น หวายเทียม เบาะผ้าใบ หาเดย์เบดสวยๆสบายๆสักตัวมาเป็นเซ็นเตอร์พีซ ใกล้กันเป็นครัวแบบเปิดโล่ง ซึ่งช่วยระบายกลิ่นขณะประกอบอาหารได้ดี มีห้องทำงานเป็นสัดส่วน โดยอาจปรับเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ มีห้องน้ำแขกที่สามารถเข้าจากห้องทำงานได้ และที่จอดรถหนึ่งคัน หลังคาเป็นระแนงทับด้วยแผ่นพอลิคาร์บอเนต ดูเบาตา บรรยากาศโดยรวมของบ้านเปิดโล่ง เบาสบาย ได้อารมณ์บ้านพักผ่อน

แบบบ้านชั้นเดียว

พื้นที่ใช้สอย 65-70 ตารางเมตร (ไม่รวมที่จอดรถ) ปลูกในที่ดินขนาด 60 ตารางวา หน้ากว้างอย่างน้อย 12 เมตรขึ้นไป

ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ 1 ล้านบาท

แปลน

  1. ที่จอดรถ
  2. ศาลาพักผ่อน
  3. ครัวและส่วนรับประทานอาหาร
  4. ห้องนอน
  5. ห้องน้ำ
  6. ห้องนอนเล็กหรือห้องทำงาน
ชายคาที่จอดรถออกแบบให้มีความชันนิดหน่อยและเหลื่อมเข้าไปในชายคาบ้าน ช่วยกันน้ำฝน วางตำแหน่งที่จอดรถไว้ทางทิศใต้ เพื่อช่วยบังแดดยามบ่ายไม่ให้สาดส่องเข้ามาในศาลาพักผ่อน
ยกพื้นตัวบ้านสูงประมาณ 45 เซนติเมตร หนีน้ำและกันพวกแมลง สัตว์เลื้อยคลานเข้าบ้าน บางทีอาจปลูกไม้พุ่มรอบๆ ช่วยให้ดูเหมือนบ้านลอยจากพื้นดิน
ผนังดูโทรทัศน์ หมุนแล้วล็อกไว้ที่ด้านนอกตอนกลางวัน และหมุนเข้าห้องนอนในตอนกลางคืนหรือเวลาไม่อยู่บ้าน
ครัวไทยในศาลา ระบายอากาศดีเยี่ยม รับรองไม่เหม็น ไม่อับชื้น ความกว้างของทางสัญจรต่างๆควรไม่ต่ำกว่า 90 เซนติเมตร

5. บ้านพักผ่อน

ออกแบบ: ศุภวัฒน์ อริญชยวัฒน์

ทัศนียภาพ: ยุทธนา เลิศรมยานันท์

บ้านขนาดกะทัดรัดสำหรับการตากอากาศหรือพักผ่อน เป็นบ้านเล่นระดับ ยกพื้นสูงป้องกันน้ำท่วม  มีระเบียงรับลมชมวิวเก๋ๆหน้าห้อง พื้นที่ใช้สอยประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องอเนกประสงค์ใช้นั่งเล่น-พักผ่อนชมโทรทัศน์ ส่วนครัวเล็กๆสำหรับเตรียมอาหาร และห้องน้ำที่มีบรรยากาศแบบกึ่งเอ๊าต์ดอร์ใช้อาบน้ำฝนได้ รูปแบบอาคารดูเรียบง่าย มีกลิ่นอายของบ้านไทยในท้องถิ่น แปลนบ้านเป็นผืนเดียว แต่ใช้การลดทอนขนาดและสัดส่วน ด้วยการแบ่งซอยหลังคามุงเฉพาะส่วนห้องนอน มองดูเหมือนกลุ่มเรือน ทำให้ภาพรวมของบ้านไม่เทอะทะ และยังมีประโยชน์ใช้สอยที่จำเป็นครบครัน

แบบบ้านชั้นเดียวพื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร ปลูกในที่ดินขนาด 55 ตารางวาขึ้นไป หน้ากว้าง 12 x 20 เมตร

ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ 1.5 ล้านบาท

ถ้าเป็นไปได้ควรวางตำแหน่งทางเข้าบ้านให้หันไปทางทิศเหนือหรือตะวันออกจะเหมาะสมที่สุด

แปลน

1.ห้องนอน

2.ห้องอเนกประสงค์

3. ห้องน้ำ

4.ห้องเก็บของ

5.ครัว

6.ระเบียง

7.ส่วนซักล้าง

8.ม้านั่ง

มุมมองด้านหน้า
มุมมองด้านขวา
มุมมองด้านซ้าย
ยามฝนตกก็ใช้ประโยชน์จากน้ำฝนที่ไหลลงมาจากหลังคาดาดฟ้าเป็นเหมือนน้ำตกในส่วนเอ๊าต์ดอร์ชาวเวอร์
ออกแบบหิ้งพระแบบบิลท์อินและลิ้นชักเก็บของ ( ธูป เทียน แจกัน ) แบบเปิด-ปิดได้ เพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บ

ออกแบบให้ดึงโต๊ะออกจากชานพักบันไดได้ เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ หากต้องการปรับการใช้งานเพื่อทำอย่างอื่นก็สามารถเปลี่ยนได้ง่าย

6. บ้านกลางทุ่ง

ออกแบบ – ภาพประกอบ : แพรแก้ว

ทัศนียภาพ: ศราวุธ จินตชาติ

บ้านชั้นครึ่งหลังเล็กกะทัดรัด ตัวอาคารมีรูปแบบสะท้อนสถาปัตยกรรมไทยพื้นถิ่น หลังคามนิลาขนาดใหญ่ชายคายื่นยาวเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ประกอบด้วยโถงกว้างซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนรับแขก-พักผ่อนที่ต่อเนื่องกับเฉลียงนั่งเล่น ใกล้กันเป็นส่วนรับประทานอาหาร และส่วนเตรียมอาหาร พร้อมครัวไทยที่จัดให้อยู่อย่างเป็นสัดส่วนด้านนอกเพื่อป้องกันกลิ่นรบกวน ด้านในสุดเป็นห้องนอนพร้อมส่วนแต่งตัว และห้องน้ำแบบเปิดโล่งสไตล์รีสอร์ต ส่วนชั้นบนเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นส่วนทำงานและปรับเปลี่ยนเป็นห้องพักสำหรับแขกที่มาเยือนได้

ด้วยรูปแบบของบ้านที่เรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอยที่ครบถ้วน บ้านหลังนี้จึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กที่มีสมาชิกในบ้านเพียง 2 คน หรือใช้เป็นบ้านพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับผู้ที่มีที่ดินในต่างจังหวัด หรืออาจดัดแปลงเป็นบ้านหลังเล็กเพื่อคนในวัยเกษียณได้เช่นกัน

แบบบ้านชั้นเดียว
พื้นที่ใช้สอย  122 ตารางเมตร
ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ 1.8 ล้านบาท

แปลนชั้น 1

1.เฉลียงทางเข้า

2.ส่วนรับแขก-พักผ่อน

3.เฉลียงนั่งเล่น

4.ส่วนรับประทานอาหาร

5.ส่วนเตรียมอาหาร

6.ครัวไทย

7.ห้องน้ำ 1

8.ส่วนซักล้าง

9.ห้องนอน

10.ส่วนแต่งตัว-ห้องน้ำ 2

11.ส่วนอาบน้ำ

แปลนชั้น 2 (ชั้นลอย)

1.โล่ง

2.โถงชั้น 2

3.ห้องอเนกประสงค์

4.ห้องเก็บของ


7. เรือนหมู่ อยู่ใกล้กัน

ออกแบบ: ศุภวัฒน์  อริญชยวัฒน์

ทัศนียภาพ: ศราวุธ จินตชาติ

เรือนหมู่แบบไทยประยุกต์ที่ยกพื้นสูงพอจะป้องกันน้ำท่วมได้ (ที่ไม่ออกแบบให้ยกพื้นใต้ถุนสูงเหมือนเรือนไทยก็เพื่อความประหยัด และในยามชราจะได้ไม่ต้องขึ้น-ลงบันไดที่สูงชัน) แยกพื้นที่ใช้สอยเป็นเรือนครัวสมัยใหม่ (กันสัดส่วนสำหรับทำครัวไทยได้) แต่เพิ่มห้องรับประทานอาหารเข้าไปด้วย เพื่อความสะดวก เรือนรับแขก-นั่งเล่น เรือนรับรองแขกซึ่งมีห้องนอน 2 ห้อง และเรือนพักของเจ้าของพร้อมเฉลียงนั่งเล่นชมสวน มีชานโล่งขนาดพอเหมาะสำหรับทำกิจกรรมในครอบครัวร่วมกัน ทุกเรือนมีทางเดินเชื่อมต่อถึงกันหมดและมีห้องน้ำในตัวครบครัน พร้อมที่จอดรถได้หนึ่งคัน ที่ว่างระหว่างเรือนก็จัดสวนให้ความร่มรื่น หรือปรับเป็นบ่อน้ำ หรือจะเชื่อมต่อระหว่างเรือนด้วยเคดไม้ก็ได้ และเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตสมัยใหม่ จึงออกแบบผนังส่วนใหญ่เป็นประตูบานเลื่อนกระจกแทนที่จะเปิดโล่งแบบเรือนไทยสมัยก่อน เพื่อเปิดมุมมองไปสู่ภายนอก รวมถึงใช้ป้องกันสัตว์และแมลงเข้ามารบกวน แต่มีข้อแม้ว่าเรือนแบบนี้ควรปลูกในพื้นที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด เพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย

แบบบ้านชั้นเดียว

พื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร  (บวกพื้นที่ทางทางสัญจร 20 เปอร์เซ็นต์ ) ปลูกในที่ดินประมาณ 150 ตารางวา ขึ้นไป

ราคาค่าก่อสร้าง ประมาณ  2 ล้านบาท

แปลน

  1. ที่จอดรถ
  2. เรือนรับแขก – นั่งเล่น
  3. ทางเดินเชื่อม
  4. เรือนรับรองแขก
  5. สวน
  6. เฉลียงนั่งเล่น
  7. เรือนพักเจ้าของ
  8. ห้องน้ำ
  9. ชานโล่ง
  10. ครัวไทย
  11. ครัว – ส่วนเตรียมอาหาร
  12. ห้องรับประทานอาหาร

  รวบรวม: Tarnda      แบบบ้านชั้นเดียว

             

แจกฟรี 4 แบบบ้านที่รองรับผู้สูงวัย ให้อยู่บ้านได้อย่างปลอดภัย

“Hideaway Workspace” แบบบ้านหลังเล็ก สำหรับคนรักความเป็นส่วนตัว

แจกแบบบ้าน ฟรี ! บ้านริมคลอง

The post 7 แบบบ้านชั้นเดียวแจกฟรี! ในงบ 2.4 แสน – 2 ล้าน appeared first on บ้านและสวน.

5 เรื่องต้องรู้ ก่อนซื้อ ปลั๊กแปลงไฟ

$
0
0

ปลั๊กแปลงไฟ

หลังจากที่ได้เคยแนะนำวิธีการเลือกซื้อปลั๊กพ่วงที่มีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัยไร้กังวลกันไปแล้ว ก็มีการถามไถ่กันเข้ามาอย่างต่อเนื่องว่า ปลั๊กแปลงไฟ หรือ Adapter นั้น มีวิธีเลือกเหมือนกับปลั๊กพ่วงไหม แล้วปลั๊กจะละลายเหมือนที่เห็นในทีวีหรือเปล่า ฯลฯ ถ้าตอบง่ายๆ ต้องบอกว่า ปัจจุบัน ปลั๊กแปลงไฟ เป็นอุปกรณ์เสริมทางไฟฟ้าที่ยังไม่มีมาตรฐาน มอก. ควบคุม ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ปลั๊กแปลงไฟ ที่จำหน่ายในบ้านเรายังไม่มีมาตรฐานควบคุมเหมือนกับปลั๊กพ่วงที่มีเครื่องหมาย มอก.2432-2555 ที่เป็นตัวบอกได้ว่ารางปลั๊กพ่วงนั้นผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว

แต่อย่าพึ่งสิ้นหวังหรือหมดกำลังใจ เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ ถ้าเรามีความจำเป็นจริงๆ เพราะต้องใช้ ปลั๊กแปลงไฟ เพื่อแปลงเต้ารับเดิมจาก 2 ขา เป็น 3 ขา หรือเมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ วันนี้ผมได้รวบรวมเคล็ดไม่ลับในการเลือกซื้อ ปลั๊กแปลงไฟ ที่ไม่ใช่มีดีแค่ใช้กับเต้าเสียบได้หลายประเภทเท่านั้น แต่สามารถบอกได้ว่าปลั๊กแปลงไฟที่มีคุณภาพนั้นควรเป็นอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินมาฝากกันครับ

 

1.ปลั๊กแปลงไฟ ใช้แปลงขา..ไม่ใช่แปลงแรงดันไฟฟ้า

ปลั๊กแปลงไฟ หรือ Adapter นั้น มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ปลั๊กแปลงไฟ ประเภท “หัวเดียว”เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแปลงขาปลั๊กไฟแบบใดแบบหนึ่ง และไม่ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง และประเภท “ชุดหลายหัว” ที่มีหัวปลั๊กแปลงหลายรูปแบบอยู่ในตัวเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำ ทั้งประเทศในแถบเอเชียหรือยุโรป และพึงระลึกอยู่เสมอว่า ปลั๊กแปลงไฟ มีไว้เพื่อแปลงรูปแบบของขาปลั๊กเท่านั้น ไม่ใช่ตัวแปลงแรงดันไฟฟ้า อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด!

ปลั๊กแปลงไฟ

 

2.วัสดุ..ต้องทนความร้อนและไม่ติดไฟง่าย

วัสดุที่ใช้ทำ ปลั๊กแปลงไฟ ควรทำจากวัสดุคุณภาพสูง มีคุณสมบัติไม่ลามไฟ เช่น พลาสติก ABS หรือพอลิคาร์บอเนต (PC) ซึ่งทนความร้อนและแรงกระแทกได้ดีกว่าพลาสติก PVC ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้ กรณีเกิดความร้อนสูง ขณะใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น ใช้กับหม้อทอดไร้น้ำมัน หรือหม้ออบลมร้อนที่กินไฟมาก

ปลั๊กแปลงไฟ

 

3.ขาเต้ารับ..ควรทำจากทองเหลือง/ทองแดง

ขาเต้ารับซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงจรภายในปลั๊กแปลงไฟ ควรทำจากทองเหลืองหรือทองแดง เพราะนำไฟฟ้าได้ดีกว่าเหล็กชุบสีหรือโลหะอื่นๆ ไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสม จึงช่วยลดปัญหาปลั๊กละลายหรือไหม้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนบ้านที่มีเด็กเล็ก อาจใช้รุ่นที่มีม่านนิรภัย (Safety Shutter) เพื่อป้องกันเด็กเอานิ้วมือแหย่รู

ปลั๊กแปลงไฟ

 

 

4.หัวปลั๊ก..ขากลมหรือขาแบน

หลายท่านอาจไม่ซีเรียส เพราะคิดว่าถ้าเสียบหัวปลั๊กเข้ากับเต้ารับ แล้วใช้งานได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าเสียบเต้ารับไม่แน่น อาจมีความร้อนเกิดขึ้นได้ ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกเต้าเสียบหรือหัวปลั๊กขากลมแทนขาแบน เพราะเป็นมาตรฐาน มอก. ของประเทศไทย บางรุ่นมีฉนวนหุ้มที่โคนขาปลั๊กทั้ง 2 ขา เพื่อป้องกันนิ้วไม่ให้สัมผัสขาปลั๊กโดยไม่ตั้งใจ

ปลั๊กแปลงไฟ

 

5.อย่างมองข้าม..ตัวเลขที่ระบุบนปลั๊กแปลงไฟ

ปลั๊กแปลงไฟ ที่ดีต้องบอกพิกัดไฟสูงสุดที่สามารถรองรับได้  เช่น 250V 10A 2000W หมายความว่า รองรับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด 250 โวล์ต ทนกระแสไฟได้สูงสุด 10 แอมแปร์ และรองรับกำลังไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 2000 วัตต์ อาจเลือกรุ่นที่มีระบบฟิวส์ที่ช่วยตัดกระแสไฟฟ้าเกิน หรือมีสวิตช์ไฟเปิด-ปิด แสดงสถานะการทำงาน เพื่อป้องกันไฟกระชากจากการถอดหัวปลั๊กแปลงไฟออกจากเต้ารับ นอกจากนี้ ปลั๊กแปลงไฟ รุ่นใหม่ๆ อาจมีช่องเสียบ USB เพิ่มมา สำหรับใช้ชาร์จอุปกรณ์มือถือ แท็บเล็ต ฯลฯ

ปลั๊กแปลงไฟ

 

 

ปลั๊กแปลงไฟ

 

ความแตกต่างระหว่าง ปลั๊กแปลงไฟธรรมดา vs ปลั๊กแปลงไฟคุณภาพ

ปลั๊กแปลงไฟธรรมดา

วัสดุ : ทำจากพลาสติกคุณภาพต่ำ

ขาเต้ารับ : ทำจากเหล็กชุบสีหรือโลหะอื่นๆ

ปลั๊กแปลงไฟ

 

ปลั๊กแปลงไฟคุณภาพ

วัสดุ : ทำจากพลาสติก ABS หรือพอลิคาร์บอเนต (PC)

ขาเต้ารับ : ทำจากทองเหลืองหรือทองแดงนำไฟฟ้าได้ดี

ปลั๊กแปลงไฟ

อย่างไรก็ดี ปลั๊กแปลงไฟ ที่มีแบรนด์น่าเชื่อถือ ราคาสินค้าก็ย่อมสูงตามไปด้วย อาจเป็นดัชนีบ่งบอกถึงคุณภาพสินค้าได้ง่ายๆ วิธีหนึ่ง และจากที่กล่าวมานี้ แม้ว่า ปลั๊กแปลงไฟ ของเราจะเทพขนาดไหนก็ไร้ผล ถ้าที่บ้านไม่มีระบบสายดิน


 

เรื่อง : พจน์ ผลิตภัณฑ์

ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม

 

ปลั๊กพ่วง ปลั๊กไฟ…เลือกอย่างไรดี

ขาของตัวเสียบปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐาน กลม หรือ แบน?

ปลั๊กไฟ แบบ 2 รูเสียบสามารถปรับเป็นแบบมีสายดินได้หรือไม่

 

The post 5 เรื่องต้องรู้ ก่อนซื้อ ปลั๊กแปลงไฟ appeared first on บ้านและสวน.

บ้านไม้หลังเล็กของครูแตงโม บ้าน..ที่เป็นโรงเรียนขนาดพอดี

$
0
0

” มันมีภาพในหัวตั้งนานแล้วว่าอยากมีบ้านไม้ มีพื้นที่กว้าง ๆ ต้นไม้เยอะ ๆ พาเด็ก ๆ ไปทำกิจกรรมข้างนอกได้ เป็นที่กรุงเทพฯมันมองไม่เห็นบรรยากาศแบบนั้น แต่ที่นี้มี ” คุณครูแตงโม – สาริณี เอื้อกิตติกุล เจ้าของบ้านหลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ต้นไม้บรรยากาศแบบบ้านสวนต่างจังหวัด ถึงแม้ว่าพื้นเพไม่ได้เป็นคนเชียงใหม่ แต่ระยะเวลากว่า 25 ปี ที่ครูแตงโมและครอบครัวย้ายมาที่นี่ ก็สามารถเรียกว่าเป็นคนเชียงใหม่ได้อย่างเต็มปาก บ้านไม้ หลังเล็ก

ภายในซอยวัดอุโมงค์  จังหวัดเชียงใหม่ แม้จะเริ่มมีความคึกคักเพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีต แต่ก็ยังมีความสงบเงียบแบบบ้านสวนในต่างจังหวัด  บ้านไม้ หลังเล็ก ที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้แห่งนี้เป็นทั้งโรงเรียนขนาดย่อมและบ้านพักอาศัยบางครั้งบางคราวของครูแตงโมของเด็ก ๆ แตงโมก่อตั้งศูนย์การเรียนพอดีพอดี ขึ้นกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนในบ้านหลังเล็กที่เปิดสอนเด็กพิเศษโดยเฉพาะ ลักษณะคล้ายโฮมสกูลมีแตงโมทำหน้าที่เป็นผู้จัดการศึกษาที่นี่มีบรรยากาศสงบ ผ่อนคลาย  และแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ  มีเด็กจำ นวนไม่มากนักเน้นการฝึกทักษะชีวิตและให้เด็กๆ เรียนรู้กับธรรมชาติมากกว่าแค่นั่งเรียนในห้อง

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

แม้ว่าพื้นเพดั้งเดิมจะไม่ได้เป็นคนเชียงใหม่ แต่ครอบครัวของแตงโมก็ย้ายมาอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่เมื่อ 25 ปีที่แล้ว เมื่อเรียนจบทางด้านจิตวิทยาคลินิก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่  แตงโมจึงมุ่งหน้าไปเรียนต่อปริญญาโทด้านพัฒนาการมนุษย์  สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และปักหลักทำ งานอยู่ในกรุงเทพฯระยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอยู่เชียงใหม่อีกครั้ง

“ ตอนนั้นสอนเด็กพิเศษตามบ้านที่กรุงเทพฯแบบตัวต่อตัว พอทำไปสัก 7 – 8 ปีคุณพ่อป่วยก็เลยย้ายไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ แต่แตงโมคิดว่าที่นั่นไม่เหมาะกับเขาเลยกลับมาคิดว่าเราอยากทำโรงเรียนสำหรับเด็ก มันมีภาพในหัวตั้งนานแล้วว่าอยากมีบ้านไม้  พื้นที่กว้าง ๆ ต้นไม้เยอะ ๆ พาเด็กไปทำกิจกรรมข้างนอกได้ด้วยถ้าเป็นกรุงเทพฯมันมองไม่เห็นบรรยากาศแบบนั้นคิดว่าทำที่เชียงใหม่นี่ละเพราะบ้านก็อยู่เชียงใหม่อยู่แล้ว ” เมื่อกลับมาเชียงใหม่แตงโมตั้งต้นที่ย่านวัดอุโมงค์เพราะใกล้กับมหาวิทยาลัยที่คุ้นเคยในซอยนี้แตงโมพบกับเวิ้งมาลัยคอมมูนิตี้งานคราฟต์ที่มีคาเฟ่เล็ก ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ทำให้รู้สึกชอบ

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

“ รู้สึกว่าที่นี่น่ารักจัง ถามพี่เขาว่าแถวนี้มีที่อยู่บ้างไหมเขาก็แนะนำโครงการบ้านข้างวัดซึ่งกำลังสร้างพอดีเราพอมองเห็นภาพว่าอยากให้เด็ก ๆ เข้ามาวิ่งเล่นมีกิจกรรมก็เลยตกลงเช่ากับน้องอีกคนทำเป็นห้องสมุดคิดภาพว่ามีเด็กมาเรียนก็น่าจะอบอุ่นดีพอทำ ไปสักพักบ้านข้างวัดเริ่มเป็นที่รู้จักมีนักท่องเที่ยวเยอะขึ้น เลยรู้สึกว่ามันอาจจะไม่เหมาะ โดยเฉพาะเด็กของเราเป็นเด็กพิเศษที่ต้องการความสงบ เลยเปลี่ยนภาพว่าจริงๆต้องเป็นที่ส่วนตัว เป็นบ้านเราเอง  มีที่เยอะขึ้น  เลยกลับมาที่เวิ้งมาลัยอีกครั้ง  เพราะเรารู้สึกว่าที่นี่เป็นคนที่เราพึ่งพิงได้  เขาก็แนะนำ ว่าในซอยนี้มีบ้านเช่าหลายหลัง  บังเอิญเห็นที่แปลงนี้ให้เช่าระยะยาว 10 ปี  ช่วงนั้นทำ งานเป็นอาจารย์พิเศษใน มช.ด้วย  เลยคิดว่าเดินทางไปมาน่าจะสะดวก ”

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

พื้นที่ขนาด 90 ตารางวาแห่งนี้เดิมเป็นสวนกล้วย  แตงโมรื้อกล้วยออกและปลูกไผ่รวมทั้งต้นไม้อื่นๆ  มีภาพบ้านในใจเป็นบ้าน
ไม้หลังเล็กๆ ที่แตงโมบอกว่าอยากให้เหมือนเป็นบ้านของเด็ก “ จริง ๆ อยากได้สเกลเด็กเลย  แต่เราจะอยู่ยาก  เลยทำ หน้าต่างเป็นเหมือนประตู เพราะหน้าต่างเล็กๆ ก็เหมือนเป็นประตูที่เด็กก้มออกไปได้  ให้เขารู้สึกว่าเปิดประตูไปเล่นที่ไหนก็ได้  เหมือนอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ ” เมื่อมีรูปแบบบ้านแล้วจึงเริ่มเสาะหาไม้เก่ามาเป็นองค์ประกอบของบ้าน  ส่วนใหญ่ได้มาจากจังหวัดลำ พูนในราคาไม่แพงนัก  ไม้แผ่นราคาเมตรละ 10 – 20 บาท  ตัวบ้านใช้โครงเหล็กสร้างยกใต้ถุนเตี้ย  ผนังกรุไม้เก่าและหน้าต่าง
บานเก่าประกอบกันขึ้นมา  วางตั้งบ้างนอนบ้าง ตรงไหนขาดก็วัดขนาดแล้วไปเลือกประตูหน้าต่างเก่ามาใช้ประกบเข้ากับโครงที่มี  ส่วนวัสดุอื่น ๆ เน้นแบบเรียบง่าย  ราคาไม่แพงนักพื้นในบ้านใช้แผ่นสมาร์ทบอร์ด  เนื่องจากมองว่าไม่ได้อยู่ที่นี่ถาวร  อีกทั้งมีงบประมาณสร้างบ้านอยู่จำกัด

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

“ ตอนแรกตั้งงบไว้แสนนึง  แต่สรุปว่าใช้งบทั้งหมดสองแสนบาท  รวมทุกอย่างแล้ว  ค่าแรงช่างที่เชียงใหม่ไม่แพง  รวมๆ แล้วห้าหมื่นบาทเท่านั้นเอง  ทีแรกได้ช่างมาเจ้าหนึ่งอธิบายแบบไปจนขึ้นโครงเรียบร้อย พอเราเอาไม้มา เอาหน้าต่างมา ปรากฏว่าเขาไม่ใช่ช่างที่ทำ งานไม้จึงไม่มีเครื่องมือ  ก็เลยได้มาแค่โครงหลังคา และติดประตูให้เสร็จก็ไปเลย (หัวเราะ)  จนไปเจอช่างอีกคนที่ทำ งานไม้ได้  ช่างคนนี้เหมือนรู้ใจกันค่อย ๆ เติมไปด้วยกัน  ทำอยู่ประมาณ 6 – 7 เดือนจึงเสร็จเรียบร้อย ”

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

บ้านขนาดกะทัดรัดหลังนี้มีเฉพาะสิ่งที่จำเป็นได้แก่  โถงนั่งเล่น  ครัว  และห้องน้ำ   มีบันไดขึ้นไปชั้นลอยเหมือนห้องใต้หลังคา  ใช้เป็นห้องนอน  ภายในบริเวณเดียวกันยังมีเรือนที่สร้างขึ้นใหม่หลังจากบ้านหลังแรก 2 ปี  เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงเล็กน้อย  มีระเบียงยาวตลอดตัวบ้าน  ด้านในเป็นโถงโล่ง  ใช้เป็นห้องเรียนและทำ กิจกรรมได้อเนกประสงค์ ด้านหลังมีครัวเล็ก ๆ รอบบ้านปลูกกล้วยให้เด็ก ๆ นำมาทำขนม เลี้ยงไก่ให้ลองเก็บไข่มาฟัก  ทุกอย่างเรียนรู้ได้จากรอบตัวเรานี่เอง “ ตอนแรกตั้งใจจะสอนตัวต่อตัว  ไม่ได้คิดว่าจะเป็นโรงเรียน  มันเหมือนเป็นสถานที่ทดลองก่อนว่ าถ้าเราใช้แนวคิดการสอนประมาณนี้  ให้อิสระ  เด็กจะชอบไหม  จะรู้สึกอยากเรียนไหม  นำแนวคิดที่ได้จากเด็กมาวางแผนว่าจะสอนยังไง  ผู้ปกครองหลายคนเล่าว่าปัญหาคือเด็กๆไม่สามารถปรับตัวเข้ากับโรงเรียนและเพื่อนได้แต่พอมาที่นี่ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้น ตอนแรกรับมาแค่คนสองคน พอมีคนรู้ว่ากำลังจะเปิดก็ทยอยมา ตอนนี้มีสัก 7 – 8 คนแล้วค่ะ  ด้วยจำนวนกลุ่มที่มันเล็ก ครูดูแลได้เต็มที่รับได้มากสุด 10 คน  ไม่อยากให้เกินกว่านั้น  เด็กปกติก็มีมาเรียนเหมือนกัน  เพราะพ่อแม่สนใจแนวคิดการเรียนการสอนแบบนี้

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

ภายในห้องเรียนบรรยากาศเหมือนบ้าน  มีโต๊ะเตี้ยวางง่าย ๆ ให้เด็กใช้เขียนหนังสือ  ทำงานศิลปะ  และมีกระดานดำ เล็ก ๆ แบบไม่เป็นทางการ  แค่พอให้เด็กเห็นภาพ  เพราะส่วนใหญ่จะเน้นให้เด็กเห็นภาพจากของจริงและการลงมือทำ “ เรานึกถึงตอนเด็ก ๆ ว่าเราก็ชอบธรรมชาติ เราไปบ้านคุณตา มีต้นไม้ มีต้นกล้วย มีบ้านไม้รู้สึกว่าทุกอย่างมันเรียนรู้ได้หมด ก็เลยออกแบบเป็นเหมือนบ้านชนบท เหมือนบ้านคุณตาสมัยก่อน มีบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ไม่ต้องใหญ่เพราะอยากให้เด็กมีพื้นที่ข้างนอกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เด็กก็เป็นคนวางแผนกิจกรรมร่วมกับเราอยากทำอะไร วันนี้อยากฟักไข่ อยากเที่ยวดูสัตว์ เดินดูธรรมชาติรอบๆบ้าน “ตรงนี้เป็นที่เช่าแต่ในอนาคตคงหาพื้นที่ที่มันกว้างกว่านี้อาจจะรับเด็กได้เพิ่มขึ้นแตงโมคิดว่าหากวันหนึ่งต้องย้ายไปก็อยากจะย้ายบ้านหลังนี้ไปทั้งหลัง บ้านไม้มันมีข้อดีคือสามารถถอดไปได้ทั้งหมด ”

บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

ส่วนครัวของเรือนหลังใหม่  อาคารคอนกรีตทาสีแดงจับคู่กับงานไม้เก่า ๆ อย่างกลมกลืน  ห้องครัวนี้มักจะให้เด็ก ๆ มาลองทำ ขนม  เช่น  ข้าวต้มมัด ขนมกล้วย  พอวันพระก็พาเด็ก ๆ ไปวัดอุโมงค์  นำ ขนมที่พวกเขาทำ ไปถวายพระ เป็นการเรียนรู้จากการลงมือทำแบ่งปันและได้เดินเที่ยวในชุมชนไปด้วยในตัว

นำหน้าต่างหลากหลายขนาดมาจัดเรียงบนผนังบ้านโดยไม่ได้มีแบบมาก่อน แต่ติดตั้งหน้างานตามวัสดุที่หาได้ ใช้ไม้เก่าเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างบ้านหาได้จากแหล่งซื้อไม่ไกลนัก  หากมีการย้ายที่อยู่ในอนาคตก็สามารถรื้อถอนไปใช้ใหม่ได้  รวมทั้งเลือกใช้วัสดุท้องถิ่นมาเป็นองค์ประกอบอื่น ๆ ในบ้าน โดยเฉพาะไม้ไผ่ที่ปลูกเองตัดมาสานเป็นช่องลม

บ้านไม้ บ้านต่างจังหวัด บ้านชั้นเดียว บ้านเชียงใหม่ บ้านชนบท

 

สั่งซื้อหนังสือ My Little Home Vol.2 บ้านเล็กอยู่สบายในต่างจังหวัด โดย สำนักพิมพ์บ้านและสวน

ได้ที่นี่ >>>คลิ๊ก<<<

 

เจ้าของ : คุณสาริณี  เอื้อกิตติกุล

เรื่อง : วรัปศร

ภาพ : สิทธิศักดิ์  น้ำคำ


รวมบ้านไม้สไตล์ล้านนา อบอุ่น อยู่สบาย

10 แบบบ้านไม้หลังเล็ก ขนาดกำลังพอดีกับใจ โอบกอดด้วยธรรมชาติ

กลับบ้านเรารักรออยู่ รวม 7 บ้านต่างจังหวัดสวย ๆ ของคนกลับบ้านเกิด

รวม 10 บ้านต่างจังหวัด เอาใจคนรักบรรยากาศธรรมชาติ

The post บ้านไม้หลังเล็กของครูแตงโม บ้าน..ที่เป็นโรงเรียนขนาดพอดี appeared first on บ้านและสวน.


สปา แบบ Natural Minimal ที่ Cheeva Spa

$
0
0

จากสปาแบบ Traditional Lanna ที่ให้บริการมาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุการณ์สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ Cheeva Spa แห่งนี้ ต้องหยุดให้บริการไป แต่ในวิกฤตินั้นมักมีโอกาสเสมอ ช่วงเวลาที่หยุดให้บริการไปนั้นจึงทำให้คุณกันติชา และคุณกัลยกร สมศักดิ์ ลงมือรีแบรนด์และปรับเปลี่ยนบรรยากาศของสปาใหม่จนหมดจดเลยทีเดียว

คุณกันติชา และคุณกัลยกร เป็นผู้ลงมือเลือกสรรและตกแต่งสิ่งต่าง ๆ ในสปาใหม่ด้วยตนเอง แต่ในด้านการออกแบบพื้นที่นั้นได้ถูกรังสรรค์โดยทีมสถาปนิกจาก INLY STUDIO โดยมีคอนเซ็ปต์ของการรีแบรนด์หลัก ๆ ก็คือการนำ Cheeva Spa กลับสู่แก่นแท้ของธรรมชาติ ทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบรรยากาศภายในแบบมินิมัล ที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติและสุขภาพที่ดีอย่างเด่นชัด

การออกแบบพื้นที่ให้สว่างและเปิดโปร่งเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ให้เกิดความสดใสขึ้น เพื่อให้การบริการสปานั้นถูกมองว่าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยขยายกลุ่มลูกค้าให้ไปสู่คนวัยทำงานมากขึ้นด้วย และอีกส่วนหนึ่งคือการเน้นย้ำถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบออร์แกนิกในสปา ความสว่างและปลอดโปร่งจึงสื่อถึงสุขภาพที่ดีจากภายใน ตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์

พื้นที่ส่วนบริการมีกระจกบานใหญ่ที่เปิดวิวออกไปยังสวน เป็นการออกแบบที่ดึงเอาความเป็นสวนเข้ามาในพื้นที่ภายในโดยยังคงไว้ซึ่งความสบายอยู่

วัสดุและโทนสีของสปา เลือกใช้สีที่กลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติ เช่น สีไม้ขัดเสี้ยนขาว วัสดุที่เป็นดินเผา และเซรามิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีขาวที่เลือกให้เป็นสีขาวที่หม่น ทั้งนี้เพื่อรับกับการเปิดช่องแสงจะทำให้แสงที่สะท้อนจากผนังยังคงนวลตาไม่เจิดจ้าจนเกินไป ในหลาย ๆ ส่วนของอาคารยังมีการทำช่องโค้งที่สร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติ รวมทั้งสร้างพื้นผิวของผนังที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

ทั้งตำแหน่งการจัดวางพรรณไม้ พื้นผิวของผนังต่าง ๆ และตำแหน่งช่องเปิดที่รับแสงเข้ามา ล้วนแล้วแต่ถูกคิดคำนวณให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการสัมผัสได้ถึงแสงและเงาที่แปรเปลี่ยนไปในแต่ละช่วงเวลาของวัน จึงทำให้สปาแห่งนี้มีบรรยากาศที่หลากหลาย แม้ว่าจะมีการคุมโทนสีที่ดูสะอาดตาแบบ Nataral Minimal ก็ตาม

หากท่านใดสนใจไปใช้บริการ Cheeva Spa แห่งใหม่ (ในที่เดิม) นี้ เขาจะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 พร้อม ๆ กับคาเฟ่ “กลิ่น” ที่จะเปิดให้บริการในพื้นที่เดียวกัน ระหว่างรอก็สามารถนั่งพักผ่อนจิบกาแฟได้สบาย ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีที่ให้เลือกพักผ่อนได้หลากหลาย แถมมีมุมถ่ายรูปสำหรับอัพเป็นภาพโปรไฟล์เก๋ ๆ เดือนธันวาคมนี้มีวันหยุดยาวหลายวัน ลองจัดตารางให้สปาแห่งนี้อยู่ในทริปของคุณด้วยสิ รับรองฟินแน่นอน

ติดต่อ : https://www.facebook.com/CheevaSpa


Architect & Interior designer : INLY STUDIO
Interior and Stylist : Kanthicha Somsak, Kanyakorn Somsak
Photo : Yothin Phanyothin
Text : Wuthikorn Sut

The post สปา แบบ Natural Minimal ที่ Cheeva Spa appeared first on บ้านและสวน.

บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น แบบอีสาน

$
0
0

บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น หลังคาทรงจั่ว นี้ออกแบบตามวิถีชีวิตที่มีลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัยของคนอีสาน โดยนำมาสร้างเป็นฟังก์ชันของชานขนาดกว้างที่โดดเด่นอยู่หน้าบ้านเพื่อรองรับญาติๆ ผสมกับรูปแบบของบ้านทรงจั่วที่ดูทันสมัย ด้านบนของหลังคาหน้าจั่วขนาดเล็กกรุหลังคาลอนใสเพื่อช่วยนำแสงธรรมชาติให้ส่องลงมาถึงด้านล่าง และสร้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เจ้าของ : คุณวาทินี สุดตา บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น

ออกแบบ : S Pace Studio โดยคุณทวิชากร เหล่าไชยยงค์ และคุณปัณณพัฒน์ เพ็ชรจรัส

วิศวกรโครงสร้าง : คุณบดินทร์ มหาราช

ก่อสร้าง : P&House Engineering Construction Shop

 

บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น บ้านชั้นเดียว เฮือนอีสานโมเดิร์น
เจาะหลังคาเพื่อให้กิ่งก้านของต้นไม้เจริญเติบโตขึ้นไปได้ การปลูกต้นไม้ในตำแหน่งนี้นอกจากจะช่วยพรางสายตาจากคนนอกแล้ว ความเขียวของใบไม้ยังช่วยลดความแข็งของบ้านให้ดูนุ่มนวลและเป็นมิตรยิ่งขึ้น
บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น บ้านชั้นเดียว เฮือนอีสาน ชานบ้าน
สร้างบันไดขึ้นบ้านจากที่จอดรถเพื่อความสะดวกในการใช้งาน นอกจากนี้บันไดและชานพักยังทำหน้าที่แบ่งพื้นที่ใช้งานและลำดับในการเข้าถึงไปในตัว

บ้านหลังนี้มีชื่อว่า “บ้านบุญโฮม” ซึ่งมีที่มาจากชื่อคุณแม่ของคุณวาทินี สุดตา ผู้เป็นเจ้าของบ้าน ตั้งอยู่ในอำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น ตามความตั้งใจเดิม เจ้าของบ้านอยากรีโนเวตบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้หลังเก่าขนาด 2 ชั้น แต่เมื่อผู้ออกแบบจาก S Pace Studio ประเมินความแข็งแรงของโครงสร้างและวัสดุต่าง ๆ แล้ว ได้แนะนำให้สร้างบ้านหลังใหม่บนที่ดินเดิมขึ้นแทน กระบวนการก่อสร้างจึงเริ่มจากการถมดินเพื่อปรับระดับความสูงให้เท่ากับถนน เพื่อช่วยลดปัญหาน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งยามฝนตก แล้วจึงออกแบบเป็นบ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น

 

 

ชานบ้าน บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น เฮือนอีสาน
เพิ่มพื้นที่ชานหน้าบ้านและรับน้ำหนักหลังคาด้วยเสาไม้จากบ้านเก่า นอกจากจะช่วยเรื่องโครงสร้างของหลังคาที่ยื่นออกไปแล้ว ยังทำให้สัดส่วนของบ้านดูสมมาตรและสวยงาม
ชานบ้าน บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น เฮือนอีสาน
วางผังห้องครัวให้เชื่อมต่อกับชานพักผ่อนด้านหน้า ตามลักษณะการใช้งานของสมาชิกในครอบครัวที่ชอบมานั่งล้อมวงที่ชานนี้ ผู้ออกแบบจึงเลือกกรุผนังภายนอกด้วยไม้เทียมที่มีสีสันและแพตเทิร์นกลมกลืนกับส่วนอื่นๆ ของบ้าน

เนื่องจากที่ดินมีขนาดใหญ่พอสำหรับวางพื้นที่ใช้สอยลงไปได้ทั้งหมด แถมยังช่วยตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่คุณวาทินีด้วย จะได้ไม่ต้องขึ้น – ลงบันไดให้ยุ่งยากบนพื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร ผู้ออกแบบสามารถจัดวางฟังก์ชันการใช้งานได้ครบครันตามความต้องการของสมาชิกในบ้านทั้ง 5 คน แนวคิดในการออกแบบได้ตีความวิถีชีวิตที่มีลักษณะถ้อยที-ถ้อยอาศัยของคนอีสานมาเป็นฟังก์ชันผสมกับรูปแบบของบ้านที่ทันสมัย สะอาดตา และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนออกมาเป็นบ้านชั้นเดียวที่มีหลังคาหน้าจั่วขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยชานหน้าบ้านขนาดกว้างขวางเพื่อรองรับญาติ ๆ และเพื่อนบ้านที่หมั่นแวะเวียนมาทักทาย ด้านบนทำหลังคาหน้าจั่วขนาดเล็กกรุหลังคาลอนใสเพื่อช่วยนำแสงธรรมชาติให้ส่องลงมาถึงด้านล่างอย่างทั่วถึง เนื่องจากชานบ้านมีขนาดใหญ่ ลึกกว่า 8 เมตร หากใช้หลังคาลอนปกติอาจนำแสงธรรมชาติให้ส่องลงมาได้ไม่เพียงพอ

ชานบ้าน บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น
เปิดมุมมองของบ้านให้เป็นส่วนหนึ่งของชานบ้านด้วยการใช้หน้าต่างและประตูแบบบานเปิดโปร่งโล่งตลอดแนว

ความพิเศษอีกอย่างของบ้านนี้คือ ผู้ออกแบบได้วางตำแหน่งครัวไว้หน้าบ้าน เพราะคนในครอบ-ครัวมักมานั่งรับประทานอาหารกันที่ชานบ้านเป็นประจำ จึงออกแบบห้องครัวให้มีผนังปิดล้อม แล้วเซาะร่องและทาสีให้ดูคล้ายลายไม้ เพื่อให้บ้านดูสะอาดและเป็นสัดส่วน แต่ขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี

ห้องกินข้าว โถงนั่งเล่น
มุมมองจากโถงทางเดินภายในบ้านออกไปยังชานบ้านจะเห็นได้ว่าพื้นที่ส่วนกลางสามารถมองทะลุถึงกันได้ทั้งหมด ให้ความรู้สึกเย็นสบายจากลมธรรมชาติที่พัดเข้ามาผ่านช่องเปิดที่ออกแบบไว้
ห้องกินข้าว ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว โต๊ะกินข้าว
วางตำแหน่งพื้นที่รับประทานอาหารไว้ติดกับห้องครัว ตรงกลางมีโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งทำจากไม้จากบ้านเก่าเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของบ้าน

วัสดุหลักของบ้านหลังนี้เลือกใช้ไม้จริงจากบ้านเก่าถึง 90 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ออกแบบได้ตรวจดูความแข็งแรงของไม้และคำนวณปริมาณการใช้ไม้อย่างรอบคอบ เนื่องจากถ้าไม้กระดานจากบ้านเก่ามีไม่เพียงพอจะทำให้พื้นที่ใหม่มีสีพื้นไม้ไม่สม่ำเสมอไม่สวยงาม ถึงจะซื้อไม้ชนิดเดียวกันมาเพิ่ม แต่ก็ไม่สามารถจะเลียนแบบผิวไม้ที่ผ่านกาลเวลามาได้ซึ่งก็กลายเป็นเสน่ห์ที่ช่วยเก็บรักษาความทรงจำดี ๆ ของครอบครัวเอาไว้ ท้งั ยังช่วยประหยัดงบประมาณค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ห้องทำงาน เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน
ห้องทำงานตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินกรุผิวลามิเนตลายไม้ เพื่อสร้างความรู้สึกต่อเนื่องกับพื้นที่ต่างๆ
ห้องนอน ห้องแต่งตัว หัวเตียง เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน
ภายในห้องนอนใหญ่ วางตำแหน่งห้องแต่งตัวไว้ด้านหลังผนังหัวเตียง ตู้และชั้นต่างๆ เป็นงานบิลท์อิน สร้างลูกเล่นให้ห้องด้วยการกรุกระจกฝ้าที่ผนังหัวเตียงแล้วซ่อนไฟไว้ด้านใน

บ้านหลังนี้จึงเป็นเหมือนการนำเอกลักษณ์ของบ้านไม้สไตล์ทรอปิคัล เส้นสายอันเรียบง่ายแบบโมเดิร์น และวิถีชีวิตของชาวอีสานมาหลอมรวมให้เป็นที่อยู่อาศัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างงดงามและลงตัว

เรื่อง : Ektida N.

ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล


บ้านปูนชั้นเดียวกลางสวน ติดริมคลอง โปร่งสบายน่าอยู่

Farmsup บ้านชั้นเดียวกลางทุ่งที่อยู่แบบพอเพียง

รวมบ้านสไตล์อีสานน่าอยู่ ใกล้ชิดธรรมชาติ

The post บ้านชั้นเดียวทรงจั่วสไตล์โมเดิร์น แบบอีสาน appeared first on บ้านและสวน.

303 HOUSE บ้านซอกตึกที่เปลี่ยนพื้นที่แคบลึกให้อยู่ได้จริง

$
0
0

โดยปกติแล้วบ้านทาวน์เฮ้าส์คือรูปแบบที่พักอาศัยที่เราเห็นกันจนคุ้นตาในกรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ทว่าโปรเจ็กต์ 303 HOUSE บ้านหลังเล็ก ขนาด 90 ตารางเมตร นั้น ต่างออกไปจากภาพคุ้นชินเหล่านั้นแทบสิ้นเชิง

ความไม่เหมือนใครของ บ้านหลังเล็ก ในโปรเจ็กต์นี้ คือคุณลักษณะแคบลึกของพื้นที่ระหว่างตึก ซึ่งบริเวณด้านหน้าหันออกไปปะทะกับถนนใหญ่โดยตรง รวมถึงยังเป็นที่ดินที่มีความยาวมากกว่าปกติ

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
มุมมองจากถนนหลักจะเห็นว่าพื้นที่ระหว่างตึกมีขนาดแคบและลึก จนไม่อยากเชื่อว่าจะสามารถสร้างบ้านออกมาได้อย่างน่าอยู่
บ้านหลังเล็ก
มุมมองจากภายในบ้าน ที่มองเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านริมสองฝั่งถนน

ทีมออกแบบจาก Sawadeesign จึงใช้วิธีสร้างเลเยอร์แนวลึกให้ล้อไปกับพื้นที่แคบแต่ยาว สร้างลำดับขั้นของการใช้งานพื้นที่ในแต่ละฟังก์ชันอย่างเป็นสัดส่วน (ชมได้จากภาพแปลนท้ายบทความ)

บ้านหลังเล็ก
ฝั่งขวาเป็นประตูใหญ่ของคน และฝั่งซ้ายคือประตูเล็กของสุนัข!

บ้านหลังเล็ก

นี่คือ Pet friendly home อย่างแท้จริง สังเกตได้ว่ามีกิมมิคเล็ก ๆ ที่ชวนให้อมยิ้มถึงความน่ารัก จากการที่ผู้ออกแบบให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงภายในบ้านเป็นพิเศษ จากด้านหน้าอาคารมีคอร์ตเล็ก ๆ พร้อมปลูกต้นไม้หนึ่งต้นเป็นแนวหน้า คือประตูทางเข้าเดียวของบ้านที่มีทั้งประตูของคน และประตูของสุนัข! ต่อมายังมุมนั่งเล่นด้านหน้าที่เชื่อมกับห้องครัว ห้องน้ำ จรดห้องนอนซึ่งอยู่ภายในสุด

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
แม้เป็นพื้นที่ขนาดเล็ก แต่ได้รับการออกแบบให้ดูเรียบง่าย มีการเก็บข้าวของไว้ภายในตู้บิลท์อินอย่างเป็นระเบียบเพื่อไม่ให้เกิดการรบกวนสายตา
303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
การยกระดับให้ตู้บิลท์อินดูลอยเหนือพื้นเล็กน้อย ช่วยทำให้เกิดควาามรู้สึกโปร่งเบา และสามารถสร้างฟังก์ชันเสริมเป็นที่วางรองเท้าได้อีกด้วย
303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
อีกหนึ่งไอเดียน่าสนใจ คือการออกแบบห้องน้ำเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย พร้อมแยกส่วนมุมพักผ่อนส่วนตัวอย่างห้องนอน กับห้องนั่งเล่นที่เป็นพื้นที่ส่วนหลางออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
แยกส่วนห้องอาบน้ำออกจากห้องส้วม
303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
เห็นแคบ ๆ แบบนี้ แต่ 303 HOUSE ก็สามารถบรรจุห้องนอนเอาไว้ได้ถึง 3 ห้อง! แถมยังมีพื้นที่นั่งเล่นกึ่งกลางแจ้งที่นอกจากเป็นที่อยู่ของแสงแล้ว ยังเป็นการเว้นระยะห่างระหว่างห้องนอนสองห้องออกจากกันเพื่อความเป็นส่วนตัวอีกด้วย

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก

ด้วยวิธีการลำดับการใช้งานเช่นนี้ ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ทางหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ผู้ออกแบบยังลดความทึบตันของบ้าน ด้วยการออกแบบหลังคาในลักษณะลาดเอียงให้เกิดจังหวะทึบเว้นโปร่งสลับกันไป ไอเดียนี้ช่วยดึงแสงธรรมชาติให้สามารถส่องเข้ามาในพื้นที่อย่างทั่วถึง โดยไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก

และเพื่อลดการใช้คอนกรีตสร้างบ้านแบบปกติทั่วไป ผู้ออกแบบอธิบายว่า พวกเขาได้นำเสนอทางเลือกของโครงสร้างที่นักลงทุนมักจะปฏิเสธตั้งแต่การนำเสนอครั้งแรกมาใช้กับโปรเจ็กต์นี้

นั่นคือการใช้โครงเหล็กยึดกับผนังคอนกรีตของตึกสองข้าง ร่วมด้วยวัสดุน้ำหนักเบาอย่างไม้ MDF หรือแผ่นใยไม้อัด อะลูมิเนียม และสเตนเลส เพื่อบรรลุจุดประสงค์หลักของโปรเจ็กต์นั่นคือ การแทรกห้องโดยสารบนเครื่องบินมาตั้งอยู่ใจกลางเมืองนั่นเอง

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก
มุมนั่งเล่นด้านหน้าอาคาร สร้างเป็นคอร์ตเล็ก ๆ พร้อมปลูกต้นไม้หนึ่งต้นช่วยสร้างความร่มรื่นให้กับพื้นที่ดังกล่าว

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก

303 HOUSE บ้านหลังเล็ก 303 HOUSE บ้านหลังเล็ก 303 HOUSE บ้านหลังเล็กออกแบบ: Sawadeesign Studio
โดย Doan Si Nguyen และ Vo Thanh Phat 
https://www.sawadeesign.net/


เรียบเรียง: ND24
ภาพ: Quang Tran
http://quangdam.com/

อ่านต่ออีกหนึ่งงานออกแบบของ Sawadeesign Studio กับ YAM ร้านอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งในหนังสือ 100 Best Design Bars & Restaurants ได้ที่นี่

YAM บ้านหลังเล็ก
YAM ประตูสู่เชียงใหม่ ผ่านเข้าออกทางดาลัด

 

 

The post 303 HOUSE บ้านซอกตึกที่เปลี่ยนพื้นที่แคบลึกให้อยู่ได้จริง appeared first on บ้านและสวน.

เบเยอร์ เปิดตัว ลีเดีย –แมทธิว พรีเซนเตอร์ “เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส” สีทาภายในต้านโคโรนาไวรัส

$
0
0

กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดตัว ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ และแมทธิว ดีน อย่างเป็นทางการในฐานะพรีเซนเตอร์คู่ใหม่ล่าสุดของผลิตภัณฑ์ “เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส” สีทาภายในรายแรก และรายเดียวของประเทศไทยที่เลือกใช้นวัตกรรมสุดล้ำ โกลด์ ไอออน ให้ทั้งความสะอาด และกำจัดฮิวแมนโคโรนาไวรัส พร้อมผลการรับรองจากสถาบันสุขภาพระดับโลก อีกทั้งเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส “แมทธิว ลีเดีย VS โคโรนาไวรัส” ยกนี้ต้องชนะ! มุ่งเป้าตีตลาดกลุ่มครอบครัว และกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำสินค้านวัตกรรมใส่ใจสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสีเบเยอร์ เปิดเผยว่า “ทางเบเยอร์ไม่เคยหยุดพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เราอยากส่งมอบสินค้าคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้า โดยทางเบเยอร์เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส ตัวใหม่ล่าสุดนี้จะตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ และครอบครัวในยุคปัจจุบัน ด้วยความโดดเด่นของนวัตกรรม โกลด์ ไอออน ที่เราทุ่มทุนวิจัย และพัฒนาไปมากกว่า 20 ล้านบาท ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นในท้องตลาด ซึ่งตอนนี้ได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ จากหลายกลุ่มเป้าหมาย ทั้งภาคธุรกิจสุขภาพ โรงพยาบาล โรงเรียน ร้านอาหาร และกลุ่มครอบครัว ก็ต่างมองหาผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยเข้ากับยุคนิวนอร์มอล เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี โดยสีเบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส ได้รับการรับรองจากสถาบันไวโรโลจี้ ประเทศอังกฤษ ว่าสามารถกำจัดฮิวแมนโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ NL63 ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ และปอดอักเสบรุนแรง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน”

The post เบเยอร์ เปิดตัว ลีเดีย – แมทธิว พรีเซนเตอร์ “เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส” สีทาภายในต้านโคโรนาไวรัส appeared first on บ้านและสวน.

สำนักงานใหม่จระเข้ ผู้นำด้านปูนกาวยาแนว ระบบกันซึม และเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง

$
0
0

อีกหนึ่งหน้าที่ของสถาปัตยกรรม คือ การสื่อสารภาพลักษณ์และส่งเสริมการใช้พื้นที่อย่างมีคุณภาพ อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของบริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือแบรนด์ จระเข้ ผู้นำด้านระบบกันซึม ปูนกาวยาแนว และเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง จึงสื่อสารภาพลักษณ์ด้วยฟาซาดแผ่นอะลูมิเนียมโอบล้อมอาคารเป็นทรงหัวและตัวจระเข้แบบกราฟิก ซึ่งจระเข้เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความแข็งแรง ไม่ย่อท้อ อายุยืน การปรับตัวได้ดี และมีความรักครอบครัว บริษัทจึงนำมาเป็นตัวแทนของความเหนียวแน่นและทนทานซึ่งสอดคล้องกับองค์กรและผลิตภัณฑ์ และออกแบบโดยคำนึงถึงความสุขในการทำงานของพนักงานเป็นสำคัญ

มุมมองด้านหน้าที่ทำฟาซาดเป็นทรงหัวจระเข้
ระหว่างอาคารเปิดสเปซโล่งแบบกึ่งกลางแจ้งเป็นพื้นที่โอบล้อมที่ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างอาคาร

ดีไซน์เพื่อความเป็นหนึ่ง

กว่า 28 ปีตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท มีการขยับขยายออฟฟิศถึง 4 ครั้ง ตามการเติบโตที่รวดเร็ว จนปัจจุบันได้เปิดออฟฟิศหลังใหม่ในย่านกรุงเทพกรีฑา เพื่อรวมทุกฝ่ายให้มาทำงานประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง โดย 3 อาคารแรกเป็นสำนักงานที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกัน และโอบล้อมให้ดูเป็นอาคารเดียวกันด้วยฟาซาดแผ่นอะลูมิเนียมที่เปลี่ยนสีได้ตามการหักเหแสง ออกแบบเป็นทรงจระเข้ตวัดหาง โดยเปรียบอาคารด้านหน้าซึ่งอยู่ในตำแหน่งหัวจระเข้ให้เป็นโซนผู้บริหารที่ใช้วิสัยทัศน์มองไปข้างหน้า อาคารส่วนกลางตรงกับส่วนท้องที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์จึงเป็นฝ่ายการเงินและสำนักงาน อาคารส่วนหลังตรงกับส่วนหางซึ่งใช้ขับเคลื่อนจึงเป็นฝ่ายการตลาดและฝ่ายขาย ส่วนอีกอาคารที่อยู่ด้านในสุดเป็นส่วนบริการสำหรับพนักงานซึ่งมีร้านอาหาร สถานที่ออกกำลังกาย รวมถึงมีลู่วิ่งรอบโครงการที่ออกแบบด้วยมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความสุขให้พนักงานที่เสมือนคนในครอบครัว ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป

ส่วนต้อนรับลูกค้า และ Co-working space ซึ่งจัดแสดงผลงานและรางวัลต่างๆ ผสานไอเดียการทำสวนแนวตั้ง

ภายในอาคารตกแต่งฝ้าเพดานทรงหกเหลี่ยมจัดวางแพทเทิร์นเป็นโคมไฟ ฝ้าทึบและการปล่อยโล่งให้ดูมีมิติ

“Journey Thru Happiness”

การเติบโตจะมั่นคงและยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อมีจุดยืนที่ชัดเจนและไม่ลืมอดีตซึ่งคือประสบการณ์อันมีค่า ภายในอาคารจึงมีส่วนพิพิธภัณฑ์ที่จัดในธีม “Journey Thru Happiness” เล่าความเป็นมาของบริษัทโดยแบ่งเป็น 3 ยุค คือ  ยุคตั้งต้นเล่าการก่อตั้งบริษัท ยุคต่อยอดจัดแสดงปรัชญาการทำงาน และนวัตกรรม ยุคเติบโตเป็นการปรับภาพลักษณ์ใหม่  เปลี่ยนจากแบรนด์ เซอรา ซี-เคียว เป็น จระเข้ และการพัฒนาสู่อนาคตอย่างยั่งยืน โดยจัดแสดงในพื้นที่ทรงกระบอกซึ่งมีที่มาจาก “ไซโล” ที่ใช้บรรจุปูนซีเมนต์ อีกทั้งพื้นโดยรอบยังโชว์ของสะสมและงานศิลปะเกี่ยวกับจระเข้ของคุณกองกูณฑ์ อรรถสารประสิทธิ์ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง ซึ่งถือเป็นโอกาสพิเศษที่เปิดให้ บ้านและสวน เข้ามาเยี่ยมชมสำนักงานใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความสุขของคนทำงาน จึงไม่แปลกใจในคุณภาพสินค้าที่ได้รับการพัฒนาอย่างใส่ใจมาโดยตลอด

พิพิธภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นทรงกระบอกซึ่งมีที่มาจาก “ไซโล”
พื้นที่แสดงนิทรรศการแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ตั้งต้น ต่อยอด และเติบโต

การลงสื่อโฆษณาในนิตยสารบ้านและสวน ตั้งแต่เล่มแรกๆ
จัดแสดงเครื่องผสมปูนเครื่องแรกเทคโนโลยีจาก USA
ไอเดียผนังโชว์การใช้ผลิตภัณฑ์มาสร้างลวดลายใหม่ๆ
คุณนรวีร์ เศรษฐิน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาด

ออกแบบสถาปัตยกรรม Architects 49 Limited

ตกแต่งภายใน Studio 54


เรื่อง ศรายุทธ ศรีทิพย์อาสน์

ภาพ สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

 

The post สำนักงานใหม่จระเข้ ผู้นำด้านปูนกาวยาแนว ระบบกันซึม และเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง appeared first on บ้านและสวน.

“ก้าวถัดไปของเทคโนโลยีสี ที่ปลอดภัยไปอีกขั้น”กับ เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน สีที่ทำความสะอาดได้ง่ายและป้องกันเชื้อไวรัสได้เหนือมาตรฐาน”

$
0
0

การมาถึงของ Covid 19 ได้เปลี่ยนกระบวนทัศน์ของโลกไปแทบจะตลอดกาล และโลกของสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในก็ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน มาตรฐานใหม่ๆในแบบ New Normal ถูกกำหนดขึ้นเป็นเกณฑ์เพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้เราทุกคนสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ในที่สุดนั่นเอง แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราก้าวไปให้ไกลกว่า “มาตรฐานใหม่” เพื่อสร้างบรรทัดฐานความปลอดภัยให้กับงานออกแบบของเรา ให้เป็นก้าวที่นำหน้าไปในเทคโนโลยี เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน คือสีทาภายในที่คิดล้ำไปมากกว่ามาตรฐานใหม่ดังที่ว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ชีวิตปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการกำจัดเชื้อโรคต่างๆได้อย่างเหนือชั้นด้วย โกลด์ ไอออนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยกว่าซิลเวอร์ ไอออนที่เคยใช้มา

มาตรฐานอาคารสมัยใหม่ที่ใส่ใจต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น

แต่เดิมที่มาตรฐานอาคารเขียวนั้นใช้เกณฑ์จำเพาะเกี่ยวกับเรื่องของสิ่งแวดล้อมเช่น Leed แต่ปัจจุบัน มาตรฐานอาคารสมัยใหม่เริ่มใส่ใจกับความเป็นอยู่ และสุขอนามัยของผู้ใช้อาคารมากยิ่งขึ้น มาตรฐานอย่าง Well Building Standard มีการกล่าวถึงคุณภาพในการจัดการกับเชื้อไวรัสในอาคาร ทั้งวัสดุที่ใช้และเทคโนโลยีที่ป้องกันเชื้อโรคและเชื้อไวรัสต่างๆ การที่เลือกใช้ “ผลิตภัณฑ์ที่ทำได้มากกว่าในการกำจัดเชื้อโรค” จึงเป็นการก้าวไปสู่มาตรฐานใหม่ที่มากกว่าคนอื่นเช่นกัน

สำหรับอาคารที่ถูกใช้งานมากกว่าแค่เป็นที่อยู่อาศัยนั้น การได้รับมาตรฐานที่ดีกว่าย่อมหมายถึงการก้าวสู่มาตรฐานและการยอมรับที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน การเลือกผลิตภัณฑ์ในการยกระดับคุณภาพของอาคารจึงเป็นการลงทุนให้กับองค์กรณ์ที่คุ้มค่าในระยะยาวแน่นอน

และสำหรับบ้านพักอาศัย คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของผู้อยู่อาศัยอีกแล้ว บ่อยครั้งที่ปัจจัยทางสุขภาพจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยและมีผลรับรองชัดเจนเช่นนี้ จึงสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่ว่านี่คือสิ่งที่ดีกว่าอย่างแท้จริง

มากกว่า Silver Ion คือ Gold Ion

เพราะ “เบเยอร์” ไม่หยุดที่ดีพอ แต่ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า จาก Silver Ion ที่ได้รับความนิยมในสมัยนี้ ก้าวข้ามสู่ Gold Ion ซึ่งมีประสิทธิภาพกว่าด้วยผลวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญการันตีผลการทดสอบโดยสถาบัน ไวโรโลจี้ (Virology)ประเทศอังกฤษที่ได้ผลว่า ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารสีเบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ ไวรัส โกลด์ไอออน ซึ่งเป็นสีทาอาคารสูตรน้ำ มีคุณสมบัติสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของโคโรน่า ไวรัส สายพันธ์ เอ็นแอล 63 ได้กว่า 99% ภายในระยะเวลาทดสอบ 2 ชั่วโมง ตามมาตรฐานการทดสอบ ISO 21702:2019 ทำให้มั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยม ถึงคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคที่ได้ผลจริง

ดีต่อสุขภาพ และดีต่อการใช้งาน

ทั้งสะอาด ปลอดภัย และที่สำคัญยังดูแลง่าย สีเบเยอร์ไม่ใช่แค่เพียงช่วยให้ภายในบ้านของคุณปลอดจากเชื้อโรคมากยิ่งขึ้น แต่ยังเช็คทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย และด้วย คุณสมบัติแอร์คลีน (Air Clean) ที่สามารถช่วยฟอกอากาศให้กับห้องได้ตลอด 24 ชั่วโมงและ Gold Ion ที่เข้าไปจัดการกับเชื้อไวรัสทำให้ไม่สามารถเติบโตและแพร่เชื้อ ห้องทั้งห้องจึงทั้งสะอาด สดชื่น และปลอดเชื้อโรคไปพร้อมๆกัน

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สีทาภายในอย่างใส่ใจ เพราะอาคารเป็นมากกว่าแค่ห้องๆหนึ่ง แต่คือความห่วงใยต่อทุกคน

การเลือกใช้วัสดุสีที่ปลอดภัยนั้นเปรียบเสมือนความหวังดีที่ส่งผ่านความใส่ใจในการออกแบบเพื่อการตอบโจทย์และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับกลุ่มครอบครัว ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้รักสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาสถานการณ์ปัจจุบันจะเรียกว่าเป็น New Normal Paint ก็ว่าได้และเทคโนโลยีนี้ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำสีนวัตกรรมของเบเยอร์อย่างแท้จริงยากที่ใครจะตามทัน ซึ่งหากกล่าวโดลสรุปแล้ว สีทาภายในแบบ New Normal นี้ควรใส่ใจกับประเด็นต่างๆให้ครบถ้วน ในสองประเด็นหลักนั่นก็คือ ความสามารถในการกำจัดเชื้อโรค และ ความสามารถในการทำความสะอาด จึงจะเรียกได้ว่าเป็นสีแบบ New Normal Paint ที่ดีพอ

ความสามารถในการกำจัดเชื้อโรค

  1. ต้องสามารถกำจัด ฮิวแมน โคโรนาไวรัส ได้จริง
  2. มีเทคโนโลยีที่ก้าวไปมากกว่าแค่มาตรฐาน เช่น Gold Ion ที่ดีกว่า Silver Ion
  3. การรับรองผลการทดสอบโดยสถาบันที่น่าเชื่อถือ
  4. ต้องสามารถกำจัดเชื้อโรคอื่นๆได้ด้วย

ความสามารถในการทำความสะอาด

  1. ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ตลอด 24 ชั่วโมงได้
  2. สามารถเช็ดล้างทำความสะอาด ได้ยาวนานกว่า 200,000 รอบอีกด้วย

และบอกได้เลยว่า สี เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน คือสีทาภายในที่ครบถ้วนคุณสมบัติตามที่กล่าวมา หากจะมองหาสีที่พร้อมช่วยให้คุณก้าวต่อไปในยุค New Normal ได้อย่างมั่นใจ ให้สี เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน เป็นตัวเลือกนั้นเถอะครับ

สนใจข้อมูลเพิ่มเติม : https://bit.ly/3kpYggz
รับชม Ads ผลิตภัณฑ์ :
https://bit.ly/3ltI0wC

The post “ก้าวถัดไปของเทคโนโลยีสี ที่ปลอดภัยไปอีกขั้น” กับ เบเยอร์ชิลด์ แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน สีที่ทำความสะอาดได้ง่ายและป้องกันเชื้อไวรัสได้เหนือมาตรฐาน” appeared first on บ้านและสวน.

6 เรื่อง! สุดเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับจุ๊บของน้องหมาที่คุณ(อาจ)ไม่เคยรู้มาก่อน

$
0
0

ไหน ๆ วันนี้จุ๊บแม่หรือยัง? เชื่อว่าเจ้าของน้องหมาต้องเคยพูดกันแน่ ๆ แต่รู้มั้ยคะว่า การจุ๊บ หรือ การเลียของน้องหมา ต่อเรานั้น มีความหมายอย่างไร

บ้านและสวน Pets หาคำตอบ เรื่อง การจุ๊บ หรือ การเลียของน้องหมา มาบอกค่ะ รู้แล้วอาจเซอร์ไพรส์ก็ได้นะคะ

“โดยทั่วไปสุนัขมักจะใช้การเลียกับสิ่งที่มันรู้สึกสนใจอยู่แล้ว อย่างเช่น อาหาร” ดร.แพตตี้ คูลี่ย์ สัตวแพทย์ชื่อดังแห่งเมืองไมอามี่กล่าว “มนุษย์เรามักแปลความหมายการเลียของสุนัขทั้งหลายว่าเป็นการจูบ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกมันมักจะทำพฤติกรรมนี้บ่อย ๆ เวลาที่รู้สึกผ่อนคลายที่บ้าน รวมถึงเวลาที่พวกมันอยากแสดงออกทางอารมณ์”
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีความรักอยู่ในพฤติกรรมนั้นหรอกนะ จริง ๆ แล้วยังมีเหตุผลแฝงอีกมายมาย เวลาที่น้องหมาเลียหน้าคุณ (หรือที่คุณทึกทักว่ามันมาจุ๊บคุณนั่นล่ะ!)

1.น้องหมาจูบกันมาเป็น 10,000 ปีแล้ว

ขอบคุณภาพจาก : petmaven.com

“พฤติกรรมการจูบของสุนัขน่าจะเริ่มมาจากระหว่างพวกมันกันเองก่อน” แอนเดรีย อาร์เดน ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยง และผู้ฝึกสอนสุนัขในเมืองนิวยอร์คกล่าว “ลูกสุนัขมักมีพฤติกรรมเลียหน้าแม่สุนัขอยู่แล้ว เพราะแม่คือผู้นำ ผู้เลี้ยงดู และเป็นผู้ให้อาหาร ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ ก็ติดเป็นนิสัยทำมาเรื่อย ๆ จนโต และพร้อมจะทำกับใครก็ตามที่พวกมันเห็นว่าเป็นผู้ดูแลคนสำคัญ”
“มนุษย์เรานี่ล่ะ ที่เข้าไปแย่งบทบาทการเป็นผู้ดูแลลูกหมาน้อย ๆ จากแม่ของมัน” ดร.คูลี่ย์กล่าวเสริม

การดูแลลูกหมาและลูกแมวหลังคลอด

 

2.น้องหมาก็เลือกจูบบางคนมากกว่าคนอื่นด้วยเหมือนกันนะ

ขอบคุณภาพจาก : stylemagazine.hu

การจูบก็เป็นพฤติกรรมที่สุนัขสามารถเรียนรู้ได้ อาร์เดนแนะว่า “หากตอนเป็นลูกหมาตัวน้อย คุณให้รางวัล หรือชมเชยเพื่อนขนฟูตัวนี้ทุกครั้งที่มันจูบคุณ พวกมันก็จะทำพฤติกรรมนี้ต่อเนื่องไปจนโต” ฉะนั้น ถ้าเป็นคุณคนเดียวในบ้านที่คอยส่งเสริมพฤติกรรมการจุ๊บนี้ น้องหมาก็จะมีแนวโน้มที่จะจูบคุณมากกว่าคนอื่น ๆ ในบ้านอย่างแน่นอน

 

3.การจูบก็นับเป็นการรับรู้ประสาทสัมผัสทางหนึ่ง

ขอบคุณภาพจาก : prounddogmom.com

บางครั้งเหตุผลตรง ๆ ง่าย ๆ เหตุผลเดียวที่สุนัขมาเลียหน้าเลียตาหรือจูบคุณก็เพราะ กลิ่นจากตัวของคุณนั่นเอง
“บางทีอาจเป็นกลิ่นเหงื่อกลิ่นตัวของคุณที่เค็มนิด ๆ หรือกลิ่นโลชั่นที่คุณเพิ่งทาไป ดังนั้น ไม่ต้องแปลกใจเลย หากคุณเพิ่งกินอะไรมา แล้วสุนัขจะได้กลิ่นลอยตามลมมาเตะจมูก จนพวกมันกระโจนเข้าจูบคุณอย่างนัวเนีย” อาร์เดนกล่าว

 

4.น้องหมาบางตัวหรือบางสายพันธุ์ก็จูบเก่งจูบบ่อยกว่าตัวอื่นๆ นะ

การเลียของน้องหมา

ถึงแม้พฤติกรรมเหล่านี้ จะมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด นั่นก็ไม่ได้แปลว่าสุนัขของคุณจะผิดปกติอะไร หากพวกมันไม่ค่อยจะจุ๊บคุณมากนัก “เพราะแต่ละบ้านก็มีการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันออกไป สุนัขจะเรียนรู้ขอบเขตของมันตามที่คุณสอนหรือกำหนดไว้” อาร์เดนเสริม
ดังนั้น การที่น้องหมาไม่จุ๊บคุณไม่ได้แปลว่าพวกมันเกลียดคุณ หรือพวกมันกำลังเครียดหรือป่วยหรอกนะ แต่ถ้าสุนัขของคุณ ซึ่งเดิมทีมีนิสัยมาวนเวียนจูบคุณบ่อย ๆ แล้วจู่ ๆ ก็หยุดแจกจุ๊บอย่างไม่มีเหตุผล ถ้าเป็นลักษณะนี้ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพื่อปรึกษาหาสาเหตุการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแบบฉับพลัน

 

5.จูบของน้องหมาเป็นตัวบ่งชี้สถานภาพทางสังคม

การเลียของน้องหมา

“คุณจะรู้ได้ทันทีเลยว่าบ้านนี้ใครใหญ่ โดยดูได้จากการเลียกัน/การจูบกันเองของพวกมันนี่ล่ะ นั่นคือ ตัวที่ไปจูบตัวอื่นจะมีสถานภาพด้อยหรือต่ำกว่าตัวที่ถูกจูบ” ดร.คูลี่ย์กล่าว
สัญญาณบ่งชี้สถานะเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับพวกสุนัขที่จะสร้างลำดับสถานะในกลุ่มของพวกมัน และลดการต่อสู้ทะเลาะวิวาท

 

6.กรุณารักน้องหมาให้ถูกเวลา

การเลียของน้องหมา
ขอบคุณภาพจาก : Ed2Go

อาร์เดนกล่าวว่า “ไม่ว่าคุณจะชอบโมเม้นท์ที่น้องหมามาจุ๊บคุณมากขนาดไหนก็ตาม ขออย่างเดียวคืออย่าบังคับขืนใจจับน้องมาจุ๊บเลย เพราะ ตามปกติสุนัขจะสื่อสารกับเจ้าของผ่านทางภาษากายอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พวกมันรู้สึกผ่อนคลาย หรือตอนที่พวกมันกำลังเผชิญความเครียด ซึ่งการจูบเจ้าของก็เป็นหนึ่งในอาอัปกิริยาที่สุนัขใช้สื่อสาร”
ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรหากจู่ ๆ น้องหมาของคุณจะเดินเข้ามาจุ๊บ แต่ถ้าคุณเกิดอาการหมั่นเขี้ยวเป็นฝ่ายวิ่งเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงระดมจูบน้องก่อนแล้วล่ะก็ โปรดจงรู้ว่าคุณอาจกำลังทำให้สุนัขรู้สึกอึดอัด ประหม่า และเป็นกังวล

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับข้อมูลที่ บ้านและสวน Pets หามาให้ อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าเมื่อไหร่ที่น้องหมาจุ๊บเรา ก็แสดงว่าเค้ากำลังรู้สึกผ่อนคลาย แค่นี้ทาสหมาอย่างเราก็แฮปปี้แล้วค่ะ

 

แปลและเรียบเรียง : ลีฬภัทร กสานติกุล
จาก 6 Surprising Facts about dog kisses You (probably) didn’t know about

Home

 

The post 6 เรื่อง! สุดเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับจุ๊บของน้องหมาที่คุณ(อาจ)ไม่เคยรู้มาก่อน appeared first on บ้านและสวน.


ก้าวอีกขั้นของ Pomme Chan ดีไซน์เนอร์เลือดไทย ที่กำลังมีความสุขกับการค่อยๆ เดิน

$
0
0

เรามักจะหลงเสน่ห์ลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์สะท้อนผ่านผลงาน ก่อนได้รู้จักตัวตนของศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานเสียด้วยซ้ำ ผลงานสะท้อนตัวตนของศิลปิน ” ได้จริงอย่างที่ใคร ๆ บอกไว้หรือเปล่า วันนี้ my home พาไปเยี่ยมสตูดิโอ พร้อมพูดคุยถึงการเดินทางบนถนนที่ขีดด้วยลายเส้นพริ้วไหว ของดีไซเนอร์สาว ผู้เป็นเจ้าของลายเส้นอ่อนช้อย ราวกับเส้นเหล่านั้นปลิวไสวล้อไปกับสายลมของเธอ Pomme Chan หรือ ปอม-ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง

จากเส้นร่างดินสอ ค่อย ๆ วาดทับด้วยหมึกสีดำจนเป็น ปอม ชาน

การเดินทางบนเส้นทางศิลปะของอดีตนักศึกษาคณะมัณฑนศิลป์ จากรั้วสีเขียวเวอร์ริเดียน ที่เคยลากเส้นดินสอไกด์ไลน์เอาไว้ ค่อย ๆ ถูกลากเส้นทับด้วยปากกาหมึกสีดำ จนเส้นเริ่มคมและชัดขึ้นเรื่อย ๆ เธอใช้กว่า 17 ปี ในการทดลองเป็นปอมชานในหลาย ๆ เวอร์ชั่น ทั้งอินทีเรีย , จูเนียร์กราฟฟิก จนเธอตัดสินใจบินไปศึกษาอนุปริญญาต่อที่ประเทศอังกฤษ หลังจากการตัดสินใจออกบินในครั้งนั้น ทำให้เธอเริ่มมีผลงาน จนเป็นที่รู้จักในวงการศิลปะฐานะนักภาพประกอบ 3 ปีที่ไกลบ้านเป็นช่วงเวลาที่เธอค่อย ๆ บรรจงลงหมึกบนเส้นทางสายนี้  จนได้ร่วมงานกับแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกอย่าง  MTV, The New York Times , Topshop, Nike, Adidas, Sony, BMW, ฯลฯ

จากอินทีเรียนสู่การทำงานแบบไฟน์อาร์ต แล้วกระโดดข้ามสู่ท้องทะเลของงานแบบคอมเมอร์เชียลขั้นตอนการทำงานและวิธีคิดงานของเธอได้เปลี่ยนไปบ้างมั้ย

“งานคอมเมอร์เชียล สำหรับปอม คือการทำงานตามโจทย์ลูกค้า ปอมจะดูก่อนค่ะว่าตัวแบรนด์ต้องการอะไร แล้วเราทำอย่างไรเพื่อจะแมตซ์งานของปอมเข้ากับแบรนของเขาได้ แต่ถ้าเป็นงานแบบไฟน์อาร์ต มันจะเป็นการสร้างงานจากใจของเราซะมากกว่า ตัวปอมเองไม่ใช่ไฟน์อาร์ตติส ปอมจะมีติ่งหนึ่งที่คำนึงถึงลูกค้าเสมอ ถ้าลูกค้าให้โจทย์มาว่า ให้ปอมวาดอะไรก็ได้ ปอมจะถามก่อนว่าวาดประมาณนี้นะ โอเคมั้ยคะ ? ปอมพยายามจะตั้งกรอบขึ้นเล็ก ๆ ขึ้นมาให้ลูกค้าเห็นภาพเดียวกับที่ปอมเห็นเสมอ”

“ ขั้นตอนการทำงานของลักษณะงานทั้งสองอย่างแตกต่างกันแบบชัดเจนเลยค่ะ ปัจจุบันปอมทำงานทั้งสองอย่าง ทั้งงานแบบไฟน์อาร์ตที่ใช้มือเพ้นท์ กับงานแบบคอมเมอร์เชียล ความแตกต่างมันต้องมาตั้งแต่ระบบความคิดเลยค่ะ ปอมว่าเราต้องมองเห็นปลายทางก่อน ว่าภาพสำเร็จมันควรจะต้องเป็นแบบไหน พอเห็นปลายทางแล้ว ปอมถึงค่อยกลับมาคิดว่าเราจะเริ่มกระบวนการวาดอย่างไรดี ปอมอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีมันเคยช้ากว่าตอนนี้มาก ๆ กว่าจะออกมาเป็นงานมันต้องผ่านการคำนวณและใช้เวลากับมัน แต่พอมีเทคโนโลยีเข้ามาทำให้ขั้นตอนการสร้างงานนั้นต่างกันไป แต่ปอมมองว่ามันช่วยเสริมกันนะคะ เมื่อก่อนก็วาดเส้นด้วยมือ แต่เดี๋ยวนี้ก็วาดบนคอมไปเลย ใส่ลูกเล่นให้ดูน่าสนใจขึ้นได้ ก็นับว่าแนวใหม่ที่ปอมก็เพิ่งมาเจอ มันก็คือการทำงานใหม่จากลายเส้นเดิม ทำให้ได้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป ”

อาชีพนักดมกระดาษของปอมชาน

“ ปอมเป็นมนุษย์ดมกระดาษ ทุกประเทศที่เดินทางไป ปอมจะต้องไปซื้ออุปกรณ์ ซื้อกระดาษกลับมาอยู่เรื่อย ไปลองจับเท็กเจอร์ของกระดาษแต่ละชนิด บางทีเราก็จะลองเล่นสีกับกระดาษชนิดใหม่วนไปเรื่อย ๆ ปอมรู้สึกเหมือนเขามีชีวิต มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ต่างกับงานในไฟล์แบบดิจิตัล โปรแกรมทุกโปรแกรมมันมี UNDO สำหรับปอมมันแค่นี้เลยค่ะ พอเราทำงานในคอม เราผิดพลาดเรากด UNDO ได้ แต่ปอมกลับชอบความผิดพลาดแบบนั้นนะคะ ปอมรู้สึกว่าสีที่เกยขอบขึ้นมา ความไม่เรียบเนียนนั้นมันมีเสน่ห์  ถ้าเนียนกริ๊บไปเลยนั้นคือคอม ใคร ๆ ก็ทำได้ถ้ามีโปรแกรม ทุกคนมีเครื่องมือที่เหมือนกันหมด แต่งานเพ้นท์มือมันไม่ใช่ ลายเส้นแบบนี้จากการตวัดข้อมือแบบนี้มันมีได้แค่คนเดียว ”

จะเป็นนักรบ ดาบต้องคมอยู่เสมอ

“ แค่เปลี่ยนปากกาอารมณ์ของงานก็เปลี่ยนแล้ว เพราะฉะนั้นปอมจะใส่ใจเรื่องการเลือกอุปกรณ์มาสร้างงานมาก ทุกอย่างที่ปอมเลือกใช้มันมีเหตุผล ทำไมต้องทำส่วนนี้ด้วยคอม ทำไมต้องทำส่วนนี้ด้วยมือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราจบงานด้วยดิจิตอลเราต้องอาศัยเพื่อนที่ดีที่สุดเลยคือเครื่องปริ้นท์ สำหรับปอมนะคะ เวลาสำคัญกว่าเงิน” ถ้าเรามีปริ้นท์เตอร์ที่ดี ก็เหมือนมีคนจบงานให้เราดี เราจะไม่เสียเวลาแก้งาน นั่นเท่ากับเราสามารถติดตั้งวอลเปเปอร์ลูกค้าได้เร็วขึ้น เมื่อเราทำหนึ่งบ้านได้เร็วขึ้น เราทำยอดได้เพิ่มขึ้นในหนึ่งเดือน เพราะฉะนั้นการแก้บรูฟให้ได้น้อยที่สุดนั้นคือการเซฟเวลา ปริ้นท์เตอร์ที่ดีจะพิมพ์สีออกมาได้อย่างคมชัด ไม่ว่าจะปริ้นลงบนกระดาษ , ผ้า หรือวัสดุแบบไหนก็ตาม เวลาปอมเอาชิ้นงานตัวอย่างไปให้ลูกค้าดู ก็มีความคาดหวังว่าสิ่งที่เป็นตัวอย่าง  กับงานจริงจะใกล้เคียงกันมากที่สุด ”

“ ปริ้นเตอร์ที่สามารถพิมพ์บนแคนวาสได้คุณภาพที่ดี สำหรับปอมนั้นหายาก สิ่งแรกที่ปอมต้องคำนึงในฐานะคนสร้างงานคือระบบการพิมพ์  เวลาที่สีถูกพิมพ์ลงบนวัสดุที่ลักษณะไม่เรียบ ผิวสัมผัสนั้นจะมีช่อง มีรู ซึ่งถ้าเนื้อสีไม่แน่นจริง สีจะไม่เกาะ  มันจะทำให้ผลงานดูไม่เนี๊ยบ ขอบฟุ้ง ๆ และสีไม่ติดทนนาน แต่เมื่อเนื้อสีเกาะและซึมลงบนแคนวาสได้มากพอจากระบบพิมพ์ที่ดี ชิ้นงานที่ได้จะดูประหนึ่งเป็นออริจินัลอาร์ตเวิร์คขึ้นมาเลยค่ะ มันเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับงานอีกอย่างหนึ่ง เก็บไว้ได้นานหลายสิบปีโดยที่สีไม่ซีดจาง และข้อดีทั้งหมดนั้นปอมหาได้จาก Epson S-Series

ด้วยเทคโนโลยี หัวพิมพ์ที่เขาพัฒนาขึ้นมาทำให้งานพิมพ์มีประสิทธิภาพและมันยังช่วย ตอบโจทย์งานพิมพ์ที่ต้องการความแม่นยำของสีที่ค่อนข้างสูง เพราะสามารถพิมพ์ไล่ระดับสีได้อย่างเรียบเนียน ให้สีถูกต้องแม่นยำ คมชัด เม็ดสีเนียนเรียบ และนอกจากนี้ยังสามารถพิมพ์ลงบนวัสดุได้หลากหลาย ทั้งพิมพ์ลงวอลเปเปอร์ , แคนวาส , ไวนิล หรือ PU ก็ได้เช่นกัน  ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีการพิมพ์เท่านั้น  Epson S-Series ยังมีหมึกพิมพ์แบบ Eco-Solvent หมึกพิมพ์รุ่นใหม่จาก Epson  ที่มีคุณสมบัติแห้งเร็วขึ้นกว่าเดิม ให้ช่วงสีที่กว้างขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาพร้อมกับระบบแท็งค์หมึกขนาดใหญ่ ช่วยประหยัดเวลาและลดขั้นตอนการดูแลรักษาเครื่องปริ้นเตอร์ที่เคยยุ่งยากให้ง่ายขึ้น และด้วยคุณสมบัติที่ดีเหล่านี้ ไม่แปลกใจเลยค่ะที่ Epson S-Series  จะถูกเลือกเป็นตัวช่วยในการต่อยอดความคิดของเหล่าดีไซน์เนอร์ ให้ออกมาเป็นผลงานได้มากขึ้นในเวลาที่น้อยลง

ปอม ชาน ในอนาคต จากสายตาของ ปอม ชานเวอร์ชั่น 2020

“ อนาคตมันเปลี่ยนไปตลอดเลยค่ะ ก่อนไปเรียนต่อที่อังกฤษ ปอมเคยคิดไว้ว่าจะเปิดแกลลอรี่ ในนั้นจะเอาละครใบ้มาเล่น จะสนับสนุนวัฒนธรรมไทย จะมีกิจกรรมมากมาย นั้นคือความคิดตอนปี 2001 แล้วมันก็เปลี่ยนไป จนตอนนี้ปี 2020 ปอมมีน้องคนนี้เกิดขึ้น ปอมมี swoon มีอะไรที่ปอมไม่ได้ตั้งใจแพลนมันอย่างสุด ๆ  ย้อนไปเมื่อห้าปีที่แล้วก็แพลนว่า อีกห้าปีข้างหน้าฉันจะต้องอยู่ Art Basel ในฐานะไฟน์อาร์ติสท์ให้ได้เลย แล้วอยู่วันหนึ่งตื่นมาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป มันไม่ใช่จุดหมายอีกต่อไปแล้ว ปอมสามารถตอบได้แค่ว่าในแต่ปี ปอมตั้งใจว่าจะเป็นคนที่ดีขึ้น และตั้งใจว่าจะทำงานที่มีคุณค่าขึ้น หลัง ๆ มานี้ปอมอยากให้คนพูดถึงว่าปอมเป็นคนดี ไม่ได้อยากให้คนพูดถึงเราแค่เรื่องงานด้วยซ้ำ ปอมว่าจะดีใจมากเลยนะคะ ถ้ามีคนบอกว่าพี่ปอมนิสัยดี พี่ปอมให้คำปรึกษาที่ดี หรือแบบงานพี่ปอมงานนี้มีคุณค่าอยู่ได้อีกสิบปี ปอมอยากได้ฟีดแบคที่สื่อถึงความเป็นมนุษย์ มากกว่างานที่แสดงออกไปอย่างเดียว ถ้าถามเมื่อห้าปีหรือสิบปีที่แล้ว คำตอบก็จะเป็นแบบนั้น ปอมอยากประสบความสำเร็จ เป็นนักภาพประกอบเบอร์ต้น ๆ แต่มันเหมือนเรากำลังวิ่งขึ้นบนบันไดไปเรื่อย ๆ ในหัวมีคำว่า แล้วยังไงต่อ แต่ตอนนี้ปอมมองภาพที่เรา กำลังเดินขึ้นบันไดไปกับทั้งทีม เราไม่ต้องวิ่งขึ้นแบบเมื่อก่อน บางทีเราก็แวะพักขั้นนี้แล้วมองรอบข้างบ้าง มันไม่ต้องวิ่งขึ้นบันไดไปเพื่อพบกับคำว่าแล้วไงต่ออีกแล้ว ”

ถึงตอนนี้ my home ไม่แปลกใจแล้วค่ะว่า ทำไมเรามักจะสัมผัสถึงไอของความสุข รอดผ่านสายเส้นพริ้วไหลเหมือนสายน้ำของเธออยู่เป็นประจำ  ก้าวอีกขั้นของปอมชาน แม้จะไม่หวือหวา แต่มันกลับมั่นคง เรื่องราวการเดินทางตามเส้นดินสอที่เธอร่างและบรรจงตวัดมือลงหมึกทับมันลงไปเป็นร้อย ๆ ครั้ง จากโซโล่อาร์ตติสสู่วันที่มีทีมงานเดินเคียงข้างไป “ เมื่อก่อนบริษัทชื่อ Happy Pomme Studio ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Happy People Studio แล้วค่ะ ” my home ว่าเรารับรู้ถึงความหมายของชื่อสตูดิโอ ที่เธอตัดสินใจเปลี่ยนได้เอง โดยที่ไม่ต้องถามซ้ำ

The post ก้าวอีกขั้นของ Pomme Chan ดีไซน์เนอร์เลือดไทย ที่กำลังมีความสุขกับการค่อยๆ เดิน appeared first on บ้านและสวน.

อาคารดิน+ไม้ไผ่ จากฝีมือชาวบ้านในชุมชนสำหรับเป็นศูนย์บำบัดผู้พิการ

$
0
0

Anandaloy คือศูนย์สำหรับผู้พิการที่มีสตูดิโอขนาดเล็กสำหรับทำงานสิ่งทอรวมอยู่ด้วย ที่นี่โดดเด่นด้วยการก่อสร้างด้วยวัสดุเรียบง่ายอย่าง ดิน และ ไม้ไผ่ ออกแบบโดย Anna Heringer จาก Studio Anna Heringer ซึ่งเธอมีความเชื่อว่า “งานสถาปัตยกรรมคือเครื่องมือที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน” เช่นเดียวกับโปรเจ็กต์อื่น ๆ ของเธอที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป แอฟริกา หรือเอเชีย ซึ่งล้วนแต่ใช้วัสดุหาง่ายในท้องถิ่นเป็นหลัก รวมไปถึงอาศัยฝีมือและแรงงานจากช่างท้องถิ่น

เนื่องจากตัวอาคารทำจากดินเหนียวและ ไม้ไผ่ งบประมาณส่วนใหญ่จึงตกไปอยู่ที่ค่าแรงงานของช่างฝีมือหญิง ตัวอาคารนึ้จึงทำหน้าที่เป็นมากกว่างานสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาในระดับชุมชน
โครงการนี้คือการนำประสบการณ์จาก 5 โครงการที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ นำมาพัฒนาร่วมกับ Montu Ram Shaw ผู้รับเหมาชาวบังกลาเทศ และทีมทำโครงสร้างดินและไม้ไผ่จากในหมู่บ้าน รวมไปถึงผู้พิการบางคนที่ขอเข้ามามีส่วนร่วม สำหรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ของ Studio Anna Heringer นับเป็นกุญแจสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ความรู้ด้านการออกแบบและก่อสร้างได้ถูกส่งต่อไปยังผู้คนและชุมชนอย่างหยั่งรากลึก
บ่อยครั้งที่ความเป็นคนพิการของคนบังกลาเทศมักถูกมองว่าเป็นเพราะพวกเขาถูกลงโทษจากพระเจ้า ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ทำให้พวกเขาต้องอยู่กันอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ และถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตตามลำพัง ในขณะที่คนอื่น ๆ ในบ้านต้องออกไปทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ภายใต้ปัญหาความยากจน พื้นที่สำหรับบำบัดเยียวคนพิการจึงแทบหาได้ยากมาก ยิ่งในพื้นที่ชนบทยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง
ในตอนแรกที่นี่วางแผนให้เป็นเพียงศูนย์บำบัด แต่ในตอนหลังตัดสินใจขยายอาคาร แล้วเพิ่มฟังก์ชันในส่วนของสตูดิโอ Dipdii Textiles ที่อนุญาตให้ช่างตัดเสื้อหญิงในหมู่บ้านได้เข้ามาทำงาน โดยเป็นส่วนหนึ่งและอยู่อาศัยภายใต้การดูแลของ Studio Anna Heringer ที่พยายามผลักดันให้ทุกคนในชุมชนเป็นที่ต้องการและรู้สึกมีคุณค่า ไม่เพียงแต่ผู้พิการเท่านั้น
จุดเด่นของอาคารหลังนี้ คือทางลาดขนาดใหญ่ที่พาดจากชั้นหนึ่ง เอื้อต่อการใช้งานของผู้คนทุกคน แม้ในขณะที่ทำการก่อสร้างจะมีการวิพากษ์วิจารณ์และพูดถึงที่มาที่ไปของทางลาดนี้ รวมไปคำถามว่าจะพัฒนาอาคารให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการใช้งานอย่างเท่าเทียมกันได้อย่างไรก็ตาม แต่เมื่ออาคารแล้วเสร็จสมบูรณ์คำถามเหล่านั้นจึงถูกคลี่คลาย
ตัวโครงสร้างอาคารเลือกใช้ดินเหนียว แม้ว่าจะดูเป็นวัสดุราคาถูกและไม่ทันสมัยเทียบเท่าการก่ออิฐฉาบปูน แต่ผู้ออกแบบเลือกที่จะนำวัสดุดังกล่าวมาใช้อย่างสร้างสรรค์และดูร่วมสมัยขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพื่อแสดงถึงความสวยงามและประสิทธิภาพของดินโคลน ด้วยเทคนิกการก่อสร้างที่โคลนดินสามารถก่อขึ้นรูปได้โดยไม่ต้องมีไม้แบบ ทั้งยังก่อโค้งได้ง่าย ข้ามข้อจำกัดของผนังห้องสี่เหลี่ยมแบบทั่วไปจนหมดสิ้น
          
ผลลัพธ์ที่ได้คืออาคารผนังโค้งที่ไม่เหมือนใคร ดูแตกต่างโดดเด่นจากพื้นที่โดยรอบ ความโค้งของอาคารยังช่วยขับให้อาคารมีชีวิตชีวาและดูพริ้วไหว ส่งสารเป็นนัยว่าอาคารแห่งนี้ เป็นเหมือนสัญลักษณ์ความแตกต่างของมนุษย์ที่ไม่เหมือนกัน และความแตกต่างนี้เองคือความมหัศจรรย์
ออกแบบ: Studio Anna Heringer
ภาพ: Kurt Hoerbst, Benjamin Stähli, Stefano Mori and Studio Anna Heringer

เรียบเรียง: BRL

 อ่านต่อ SON LA RESTAURANT ร้านอาหารสถาปัตยกรรมไม้ไผ่สุดอลังการ

The post อาคารดิน+ไม้ไผ่ จากฝีมือชาวบ้านในชุมชนสำหรับเป็นศูนย์บำบัดผู้พิการ appeared first on บ้านและสวน.

CASA DIQUE LUJÁN บ้านที่ใช้แผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีลอนลูกฟูกตกแต่งจนสวยเด่นมีระดับ

$
0
0

Casa Dique Luján คือ บ้านสังกะสี ที่สร้างขึ้นโดยอ้างอิงลักษณะของสถาปัตยกรรมท้องถิ่นในเขตดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำออกมาอย่างน่าสนใจ ตัวอาคารโดยรวมเลือกใช้แผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีลอนลูกฟูก มุงหลังคาและกรุผนังภายนอกทั่วทั้งหลัง จนออกมาสวยเด่นมีระดับได้อย่างไม่น่าเชื่อ

บ้านสังกะสี พร้อมพื้นที่ใช้สอย 115  ตารางเมตร หลังนี้ เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิกจาก FRAM arquitectos สตูดิโอออกแบบจากอาร์เจนตินา

บ้านสังกะสี

Casa Dique Luján ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีคุณลักษณะโดดเด่น ไม่ไกลจากแม่น้ำ Lujan ในเมือง Dique Luján มากนัก

Dique Luján เป็นเมืองเล็ก ๆ ในกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของประเทศอาร์เจนตินา ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางแถบตอนเหนือซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ Luján และคลอง Villanueva ซึ่งเป็นที่มาของการออกแบบ บ้าน Casa Dique Luján ของ FRAM arquitectos

บ้านสังกะสี

ผู้ออกแบบได้ศึกษาแนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมในแถบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ อันเป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ซึ่งเอื้อต่อการพัฒนาของพืชพันธุ์ในเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ จนได้ข้อสรุปถึงรูปแบบอาคารที่ดูเรียบง่าย แต่สามารถใช้งานได้จริง

บ้านสังกะสี

นอกจากนี้ผู้ออกแบบยังพยายามใช้ประโยชน์จากขนาดของที่ดินและต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ให้เหมาะสมที่สุด ด้วยการแทรกตัวอาคารลงไปบนพื้นที่ให้หันหน้าออกสู่ทิศใต้ แล้วเว้นระยะระหว่างอาคารเพื่อหลบหลีกและอยู่ร่วมกับต้นไม้เดิมได้เเบบไม่ต้องตัดโค่น

พร้อมกันนี้ยังยกพื้นอาคารให้สูงเหนือกว่าระดับน้ำในแม่น้ำที่เคยท่วมสูงสุด 1 เมตร ตัวอาคารประกอบขึ้นด้วยโครงสร้างไม้วางพาดบนคานคอนกรีตเสริมเหล็กที่คอยรับน้ำหนักในส่วนฐานราก ผลลัพธ์ที่ได้คือบ้านน่าอยู่ด้วยวัสดุลูกผสมระหว่างไม้ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักภายใน กับสังกะสีลอนลูกฟูกที่นำมากรุเป็นผนังภายนอกอาคาร

บ้านสังกะสี บ้านสังกะสีบ้านสังกะสี

นอกจากจะทำให้ภาพรวมของอาคารดูกลมกลืนกับธรรมชาติในพื้นที่ ตัวบ้านชั้นเดียวหลังนี้ยังประกอบด้วยมุมพักผ่อนที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดขึ้นจากการออกแบบและแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัว

อาทิ ชานขนาดใหญ่กลางอาคารที่สอดรับกับบันไดทางขึ้นหลักของอาคาร เชื่อมไปสู่ระเบียงด้านหน้าที่ยาวต่อเนื่องจากปีกของอาคารฝั่งหนึ่งไปจรดปีกอาคารอีกฝั่งหนึ่ง

บ้านสังกะสี บ้านสังกะสี

บ้านสังกะสี

บ้านสังกะสี

บ้านสังกะสี

นี่คือบ้านแสนเรียบง่ายที่บ่งบอกเราว่า วัสดุตกแต่งใด ๆ ต่างก็มีเสน่ห์ในตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อได้รับการออกแบบและใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและสร้างสรรค์

บ้านสังกะสี

บ้านสังกะสี บ้านสังกะสี บ้านสังกะสี

บ้านสังกะสี บ้านสังกะสี บ้านสังกะสี

ออกแบบ: FRAM arquitectos โดย David Aliberti
https://framarquitectos.com

เรียบเรียง: ND24

ภาพ: Fernando Schapochnik 
www.fernandoschapo.com

อ่านต่อเรื่องราวใกล้เคียง

HOUSE IN CHAU DOC บ้านสังกะสี ในพื้นที่น้ำท่วม
HOUSE IN CHAU DOC บ้านสังกะสีในพื้นที่น้ำท่วม

The post CASA DIQUE LUJÁN บ้านที่ใช้แผ่นเหล็กเคลือบสังกะสีลอนลูกฟูกตกแต่งจนสวยเด่นมีระดับ appeared first on บ้านและสวน.

10 เมนูจากแผ่นเกี๊ยว ของว่างทำง่าย อร่อยได้ไม่มีเบื่อ

$
0
0

แผ่นเกี๊ยวเป็นวัตถุดิบที่สามารถหยิบมาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ ได้ไม่ยากเลยค่ะ แค่นำไปทำให้สุกด้วยการทอด หรือ นึ่ง และทานคู่กับน้ำจิ้มก็กลายเป็นของว่างที่ใครหลาย ๆ คนติดใจแล้ว เมนูเกี๊ยว

ถ้าซื้อแผ่นเกี๊ยวมาติดตู้เย็นเอาไว้ รับรองว่ากว่าจะหมดห่อนั้น สามารถปรุงเป็นเมนูแปลกใหม่ ไม่ซ้ำแน่นอน เพราะแผ่นเกี๊ยวไม่ใช่ทำได้แค่เมนูเกี๊ยวน้ำ หรือ เกี๊ยวทอดธรรมดา ๆ เพียงเท่านั้น แต่ถ้าจับแผ่นเกี๊ยวมาพลิกแพลงสักหน่อย เพิ่มท็อปปิ้งและองค์ประกอบใหม่ ๆ เข้าไป ก็จะช่วยให้แผ่นเกี๊ยวห่อเดิม ๆ กลายเป็นเมนูทานเล่น จนถึงเมนูทานจริงจังแสนอร่อยได้โดยไม่มีเบื่อเลยค่ะ  ตาม my home ไปดูกันนะคะว่าจะมีเมนูสไตล์ไหน ที่น่าลองทำทานกันบ้าง เมนูเกี๊ยว

1 . พิซซ่าแป้งบางกรอบ

เมนูเกี๊ยว ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://drizzlemeskinny.com

เปลี่ยนแผ่นแผ่นเกี๊ยวธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นพิซซ่าแป้งบางกรอบแสนอร่อยได้ด้วยการนำแผ่นเกี๊ยวมาใช้แทนแป้งพิซซ่า โดยเริ่มจากการนำเกี๊ยวแต่ละแผ่นมาวางลงบนถาดอบพร้อมกับทาน้ำมันลงไปเล็กน้อยก่อนที่จะวางท็อปปิ้งที่ต้องการอย่างไส้กรอก ซีฟู้ด หรือผักต่าง ๆ ลงไป และโรยหน้าด้วยชีสในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อนำไปเข้าเตาอบจนสุกกก็จะได้พิซซ่าแป้งบางกรอบชิ้นกะทัดรัดที่ทานที่ได้ง่ายสุด ๆ

 

2 . เกี๊ยวอบชีส

ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://www.thereciperebel.com

หลาย ๆ คนอาจชินกับการนำแผ่นเกี๊ยวมาทอดเป็นแผ่นหรือห่อแล้วนำไปลวก แต่แผ่นเกี๊ยวนี้สามารถเสิร์ฟในรูปแบบที่ต่างออกไปโดยการทำเป็นถ้วยได้ด้วยนะคะ โดยอุปกรณ์ที่จะมาเป็นตัวช่วยของเราก็คือถาดอบแบบหลุมนั่นเอง แค่วางแผ่นเกี๊ยวลงไปและจัดให้ได้ทรงพร้อมกับทาน้ำมันบาง ๆ ก่อนที่จะวางท็อปปิ้งอย่างผักโขม แฮม ปูอัดและชีสลงไป เมื่ออบจนได้ที่และนำออกมาก็จะเป็นของว่างที่ได้ทั้งความกรุบกรอบจากเกี๊ยวและท็อปปิ้งเต็มคำที่คลุกไปด้วยชีสหอมมัน

SAY CHEESE!!! กับชีสแผ่น 7 ชนิดในซุปเปอร์มาร์เก็ต

 

3 . เกี๊ยวดริปสลัด

เมนูเกี๊ยว ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://jeanetteshealthyliving.com

ใครที่ยังคงชื่นชอบความกรอบและทานง่ายของเกี๊ยวทอดที่เป็นแผ่นบาง ๆ แบบดั้งเดิม สามารถเพิ่มประโยชน์เข้าไปด้วยการลองนำเกี๊ยวทอดมาทานคู่กับดริปสูตรต่าง ๆ ที่ไม่ใช่เพียงแค่น้ำจิ้มได้นะคะ อย่างการทำซัลซ่าหรือทูน่าสลัดง่าย ๆ จากผักสดในตู้เย็น แล้วนำมาโปะบนเกี๊ยวทอดแทนแผ่น chips รับรองว่าเกี๊่ยวกรอบ ๆ ตัดกับสลัดผักรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ก็อร่อยไม่แพ้น้ำจิ้มสูตรดั้งเดิมแน่นนอน

 

4 . Ravioli ไข่แดง

ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
http://melinaphotos.blogspot.com

ถ้าพูดถึงพาสต้าอีกรูปแบบที่โดดเด่นไม่เหมือนใครเพราะมีความพิเศษจากการสอดไส้ด้านในก็ต้องนึกถึง Ravioli ค่ะ โดยเราจะมาใช้แผ่นเกี๊ยวทำพาสต้ารูปแบบนี้กันบ้าง สำหรับไส้ที่ทำง่ายและนำไปทานคู่กับซอสพาสต้าได้อร่อยลงตัวแทบทุกสูตรก็ต้องเป็นไส้ไข่แดงเลย วิธีการทำนั้นก็แค่แยกไข่แดงออกมาและค่อย ๆ ตักไปวางลงบนแผ่นเกี๊ยว ในขั้นตอนนี้ต้องประคองแผ่นเกี๊ยวอย่างระวังเลยนะคะ ไม่ก็อาจใช้ภาชนะเล็ก ๆ มาเป็นตัวช่วยวางรองด้านล่างแทน เสร็จแล้วให้นำเกี๊ยวอีกแผ่นปิดทับลงไปและกดรอบ ๆ จนปิดสนิทและนำไปลวกพอสุกก็ให้ตักขึ้นทันที เมื่อนำมาราดซอสพาสต้าและหั่นออกมาก็จะได้ Ravioli รสละมุนจากไข่แดงเยิ้ม ๆ ที่เข้ากันกับซอสอย่างตัว
มารู้จักกับ 5 ซอสพาสต้ายอดนิยม รู้เอาไว้ไม่มีสับสน

Types Of PASTA รู้จักเส้นพาสต้ากันเถอะ

 

5 . เกี๊ยวโรลสอดไส้

เมนูเกี๊ยว ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://life-in-the-lofthouse.com

มาเพิ่มคุณประโยชน์ให้เมนูเกี๊ยวด้วยการสอดไส้สารพัดวัตถุดิบให้เคี้ยวได้เต็มคำกันค่ะ ซึ่งเมนูนี้จะคล้ายกับการทำปอเปี๊ยะทอดเลย โดยตัวไส้นั้นสามารถใช้ได้ทั้งวุ้นเส้น แครอท ข้าวโพด กะหล่ำปลี หรือผักชนิดอื่น ๆ รวมทั้งเนื้อสัตว์บดมาผสมรวมกันและปรุงรส เมื่อตักใส่ลงบนแผ่นเกี๊ยวและม้วนให้เรียบร้อยแล้วถ้าไม่อยากนำไปทอดในน้ำมันก็สามารถทาน้ำมันบาง ๆ และนำไปเข้าเตาอบหรือหม้อทอดไร้น้ำมันให้เป็นเมนูเกี๊ยวโรลสอดไส้แบบคลีน ๆ ได้เลยค่ะ

 

6 . เกี๊ยวทอดหน้ากุ้ง

เมนูเกี๊ยว ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://www.ingoodflavor.com

เกี๊ยวทอดธรรมดาต้องชิดซ้ายถ้าได้มาเจอกับเกี๊ยวทอดหน้ากุ้ง! เพราะความบางกรอบที่เป็นจุดเด่นของเกี๊ยวทอดนั้นก็ยังมาเต็ม แต่ความพิเศษของเมนูนี้คือเนื้อกุ้งเน้น ๆ ที่เป็นท็อปปิ้งโปะหน้านั่นเองค่ะ แค่ก่อนจะนำเกี๊ยวลงไปทอดตามปกติ ให้นำเนื้อกุ้งและหัวหอมมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ คลุกกับไข่ไก่ให้พอเหนียวและปรุงลงด้วยเกลือพริกไทย จากนั้นจึงตักใส่ลงบนแผ่นเกี๊ยวและนำลงไปทอด เมื่อเกี๊ยวสุกได้ที่จนเหลืองกรอบก็ตักมาเสิร์ฟมาเป็นของว่างได้เลย
การละลายอาหารแช่แข็งประเภทต่าง ๆ เพื่อคงรสชาติและคุณค่าทางสารอาหาร

 

7 . กุ้งระเบิดชุบเกี๊ยวกรอบ

ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://rasamalaysia.com/

เมนูนี้เราจะใช้เกี๊ยวมาเป็นตัวช่วยเพิ่มความกรุบกรอบให้กับลูกชิ้นกุ้งระเบิดแทนขนมปังขาวกันค่ะ ซึ่งตัวลูกชิ้นกุ้งด้านในก็จะใช้สูตรตามปกติเลย นั่นคือเนื้อกุ้งบด 100 กรัม ผสมมันหมูบดอีกครึ่งหนึ่ง และทำให้จับตัวกันโดยเติมไข่ขาวและแป้งมันลงไปอีกอย่างละ 1 ช้อนชา โขลกกระเทียม รากผักชีผสมเข้าไปเพื่อเพิ่มความหอม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยอีกนิดก่อนจะปั้นให้เป็นลูกกลม ๆ ขนาดพอประมาณ สุดท้ายให้จับมาคลุกกับแผ่นเกี๊ยวที่ตัดเป็นเส้นเล็ก ๆ เตรียมเอาไว้ และนำลงไปทอดจนสุกให้ออกมาเป็นกุ้งระเบิดชุบเกี๊ยวกรอบที่อร่อยได้เต็มปากเต็มคำ!
6 น้ำมันสกัดจากพืช ที่มีสรรพคุณทั้งภายในและภายนอก

 

8 . ทาโก้เกี๊ยวกรอบ

เมนูเกี๊ยว ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://ambersimmons.com

ถึงไม่มีแป้งทาโก้ก็ไม่เป็นไรเพราะเมนูทาโก้สูตรนี้สามารถใช้แผ่นเกี๊ยวแทนได้ค่ะ สัมผัสที่ได้ก็จะคล้ายทาโก้แป้งกรอบ โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้ก็จะมีส่วนของแผ่นเกี๊ยว เนื้อสัตว์หั่นชิ้นเล็กปรุงสุก สุดท้ายคือผักต่าง ๆ อย่างมะเขือเทศ กะหล่ำและแครอทหั่นฝอย ซึ่งขั้นตอนที่สำคัญของเมนูนี้อยู่ที่การทอดหรืออบแผ่นเกี๊ยวให้อยู่ในลักษณะพับครึ่งนั่นเอง ถ้าหากใช้การอบก็ให้ทาน้ำมันและและวางแผ่นเกี๊ยวพาดลงไปบนขอบถาดหรือภาชนะสำหรับอบก่อนนำเข้าเตา แต่ถ้าทอดในกระทะก็อาจต้องใช้ไม้คีบอาหารสัก 2 อัน มาช่วยจับให้ได้รูปทรงที่ต้องการค่ะ เมื่อเตรียมวัตถุดิบทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยที่เหลือก็แค่ตักเนื้อสัตว์และผักลงในเกี๊ยว ปิดท้ายด้วยการบีบซอสลงไปก็เป็นอันพร้อมเสิร์ฟ

 

9 . ชีสสติ๊ก

ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://www.cheaprecipeblog.com

อีกเมนูที่อร่อยลงตัวทั้งกรอบมันเคี้ยวเพลินและทำง่ายสุด ๆ ก็ต้องยกให้ชีสสติ๊กจากแผ่นเกี๊ยวเลย! หากต้องการทานเมื่อไรแค่หยิบแผ่นเกี๊ยวออกมา วางเชดด้าชีสแบบแท่งที่เตรียมไว้ลงไป และลงมือม้วนให้เป็นแท่งยาว ๆ ชีสที่สอดไส้ด้านในจะค่อย ๆ ละลายเมื่อนำไปทอดในน้ำมัน หลังจากนำไปทอดจนสุกได้ที่และตักขึ้นเสิร์ฟ เมื่อกัดเข้าไปก็จะพบกับชีสเยิ้ม ๆ ที่หอมมันอยู่ภายในเกี๊ยวแท่งทอดกรอบ ยิ่งถ้าได้ซอสสูตรโปรดที่ทานคู่กับของทอดเป็นประจำด้วยแล้วก็ยิ่งอร่อยจนหยุดไม่ได้เลยล่ะค่ะ

 

10 . เกี๊ยวทอดไส้ช็อกโก้บานาน่า

เมนูเกี๊ยว ของกินเล่นจากเกี๊ยว ไอเดียอาหารว่าง ห่อเกี๊ยว แผ่นเกี๊ยว
https://www.justataste.com

การสร้างสรรค์เมนูจากแผ่นเกี๊ยวไม่จำเป็นต้องอยู่ในหมวดอาหารคาวเสมอไป แต่ยังนำมาทำเป็นของหวานทานเล่นได้ แค่เปิดตู้เย็นและหยิบวัตถุดิบง่าย ๆ อย่างช็อกโกแลตแท่งกับกล้วยสักลูกออกมา ก็สามารถทำเมนูเกี๊ยวทอดสอดไส้ช็อกโก้บานาน่าได้แล้ว โดยอันดับแรกให้ตัดช็อกโกแลตเป็นชิ้นพอเหมาะและวางลงไปบนแผ่นเกี๊ยว ตามด้วยกล้วยสไลด์ เสร็จแล้วให้ทาน้ำเปล่ารอบ ๆ พร้อมทั้งนำเกี๊ยวอีกแผ่นมาวางปิดลงไปให้สนิท เมื่อทอดจนเหลืองกรอบได้ที่จึงค่อยตักขึ้นมาเสิร์ฟ เป็นเกี๊ยวทอดที่กัดออกมาแล้วจะพบกับความหวานฉ่ำลงตัวจากทั้งกล้วยและช็อกโกแลตเต็มคำ

story : Kamonchanok.L


4 วิธีห่อเกี๊ยวให้น่ารักน่ากิน

ทำบะหมี่เย็นแบบง่าย ๆ ด้วยเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน !

เส้น(ก๋วยเตี๋ยว)ศึกษา เรื่องราวของเส้นสำหรับคนชอบกินเส้น

The post 10 เมนูจากแผ่นเกี๊ยว ของว่างทำง่าย อร่อยได้ไม่มีเบื่อ appeared first on บ้านและสวน.

หนึ่งวันสุดคุ้มในสวนพฤกษศาสตร์ทวีชล จังหวัดเชียงใหม่

$
0
0

นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ ผมจึงเริ่มหาข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนรักต้นไม้ที่น่าสนใจประเภทสวนพฤกษศาสตร์หรือเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติที่หลายคนยังไม่เคยไปเยือนมาก่อน ทำให้ผมได้ทราบว่านอกจากสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์และโครงการหลวงต่างๆในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังมีสวนพฤกษศาสตร์อีกที่หนึ่งที่คนเชียงใหม่คุ้นเคยเป็นอย่างดีอย่าง สวนทวีชล

ในช่วงเช้าที่นี่จะมีบริการให้เช่าบอลลูนเพื่อให้ชมทัศนียภาพในมุมสูงของสวนทวีชลและอำเภอดอยสะเก็ด
กลุ่มต้นไม้ที่พบเห็นได้ทั่วทั้งบริเวณสวนทวีชลคือปรงและปาล์มที่มีตกแต่งอยูในสวนกว่า 100 ชนิดมีทั้งที่นำมาจากในประเทศไทย ประเทศในอเมริกาใต้ และหมู่เกาะต่างๆ
กระโจมกล้วยไม้โดดเด่นไปด้วยสีสันจากกล้วยไม้ป่าโดยเฉพาะตระกูลแวนด้าลูกผสม ปลูกให้อิงอาศัยกับตอไม้ใหญ่คู่กับเฟินและมอสส์เหมือนในธรรมชาติ
กระโจมน้ำตกจำลองระบบนิเวศในป่าร้อนชื้นที่มักมีน้ำตกและความชื้นมากส่งผลให้ต้นไม้ที่ชื่นชอบความชื้นอย่างปาล์มไพลิน หนวดปลาหมึก หมากแดงและเฟินขนิดต่างๆเจริญเติบโตได้ดี

 

ไม่แปลกใจที่คนเชียงใหม่จะรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี เพราะที่นี่ได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่พ.ศ. 2548 และยังคงปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์อยู่เสมอ โดยสวนพฤกษศาสตร์ทวีชล หรือที่คนเชียงใหม่เรียกกันสั้นๆว่า สวนทวีชล ตั้งอยู่ริมถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด หลักกิโลเมตรที่ 10-11 บนพื้นที่ทั้งหมด 302 ไร่ ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่โรงแรม Horizon Village & Resort ซึ่งนอกจากจัดเป็นสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจที่ดูสวยงามแล้วยังเป็นสถานที่ที่เปิดให้จัดกิจกรรมอื่นอีกมากมาย อาทิ ขึ้นบอลลูน จัดเลี้ยง รับประทานอาหาร สนามเด็กเล่น สวนสัตว์ขนาดเล็ก ปั่นจักรยานและเรียนรู้เรื่องพรรณไม้ไปด้วยในตัว ซึ่งเหมาะมากกับการพาเด็กๆหรือคนเป็นหมู่คณะเข้ามาทำกิจกรรมและเรียนรู้ตามฐานต่างๆทั่วโครงการ

คุณทวีศักดิ์ เสสะเวช ผู้ก่อตั้งสวนพฤกษศาสตร์ทวีชลแห่งนี้ขึ้นด้วยความตั้งใจให้ที่นี่เป็นเส้นขอบฟ้าของชีวิตที่ต้องการสร้างประโยชน์คืนให้สังคมโดยไม่หวังผลกำไร
กระโจมเฟินรวบรวมเฟินหลายชนิด อาทิทั้งเฟินนาคราช เฟินหางไก่แอฟริกัน เฟินอินเดียใบด่าง เฟินข้าหลวงหลังลายและเฟินก้านดำบราซิล

ผมมีโอกาสได้ทำความรู้จักและพูดคุยกับผู้ก่อตั้งสถานที่แห่งนี้คือ คุณทวีศักดิ์ เสสะเวช อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในวัย 84 ปี แต่ท่านยังแข็งแรงและได้เล่าถึงที่มาของสวนแห่งนี้ว่า “ผู้สูงวัยส่วนใหญ่ก็มักเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ไปท่องเที่ยว หรือตีกอล์ฟ ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมชอบอะไรที่เรียบง่าย เพราะผมอยู่กับเกษตรกรมาก่อน มันน่าจะมีพื้นที่หนึ่งสำหรับทำสวนเพื่อเป็นแปลงสาธิต จุดประสงค์ของสวนทวีชลเราคือศูนย์เรียนรู้ ในชีวิตการทำงานและดำรงตำแหน่งมากมายอย่างยาวนาน ผมตั้งปณิธานชีวิตไว้ว่าเมื่อผมเกษียณแล้ว เรายังจะสามารถทำอะไรให้สังคม สวนทวีชลมาจากชื่อผมและภรรยารวมกันคือทวีศักดิ์และชลางค์ นอกจากสวนใช้พักผ่อนแล้วผมอยากให้คนที่เข้ามาโดยเฉพาะเกษตรกรสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดและสร้างประโยชน์ให้ตนเองและสังคมต่อไป”

กระโจมกระบองเพชรและไม้อวบน้ำมีการคลุมหลังคาโปร่งแสงเพื่อป้องกันความชื้นโดยเฉพาะในช่วยที่ฝนตกติดกันเป็นระยะเวลานาน โดยปลูกต้นไม้ประเภทอากาเว่ไว้รอบนอกเนื่องจากทนต่อความชื้นจากละอองน้ำได้ดีที่สุด

ซึ่งไฮไลต์คงหนีไม่พ้นพื้นที่ประโจมที่รวบรวมพรรณไม้ชนิดต่างๆที่แบ่งเป็นหมวดหมู่ให้เข้าชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก แบ่งเป็น 4 กระโจม กระโจมแรกประกอบไปด้วยต้นไม้ป่าอย่างต้นกล้วยไม้ป่าและสับปะรดสีชนิดต่างๆ ภายในกระโจมที่สองเป็นน้ำตกจำลองแบบป่าร้อนชื้นรายล้อมด้วยต้นเฟิน ปาล์ม และไม้ใบต่างๆ มีฝูงปลาคราฟท์แหวกว่ายไปมาอยู่ในบ่อด้านล่างน้ำตก ส่วนกระโจมสามเต็มไปด้วยไม้ใบชนิดต่างๆ เช่น ฟิโลเดนดรอน เฟิน ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง รองเท้านารี อโกลนีมา และหน้าวัวใบ และกระโจมที่สี่ซึ่งเต็มไปด้วนพวกแคคตัสและไม้อวบน้ำ จำนวนกว่า 200 ชนิด อาทิ พาชี่โพเดี่ยม (Pachypodium geayi) ถังทอง (Echinocactus grusonii hildm) กลีบมะเฟือง (Notocactus magnificus (Ritt) Karainz) และเฟโรฟ้าไร้หนาม (Ferocactus glaucescens v. inermis)

นอกจากต้นไม้ประเภทแคคตัสแล้ว ยังมีต้นไม้อวบน้ำชนิดต่างๆ  เช่น ว่านหางจระเข้ อากาเว่ และยูโฟร์เบีย

คุณออมสิน-นันทนิตย์ เสสะเวช รองกรรมการผู้จัดการ โรงแรม Horizon Village Resort เชียงใหม่ และ คุณตี๋-ธรรมนูญ  ศรีสุวรรณ ผู้จัดการสวนพฤกษศาสตร์ทวีชลได้เล่าถึงการบำรุงต้นไม้ในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ที่มีปริมาณขยะจากต้นไม้เป็นจำนวนมาก จึงนำไปสู่การเน้นใช้ปุ๋ยชีวภาพและปุ๋ยหมักจากใบไม้ใบหญ้าที่ร่วง สำหรับกิ่งก้านต้นไม้ขนาดเล็กหรือใบปาล์มก็ใช้เครื่องมือเพื่อหั่นย่อยให้เป็นชิ้นเล็ก แล้วนำมาหมักเป็นกองร่วมกับขี้เถ้าแกลบและน้ำหมักชีวภาพทำให้ย่อยสลายเร็วขึ้น ส่วนกิ่งก้านต้นไม้ที่ถูกตัดแต่งใบจะถูกนำมาเผาในรูปแบบของการได้ผลิตผลเพื่อนำมาเผาเป็นถ่านต่อไป เป็นการลดการเผาในที่โล่งแจ้ง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยทำเป็นเตาเผาถ่านแบบไร้ควันและทำน้ำส้มควันไม้ โดยไม่ให้เกิดความเดือดร้อนต่อชุมชน

สวนดอกไม้ประดับอย่างแซลเวียสีแดงปลูกเป็นแถวคู่กับต้นชาดัดและสวนหินสำหรับเป็นจุดถ่ายภาพ
ไม้ตัดแต่งอย่างประณีตต้องอาศัยการตัดเล็มในทุกอาทิตย์ หลังจากตัดแต่งจะนำกิ่งไม้และใบไปเป็นปุ๋ยหมักต่อไป

ที่นี่ยังมีสวนสัตว์ขนาดเล็กสำหรับให้ผู้ที่มาเข้าชมได้เข้าไปทำความรู้จักและให้อาหาร เช่น อูฐโหนกเดียว นกกระจอกเทศ กวางป่า กวางม้า และกวางรูซา

ตั้งแต่เช้าผมออกมาชมบอลลูนขึ้นเหนือท้องฟ้า เดินจนรอบสวนพฤกษศาสตร์ พูดคุยและเรียนรู้เรื่องการปลูกและดูแลต้นไม้ชนิดต่างๆ และพักผ่อนในโรงแรม ในสถานที่ที่ใหญ่โต ครบครันและสวยงามคงเกิดไม่ได้หากขาดความรักในธรรมชาติของผู้เป็นเจ้าของ แต่เหนือสิ่งอื่นใดสถานที่นี้ยังเลือกอยู่กับความเป็นจริงและปรับตัวได้ดีด้วยเช่นกัน ในวิกฤตโควิด-19 ที่เราเจอเข้ากับปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่า ปัจจุบันสวนพฤกษศาสตร์ทวีชลได้เริ่มกิจการเพาะขายต้นไม้และแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลผลิตจากต้นไม้ในสวนเพื่อชดเชยรายได้จากการท่องเที่ยวที่หายไป ซึ่งยังต้องเลี้ยงพนักงานและคนในชุมชนรอบๆให้อยู่ได้ด้วยตนเอง ที่นี่ทำให้ผมรู้สึกได้ว่าต้นไม้เป็นสินทรัพย์ที่มีค่ามากยิ่งขึ้น เพราะมันไม่เคยทำให้เราอดตาย ยิ่งนานวันยิ่งโต ยิ่งผลิดอกออกผลและให้คุณกับเราเสมอ

บริเวณด้านสวนจัดจำหน่ายต้นไม้ที่เพาะจากแม่พันธุ์ในสวนทั้งแคคตัส ไม้ใบ ไม้อวบน้ำ นอกจากนั้นยังมีบริการสั่งซื้อออนไลน์และส่งทั่วประเทศอีกด้วย สามารถติดต่อและเข้าชมสินค้าได้ที่ https://www.facebook.com/tweecholandthetrees

ต้นไม้ใบ

ผักและสมุนไพรภายในสวนพฤกษศาสตร์และจากที่พนักงานปลูกเองส่วนหนึ่งจะนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารและแปรรูปสำหรับบริการลูกค้าที่มาใช้บริการในห้องอาหารต่างๆของโรงแรม

สถานที่ : สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล เชียงใหม่ เลขที่ 118 หมู่ที่ 7 เชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 0-5329-2381-5 และ 08-1443- 9499

www.tweecholbotanicgarden.com

เรื่อง : ปัญชัช

ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข

 

สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

ห้องทดลองในสวนพฤกษศาสตร์

I Love Flower Farm ฟาร์มดอกไม้สุดอลังการ

The post หนึ่งวันสุดคุ้มในสวนพฤกษศาสตร์ทวีชล จังหวัดเชียงใหม่ appeared first on บ้านและสวน.

Viewing all 9929 articles
Browse latest View live